หนังสือเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๔๖ กำหนดหลักการจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยอายุ ๓-๕ ปี เพื่อพัฒนาเด็กเป็นองค์รวมอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบบูรณาการไม่สอนเป็นรายวิชา ยึดหลักการบูรณาการที่ว่าหนึ่งแนวคิดเด็กสามารถเรียนรู้ได้หลายกิจกรรม หนึ่งกิจกรรมเด็กสามารถเรียนรู้ได้หลายทักษะและหลายประสบการณ์สำคัญ การที่เด็กมีโอกาสได้เลือกอ่านหนังสือบ่อย ๆ จะทำให้เด็กคุ้นเคยกับการใช้หนังสือและคุ้นเคยกับตัวหนังสือ สิ่งสำคัญที่ควรตระหนัก คือ หากเด็กมีประสบการณ์ที่ดีและมีความสุขในการใช้หนังสือจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยปลูกฝังให้เด็กมีนิสัยรักการอ่านได้อย่างดียิ่ง
๑. คุณสมบัติหนังสือเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย สิ่งที่ควรคำนึงถึง
๑.๑ สอดคล้องกับหลักการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
๑.๒ ตรงกับจุดมุ่งหมายและเรื่องที่สอน ให้ประสบการณ์พื้นฐานที่สอดคล้องต่อการเรียนรู้ของเด็กเมื่อเข้าสู่วัยที่สูงขึ้น
๑.๓ เหมาะสมกับวัยและความสามารถของเด็กอายุ ๔-๕ ปี เด็กวัยนี้เป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น ต้องการที่จะรู้ว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้มาจากไหน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เช่นนี้ ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น อย่างนี้สิ่งนี้มีความเป็นมาอย่างไร วันนี้เริ่มจะเข้าใจข้อแตกต่างระหว่างความจริงและเรื่องสมมติ นิทานที่เหมาะสำหรับเด็กวัยนี้ ควรจะเป็นเรื่องสั้น เข้าใจง่าย มีตัวละครตัวเอกเพียงตัวเดียว และตัวละครร่วมอีก ๒-๓ ตัว เรื่องที่ส่งเสริมจินตนาการและอิงความจริงอยู่บ้างอายุ ๕-๖ ปี เด็กวัยนี้เริ่มสนใจโลกของความเป็นจริง แยกอดีตปัจจุบันได้ รู้จักสิ่งแวดล้อมที่ห่างตัวมากขึ้น เริ่มเข้าใจว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งทุกอย่างเช่นแต่ก่อน เนื้อหาของเรื่องควรส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาด้วย จะเป็นเรื่องจริงในปัจจุบัน หรือเป็นเรื่องประเภทวีรบุรุษทั้งหลายก็ได้
๑.๔ เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นที่เด็กอยู่
๑.๕ วิธีการใช้ง่าย และนำไปใช้ได้หลายกิจกรรม
๑.๖ หลากหลายประเภท หลากหลายผู้แต่ง และผู้วาดภาพประกอบ เช่น
(๑) หนังสือภาพที่ไม่มีข้อความหรือตัวหนังสือ
(๒) หนังสือที่สามารถคาดเดาเหตุการณ์หรือเนื้อหาได้ล่วงหน้า
(๓) หนังสือที่เป็นเรื่องราวมีข้อความบรรยาย
(๔) หนังสือกลอนหรือคำคล้องจอง
(๕) นิทานอีสป (ควรเป็นหนังสืออีสปที่จบโดยไม่ต้องมีข้อสรุป แต่ส่งเสริมให้เด็กหาข้อสรุปเอง และผู้ใหญ่หรือผู้สอนเป็นผู้กระตุ้นให้เด็กคิดในทางบวกและตามความเป็นจริง
(๖) วรรณกรรมสำหรับเด็ก
(๗) นิทานชาดกซึ่งสอนคุณธรรมในด้านความดีและความไม่ดี
(๘) สารานุกรมภาพสำหรับเด็ก
