ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
เรียบเรียงโดย ศศิธร ชิดนายี
ประชากร (Population) หมายถึง
สมาชิกทั้งหมดที่อยู่ในกรอบที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการวิจัย
กลุ่มตัวอย่าง (sample) หมายถึง
สมาชิกส่วนหนึ่งของประชากร
กลุ่มตัวอย่างที่ดีจะมีลักษณะที่สำคัญของประชากร
การเลือกกลุ่มตัวอย่างที่ดีจึงมีความสำคัญ
เพราะผลการศึกษาจะสามารถอ้างอิงไปสู่ประชากรได้
ลักษณะของประชากร
- มีความเป็นเอกพันธ์ (Homogeneous)
- วิวิธพันธ์ (Heterogeneous) มีความแตกต่างกัน หลากหลาย เช่น
ต่างอายุ ศาสนา เพศ
การสุ่มกลุ่มตัวอย่าง (Sampling)
เป็นกระบวนการที่ทำให้ได้ตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของประชากร
อธิบายให้ชัดเจนว่ากลุ่มตัวอย่างได้มาอย่างไร
สมาชิก (element) หมายถึง บุคคลหรือสิ่งที่ใช้เป็นหน่วยในการสุ่ม
เช่น คนแต่ละคน
หน่วยการสุ่ม (sampling unit) หมายถึง
สมาชิกหรือกลุ่มสมาชิกที่รวมอยู่ในประชากร
กรอบการสุ่ม (sampling frame) หมายถึง
บัญชีรายชื่อของหน่วยการสุ่มทั้งหมด
ในการเลือกกลุ่มตัวอย่างจะมีหลักการสุ่มตัวอย่างเพื่อให้เป็นตัวแทนที่ดีของประชากร
ได้แก่ สมาชิกเป็นตัวแทนที่ดีของประชากร
มีคุณลักษณะสำคัญเหมือนประชากร
สมาชิกทุกหน่วยมีโอกาสได้เป็นกลุ่มตัวอย่างเท่าเทียมกัน
และกลุ่มตัวอย่างควรมีขนาดใหญ่เพียงพอ
ซึ่งอาศัยเทคนิคในการสุ่มตัวอย่าง
- อาศัยความน่าจะเป็น (probabilistic sampling)
เป็นวิธีการที่สมาชิกทุกหน่วยมีโอกาสเป็นกลุ่มตัวอย่างเท่ากัน
- ไม่อาศัยความน่าจะเป็น (non- probabilistic sampling)
จะเลือกเฉพาะสมาชิกที่มีคุณสมบัติตรงตามปัญหาวิจัย
มีการตั้งกฎเกณฑ์ในการคัดเลือก เช่น อายุ ระดับการศึกษา
เป็นการสุ่มโดยบังเอิญ การสุ่มแบบโควตา การสุ่มตัวอย่างเฉพาะเจาะจง
การสุ่มกลุ่มตัวอย่างตามสะดวก
และการสุ่มตัวอย่างแบบสโนว์บอลล์
เทคนิคการสุ่มโดยอาศัยความน่าจะเป็น
-
สุ่มอย่างง่าย
(simple random
sampling) ประชากรควรเป็นอกพันธ์
สมาชิกทุกหน่วยมีโอกาสเท่าเทียมกัน เช่น การจับฉลาก
หรือใช้ตารางเลขสุ่ม ก่นใช้ต้องรู้ว่าประชากรมีเท่าไหร่
และต้องการกลุ่มตัวอย่างจำนวนเท่าไหร่ ถ้าเกิน 50 ควรใช้ตารางเลขสุ่ม
ในการใช้ตารางเลขสุ่มนั้นตารางเลขสุ่มที่ดีต้องได้รับการพิสูจน์มาก่อนใช้ว่าเป็นตารางที่ดี
ในการใช้ตารางมีวิธีการคือ ต้องมี กรอบการสุ่ม (sampling
frame)ของสมาชิกทุกคน ให้หมายเลขกับประชากร กำหนดจุดเริ่มต้น
กำหนดวิธีอ่านว่าจะอ่านทีละบรรทัดหรือกี่ตัว ไปทางไหน
อ่านตามวิธีที่กำหนด
-
สุ่มเป็นระบบ (systematic random
sampling ) ควรใช้กับประชากรเป็นอกพันธ์
มีการเรียงตามระบบหรือตามธรรมชาติ วิธีการคือ
กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างที่ต้องการ
