ผู้นำหรือผู้บริหารควรมีพฤติกรรมดังนี้
1. การวางแผน (planning) คือ กระบวนการของการพิจารณา การตัดสินใจล่วงหน้าว่าจะทำอะไร อย่างไร มีการเลือกวัตถุประสงค์ นโยบาย โครงการ และวิธีการปฏิบัติเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์นั้น
2. การจัดระเบียบงาน (Organizing) คือ การจัดการเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน การจัดหัวข้องานต่างๆ และการลงมือทำงาน เพื่อให้งานดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบและไม่สับสนโดยคำนึงถึงองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ตัวบุคคล (Personal) วัสดุอุปกรณ์ที่จะต้องใช้ (Materials) และเวลา (Time) สำหรับงานที่มอบหมายนั้น
3. การประสานงาน (Coordination) งานในองค์การแบ่งเป็นหลายฝ่ายหลายแผนก ผู้บริหารจำเป็นต้องมีทักษะในการประสานงาน มิฉะนั้นการปฏิบัติงานจะสำเร็จไปได้ยาก
4. การสื่อความหมาย (Communication) คือ การถ่ายทอดข่าวสารที่มีความหมายจากบุคคลหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ซึ่งการถ่ายทอดนั้นออกไปในรูปใด หรือจะใช้สื่ออะไรก็ได้ การติดต่อสื่อสารย่อมนำไปสู่การอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ ทำให้ได้ทราบถึงปัญหาและความต้องการของบุคลากรในองค์กร เพื่อให้งานบรรลุถึงจุดมุ่งหมายและขณะเดียวกันก็บรรลุถึงความต้องการร่วมกันของทีมงาน
5. การกระจายงาน (Delegating) คือ การกระจายความรับผิดชอบ การกระจายอำนาจและการกระจายแรงงาน ให้แก่หัวหน้าหน่วยงานในแต่ละโครงการบนพื้นฐานแห่งการยอมรับนับถือคุณค่าความรู้ความสามารถซึ่งกันและกัน
6. การวินิจฉัยสั่งการ (Decision Making) คือ การตัดสินใจและนำการตัดสินใจไปดำเนินงานบริหารองค์การ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้บริหารทั้งหลายไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และผลการตัดสินใจของผู้บริหารไม่ว่าจะปรากฏออกมาดีหรือไม่ก็ตาม ผู้บริหารจะต้องรับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้นนั้นด้วย
7. การมีมนุษย์สัมพันธ์ (Human Relationship) คือ ความสามารถที่บุคคลจะถ่ายทอดความรู้สึกหรือความคิดไปยังผู้อื่น และในขณะเดียวกันก็สามารถที่จะเข้าใจความคิดและความรู้สึกจากผู้อื่นด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความร่วมมือ ร่วมใจ ประสานงาน ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน
8. การฝึกอบรม (Training) คือ การพัฒนาพฤติกรรมใดๆ ของบุคลากรในหน่วยงานให้มีความรู้ความเข้าใจต่อสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น เพิ่มทักษะความชำนาญในการปฏฺบัติงาน ให้มีเจตคติที่ดีต่อองค์การตลอดจนพัฒนาให้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
9. กระบวนการกลุ่ม (Group Process) คือ การร่วมแรงร่วมใจ และการร่วมระดมสมองกันคิด เพื่อปฏิบัติงานที่ทุกคนในหมู่คณะมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของงานและมีประโยชน์ร่วมกัน
10. การประเมินงาน (Job Evaluation) เป็นกระบวนการเพื่อรักษาระดับมาตรฐานการดำเนินงาน การประเมินผลงานที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ทราบถึงการทำงานได้ผลสำเร็จเพียงไหน คุณภาพของงานที่ทำไปนั้นเป็นอย่างไร ตลอดจนทราบว่าการทำงานมีผลคืบหน้าแค่ไหนเพียงใด การประเมินผลที่ดีนั้น จะต้องถือหลักความซื่อตรงเชื่อถือได้ วัดได้ตรงตามจุดมุ่งหมายที่วางไว้ไม่ว่าจะต้องเสียเวลาและการลงทุนลงแรงมากเพียงใด
ชอบอ่านไว้ดูสอบ