(๙) เรื่องที่อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก เช่น สัตว์ พืชบุคคล
(๑๐) เรื่องที่มีตัวเอกเป็นวีรบุรุษ หรือวีรสตรี ประวัติชีวิตบุคคล
(๑๑) เทพนิยายที่มีคติสอนใจ ตำนาน
(๑๒) เรื่องที่แต่งขึ้นใกล้เคียงกับการใช้ชีวิตจริงของเด็ก(๑๓) เรื่องราวในประวัติศาสตร์หนังสือที่ถ่ายทอดเรื่องราวทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย
(๑๔) หนังสือที่แสดงวิธีการทำหรือประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ
(๑๕) นิตยสารสำหรับเด็ก
(๑๖) หนังสือเสริมประสบการณ์รอบตัว
(๑๗) หนังสือภาพสามมิติ
(๑๘) หนังสือที่มีเสียงประกอบ หนังสือพลาสติก หนังสือผ้า หนังสือที่ผลิตจากวัสดุอื่นที่ไม่เป็นอันตราย หนังสือรูปทรง ขนาด ผิวสัมผัสที่แตกต่างกันทำให้เกิดการเปรียบเทียบจัดหมวดหมู่ฯลฯ
๑.๗ ภาพชัดเจนเหมาะสมกับวัยเด็ก ออกแบบรูปภาพอย่างเรียบง่ายให้เรื่องราวต่อเนื่อง และต้องไม่เป็นภาพที่ทำให้เด็กเกิดความหวาดกลัว สีถนอมสายตาและไม่ใช้สีสะท้อนแสง มีช่องว่างพักสายตาขนาดเหมาะสม
๑.๘ เนื้อเรื่องไม่ยากเกินไป ไม่สลับซับซ้อน ไม่สับสนวกวน
๑.๙ ภาษาที่ใช้ควรมีลักษณะดังเช่นภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ภาษาสัญลักษณ์ส่งเสริมให้เด็กมีจินตนาการ ภาษาที่มีคำคล้องจองเพราะเด็กจะสร้างรูปแบบในสมอง ฯลฯ
๑.๑๐ จำนวนหน้าและจำนวนคำศัพท์เหมาะสมกับวัย
๑.๑๑ ขนาด
(๑) ขนาดรูปเล่มมีลักษณะจูงใจให้เด็กเกิดความสนใจ เหมาะสมกับวัยของเด็ก
(๒) ขนาดของตัวอักษรเหมาะสมกับขนาดของรูปเล่ม๑.๑๒ ชนิดของกระดาษควรเป็นกระดาษชนิดดีเช่น กระดาษปอนด์ กระดาษอาร์ต ฯลฯ
๑.๑๒ ชนิดของกระดาษควรเป็นกระดาษชนิดดี เช่น กระดาษปอนด์กระดาษอาร์ต ฯลฯ
๑.๑๓ วิธีการนำเสนอส่งเสริมให้เด็กมีโอกาสฝึกคิดเป็น ทำเป็น และกล้าแสดงความคิดเห็นด้วยความมั่นใจ
๒. แนวทางการเลือกหนังสือเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย
๒.๑ เลือกจากตัวอย่างหนังสือนิทานที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย จำนวน ๔๖๕ รายการ ซึ่งได้รวบรวมจากการพิจารณาคัดเลือกของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จำนวน ๙ แห่ง หรือ
๒.๒ เลือกจากรายชื่อหนังสือเสริมประสบการณ์เล่มอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนตามมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๔๖ และคุณสมบัติหนังสือเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยที่เสนอแนะในข้อ ๑
๓. ข้อเสนอแนะ
๓.๑ ควรเลือกหนังสือเสริมประสบการณ์ที่หลากหลายประเภทมีความหลากหลายในด้านของผู้แต่ง ผู้วาดภาพประกอบและเนื้อหาการเรียนรู้เพราะจะช่วยให้เด็กมีโอกาสอ่านหนังสือเสริมประสบการณ์ที่หลากหลายและเกิดการเรียนรู้ได้มากที่สุด
๓.๒ จำนวนหนังสือเสริมประสบการณ์ควรเพียงพอกับจำนวนเด็ก
อ้างอิงจาก : แหล่งที่มา
http://thainews.prd.go.th/small_head/ourthaigov/pic/free.pdf
ไม่มีความเห็น