การจำแนกประเภทของต้นทุน
ต้นทุน สามารถนำไปใช้ได้หลายรูปแบบ หลายความหมาย แล้วแต่วัตถุประสงค์ของผู้ใช้ต้นทุนจะมีความหมายก็เฉพาะเมื่อต้นทุนนั้นสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์เฉพาะหนึ่งๆ ซึ่งต้นทุนได้เก็บสะสมไว้หรืออาจกล่าวได้ว่า มีต้นทุนต่างๆ กันสำหรับวัตถุประสงค์ต่างๆกัน ดังนั้นจึงจำแนกประเภทต้นทุนตามลักษณะและวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ได้ดังนี้ คือ
1. จำแนกตามการเปลี่ยนแปลงในกิจกรรม เป็นการพิจารณาว่าต้นทุนจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิต หรือจำนวนชั่วโมงที่ใช้ในการผลิต โยจำแนกเป็นต้นทุนผันแปร ต้นทุนคงที่ ต้นทุนกึ่งผันแปร
2. จำแนกตามความรับผิดชอบหรือจำแนกตามแผนกผลิตและการดำเนินงาน การจำแนกต้นทุนประเภทนี้ พบโดยทั่วไปในโรงงานที่ผลิตสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งจะช่วยให้ฝ่ายบริหารคำนวณต้นทุนของสินค้าสำเร็จรูป เพื่อนำไปใช้ในการวัดผลการดำเนินงาน ทั้งยังเป้นเครื่องมือที่ผู้บริหารจะควบคุมการปฏิบัติงานโดยพิจารณาจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เกินขึ้นในแผนกด้วย ได้แก่ ต้นทุนแผนกผลิต ต้นทุนแผนกบริการ
3. จำแนกตามส่วนประกอบของสินค้าสำเร็จรูป โดยจำแนกเป็น ต้นทุนวัตถูดิบ ต้นทุนค่าแรงงาน ค่าใช้จ่ายในการผลิต การจำแนกเช่นนี้ เป้นการให้รายละเอียดในการติราคาลินค้าคงเหลือ และคำนวณต้นทุนขายเพื่อวัดผลการดำเนินงาน
4. จำแนกตามหน้าที่ในองค์กรธุรกิจ การจัดสายงานขององค์กรธุรกิจมักจะมีการแบ่งแยกหน้าที่ในการบริหารเป็น ฝ่ายการผลิต ฝ่ายการตลาด ฝ่ายบริหาร และฝ่ายการเงิน จึงมีการรวบรวมและสะสมต้นทุนตามหน้าที่ดังนี้คือ ต้นทุนฝ่ายผลิต หรืต้นทุนการผลิต ค่าใช้จ่ายในการขาย ซึ่งเป็นต้นทุนฝ่ายการตลาด ค่าใช้จ่ายในการบริหารและต้นทุนทางการเงิน
5. จำแนกตามการตัดสินใจ และลักษณะทางเศรษฐกิจ ในการตัดสินใจในปัญหาต่างๆ ในทางธุรกิจ ฝ่ายบริหารย่อมต้องการหาทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายต้นทุนที่ต้องรวบรวมข้อมูลต้นทุน เพื่อเสนอต่อผู้บริหารเพื่อนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ
6. การจำแนกตามงวดเวลาหรืองวดบัญชี ในการคำนวณหาผลการดำเนินงานในแต่ละงวดบัญชีจะต้องเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกับค่าขายที่ที่เกิดขึ้นในงวดเดียวกัน ค่าใช้จ่ายจะเป็นต้นทุนที่ถูกใช้ประโยชน์ไปแล้ว และคิดเป็นค่าใช้จ่ายในงวดบัญชีปัจจุบันต้นทุนส่วนที่ยังใช้ไม่หมด ก็จะ๔อเป็นต้นทุนของสินทรัพย์ยกไปงวดหน้า
7. จำแนกตามความประสงค์ในการวางแผนและควบคุม ในการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ผู้บริหารจำเป็นต้องมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า จึงต้องมีการกำหนดต้นทุนโดยประมาณหรือต้นทุนมาตรฐานขึ้นมาเป็นเครื่องมือในการบริหารต้นทุน
ขอบคุณคร๊ ^^
สำหรับความรู้ดีๆ
เนื้อหาทำให้เข้าใจง่ายคะ