หาระยะห่างโดยนำจำนวนประชากรตั้งหารด้วยขนาดของกลุ่มตัวอย่าง เช่น
ต้องการกลุ่มตัวอย่าง 5 หน่วยจากประชากร 100 หน่วย ให้นำ 5 มาหาร 100
จะได้เท่ากับ 20 คือเป็นระยะห่างหมายความว่านำสมาชิกที่ห่างทุก 20
หน่วย
การใช้วิธีการสุ่มอย่างมีระบบจะทำให้มีการกระจายประชากรในพื้นที่
ในการสุ่มเป็นระบบนี้โอกาสถูกเลือกของตัวอย่างไม่เป็นอิสระจากกัน
เพราะเมื่อตัวอย่างแรกถูกสุ่มแล้ว
ตัวอย่างหน่วยอื่นก็จะถูกกำหนดให้เลือกตามมาโดยอัตโนมัติ
-
การสุ่มแบบยกกลุ่ม (cluster
random sampling)
ประชากรมีความเป็นกลุ่มตามธรรมชาติและมีความหลากหลาย เช่น
ในการศึกษาประชากรมัธยมศึกษาตอนต้น ประกอบด้วยชั้น ม.1 จำนวน 10 ห้อง
ม.2 จำนวน 10 ห้อง ม.3 จำนวน 15 ห้อง เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยเลือกชั้น
ม.1 จำนวน 2 ห้อง ม.2 จำนวน 2 ห้อง ม.3 จำนวน 3 ห้อง
อาจใช้การสุ่มอย่างง่ายหรือการสุ่มเป็นระบบมาช่วย
นักเรียนแต่ละห้องเรียนจะเป็นกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดที่มีความหลากหลายในเพศ
สติปัญญา ระหว่างห้องมีความคล้ายคลึงกัน
สิ่งที่ควรคำนึงถึงการสุ่มแบบกลุ่ม มีดังนี้
-ความแตกต่างของลักษณะที่จะศึกษาระหว่างกลุ่ม (cluster) มีไม่มาก
หรือมีความเป็นเอกพันธ์
-ขนาดของแต่ละกลุ่มเท่ากันหรือแตกต่างกันไม่มาก
จะทำให้การประมาณค่าพารามิเตอร์ จะมีลักษณะไม่อคติมากกว่า
-ขนาดของกลุ่ม (cluster)
ไม่มีคำตอบว่าจำนวนหน่วยตัวอย่างที่ศึกษาในแต่ละกลุ่ม แน่นอน
ขึ้นอยู่กับคำถามการวิจัยและความยากง่ายในการเก็บข้อมูล
-
การสุ่มแบบแบ่งชั้น (stratified random
sampling)ในการวิจัยโดยใช้การสุ่มแบบนี้เหมาะกับงานวิจัยที่สนใจความแตกต่างระหว่างกลุ่มย่อย
ประชากรมีความแตกต่างกัน แบ่งเป็นชั้นหรือพวก
ในแต่ละชั้นมีความเป็นเอกพันธ์ ระหว่างชั้นมีความแตกต่างกัน
จำนวนสมาชิกในกลุ่มย่อยจะถูกกำหนดให้เป็นสัดส่วน (proportion)
ตามสัดส่วนที่ปรากฏในประชากร เช่น ประชากรเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
1-6 กลุ่มตัวอย่างต้องมีครบทุกชั้นปี แล้วแบ่งตามสัดส่วนเสมอ เช่น
เพศชาย อายุ
เพศ
|
ประชากร
|
กลุ่มตัวอย่าง
|
ชาย
|
120
|
60
|
หญิง
|
100
|
50
|
รวม
|
220
|
110
|
ต้องการกลุ่มตัวอย่าง 25 %
เพศ/อายุ
|
น้อยกว่า 20 ปี
|
20 ปีขึ้นไป
|
รวม
|
จำนวน
|
กลุ่มตัวอย่าง 25 %
|
จำนวน
|
กลุ่มตัวอย่าง 25 %
|
จำนวน
|
กลุ่มตัวอย่าง 25 %
|
ชาย
|
80
|
20
|
130
|
33
|
210
|
53
|
หญิง
|
100
|
25
|
200
|
50
|
300
|
75
|
รวม
|
180
|
45
|
330
|
83
|
510
|
128
|
-
การสุ่มแบบหลายขั้นตอน (multi-stage
sampling)
ใช้กรณีที่มีประชากรมากๆ โดยแบ่งประชากรออกเป็นลำดับชั้นต่าง ๆ
แบบลดหลั่น เช่น ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน เป็นต้น
ภาพวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน