ปัจจัยในการกำหนดนโยบาย จำแนกได้ 2 ประการ คือ ปัจจัยที่เป็นองค์ประกอบพื้นฐาน และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม
1.
ปัจจัยที่เป็นองค์ประกอบพื้นฐาน (Fundametal Factors)
หมายถึง สิ่งใดๆ
ที่ผู้มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายจะต้องคำนึงถึงตลอดเวลา
เพราะหากไม่คำนึงถึงแล้ว
นโยบายที่กำหนดขึ้นจะเป็นนโยบายที่ไม่สามารถปฏิบัติได้
หรือไม่นโยบายที่ขาดความถูกต้องสมบูรณ์
อันจะเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหา อุปสรรค
และความยุ่งยากในการปฏิบัติให้นโยบายนั้นบรรลุเป้าหมาย
ปัจจัยที่เป็นองค์ประกอบพื้นฐานในการกำหนดนโยบายรวมเป็นกลุ่มที่สำคัญได้
3 กลุ่ม คือ
1.1
ปัจจัยที่เกี่ยวกับผลประโยชน์
ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดนโยบายใดก็ตาม
ผู้กำหนดนโยบายจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ขององค์การเป็นสำคัญในลักษณะที่เป็นการกำหนดให้องค์การได้รับผลประโยชน์มากที่สุด
หรือสูญเสียผลประโยชน์อันพึงได้น้อยที่สุด
ผลประโยชน์ขององค์การหรือหน่วยงานจะมีความผูกพันกับผลประโยชน์หรือความต้องการของบุคคลในองค์การเป็นอย่างมาก
ฉะนั้นการกำหนดนโยบายจะต้องมีลักษณะที่เป็นการตอบสนองความต้องการของบุคคลส่วนใหญ่ในองค์การหรือหน่วยงานนั้นองค์การธุรกิจเอกชนปัจจัยมี่เป็นผลประโยชน์
ได้แก่ กำไร ค่าตอบแทนต่างๆ และรวมทั้งชื่อเสียง
เกียรติภูมิที่องค์การและบุคคลในองค์การได้รับ
ในองค์การที่เป็นรัฐบาลหรือปนะเทศชาติ
ปัจจัยที่เป็นผลประโยชน์ร่วมของคนทั้งชาติ คือ ความอยู่ดีกินดี
มีความสุขของประชาชน ความมั่นคงในเอกราช
ประชาธิปไตย เศรษฐกิจ การเมือง และสังคม
1.2
ปัจจัยที่เกี่ยวกับผู้กำหนดนโยบาย วิธีการ
หรือกระบวนการในการดำเนินนโยบาย โดยลักษณะเช่นนี้
ผู้กำหนดนโยบายจะต้องรู้ตนเองว่าผู้ที่มีความรู้ความสามารถหรือไม่
เพราะหากขาดความรู้ความสามารถและความเข้าใจอย่างแท้จริงในการกำหนดนโยบายแล้ว
นโยบายที่กำหนดขึ้นอาจบกพร่องหรือขาดหลักการที่สำคัญ
ผู้ที่ทำหน้าที่ในการกำหนดนโยบายควรมีความรู้ความเข้าใจอย่างน้อย 2
ประการ คือ ความรู้ความเข้าใจในเรื่องวิธีการกำหนดนโยบาย
และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ
ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบาย
นโยบายที่กำหนดขึ้นจะต้องมีความเหมาะสม
มีความเป็นเหตุเป็นผล และมีความถูกต้อง
จึงถือว่าเป็นนโยบายที่สามารถนำไปปฏิบัติได้
1.3
ปัจจัยที่เกี่ยวกับข้อมูลและเอกสารต่างๆ
ในการกำหนดนโยบายหากข้อมูลหรือเอกสารที่ได้ขาดข้อเท็จจริงย่อมทำให้นโยบายมีความผิดพลาด
และการนำเอานโยบายที่ผิดพลาดไปปฏิบัติย่อมก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์การและหน่วยงานอย่างที่สุด
อาจทำให้องค์การหรือหน่วยงานถึงแก่กาลวิบัติ
ฉะนั้นผู้ที่กำหนดนโยบายจะต้องพยายามกรองข่างสาร
ข้อมูลที่ได้อย่างละเอียดรอบคอบ พิจารณาอย่างลึกซึ้ง
ไม่พยายามที่กำหนดนโยบายโดยใช้ข้อมูลที่ปราศจากข้อเท็จจริง
หรือเป็นข้อมูลที่ปรุงแต่งขึ้นเองเพื่อให้นโยบายอยู่ในลักษณะเป็นการสร้างวิมานในอากาศ
ที่มา : ประชุม รอดประเสริฐ.(2535). นโยบายและการวางแผน.คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.
ไม่มีความเห็น