ไปดูสาวชาววัง เดินห้าง เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว


สาวชาววัง เดินห้าง ร้อยปีที่แล้วสาววังเดินห้าง จากหนังสือชื่อ หอมติดกระดาน

         หยิบยกเอางานเขียนที่มีสาวขี้สงสัย มาถาม เลยบอกให้ไปค้นคว้าเพิ่มเติมดูซิว่าที่เห็น คุณแพนเค้ก แสดงเป็นแม่มณีในละครทวิภพนั้น เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วเขาเดินห้างฯกันจริงหรือปรากฏ หล่อนก็ไปค้นมาจริงๆครับ เลยขอเอาบทความที่หล่อนแอบอ่าน แอบดึงเนื้อหาจากที่มาน่าwebต่างๆ มาให้ได้อ่านกัน...ดูเธอจะใส่อารมณ์ ตะบึงตะบอนเอาตอนท้ายเรื่องอยู่ไม่น้อย ต่อว่าชายหนุ่ม เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วซะยังกะว่า เป็นคนโดนเกี่ยว โดนจีบเองซะอย่างนั้น 

สาวไทย เดินห้างฯ ช็อปปิ้ง มาเป็น ร้อยปีแล้ว

100 กว่าปีที่แล้ว สาวๆชาววัง 
ช็อปปิ้งที่ไหนกัน ?

 
        "สาวชาววัง เค้าจะอยากออกไปเดินซื้อของนอกรั้ววัง เหมือนกับสาวในยุคปัจจุบัน ที่ชอบไปเดินช็อบปิ้งไหมเนี่ย"

 

          และก็หาคำตอบได้จาก หนังสือ "หอมติดกระดาน" โดยคุณศันสนีย์ วีระ       ศิลป์ชัย ที่พิมพ์แจก เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพ คุณสมศักดิ์ ทินกร ณ  อยุธยา ว่า สาวชาววัง ก็นิยมช็อบปิ้งเหมือนกัน

 

 

การเกิดของห้างสรรพสินค้าในไทย ซึ่งโดยมากจำหน่ายสินค้าต่างประเทศ ตามหลักฐาน เกิดขึ้นตั้งแต่ รัชกาลที่ 3 เมื่อคนไทยติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ ชาวอังกฤษชื่อ โรเบิร์ต ฮันเตอร์ (หันแตร) ชาวอังกฤษ มาเปิดอยู่แถว หน้าวัดประยูรวงศ์ เชิงสะพานพุทธ

 

 

               เมื่อถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ลูกชายของแหม่มแอนนา ครูสอนภาษาในราชสำนัก คือ หลุยส์ ที เลียวโนเวนส์ เปิดห้างสรรพสินค้าอยู่แถวสี่พระยา

 

สำหรับสาวชาววังในที่นี้ขอกล่าวถึงสาวชาววังในยุคของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ชีวิตในวังย่อมมีขอบเขตอยู่แค่ในรั้ววังเท่านั้น หากเพื่อนๆได้อ่าน แม่พลอยในสี่แผ่นดิน คงจะพอเข้าใจ แต่ชาววังก็ยังเป็นคนธรรมดาๆ มีความต้องการนอกเหนือสิ่งที่มีอยู่

          ดังนั้น สถานที่ช็อปปิ้งของสาวชาววัง ก็คือนอกรั้ววัง ที่เรียกว่า "แถวเต๊ง" คนขายก็ไม่ใช่ใคร คือ เจ้าหน้าที่วังที่ออกมาหาลำไพ่พิเศษ (จะเห็นว่า ข้าราชการมีอาชีพเสริมมานานแล้ว) สินค้าที่จำหน่าย คือ ของกินของใช้ เช่น ขนมจีบ ปั้นสิบ ไส้กรอกปลาแนม เมี่ยงลาว หมี่กะทิ (พอก่อนนะคะ เพราะรู้สึกว่า น้ำลายจะไหล) สำหรับสิ่งประดิษฐ์ชาววัง เช่น ตุ๊กตาชาววัง ไม้แคะหู ผ้าลายมัสกาตี พัดขนนก หวีสับแบบญี่ปุ่น  

           ลูกค้าคนสำคัญคือ ข้าหลวงจากตำหนักต่างๆ แต่ก็ต้องระวังพอสมควรเพราะกลัวเจ้านายในวังจะมาเห็น อันที่จริงการได้ออกมาพบปะกันข้างนอกวัง ของคุณข้าหลวงจากตำหนักต่างๆ เท่ากับมาเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกัน และนำไปรายงานเจ้านาย ซึ่งมีประโยชน์มาก

และแหล่งช็อบปิ้งดังกล่าวที่สำคัญคือ

บริเวณถนนเขื่อนขัณฑ์นิเวศน์

           ที่อยู่ระหว่างประตูศรีสุดาวงศ์ ซึ่งเป็นประตูด้านหลังกำแหงพระราชวังชั้นในกับประตูช่องกุด ประตูกำแพงชั้นนอก เป็นบริเวณติดต่อระหว่างฝ่ายหน้าและฝ่ายใน แต่ยังไม่ออกนอกบริเวณพระบรมมหาราชวัง

หมายเหตุ:ตามเขาว่า ประตูศรีสุดาวงศ์ เป็นที่มาของสำนวนที่ว่า........."เจ้าชู้ ประตูดิน".....

            เพราะในอดีต หนุ่มๆ ที่อยากดูสาวชาววัง เขามักจะมาแอบดู หรือเกี้ยวพา สาวชาววังที่ประตูนี้ กันหล่ะค่ะ.....

เฮ้อ...น่าเศร้า....เวลามาจีบสาว อุตส่าห์ เสี่ยงมาถึงประตูวัง...แต่พอได้สาวชาววังไปครอบครอง....แหม่....จะหาประคองรักให้แข็งแรงดั่งประตูวังไปซะทุกคู่..ก็หาไม่...โอ้ยเศร้าใจ

 

 ภาพทหารรักษาวัง
 ของจริงนะ บอกก่อน ลูกตากระพริบได้ปริบ ปริบ เลยด้วย
พระบรมมหาราชวัง ยังงดงามไม่เสื่อมคลาย
 มันจะเสื่อมก็ อิตรงที่ พวกเราไม่รักษานี่หล่ะค่ะ....
 ทำเป็นเห่อเกาหลี ญี่ปุ่น ไม่ใช่ว่าไม่ให้ชอบนะคะ 
 แต่ถ้ามากจนทำเป็นมองไม่รู้ หูก็ดับ ไม่รับเอาเอกลักษณะดีๆ 
 ของเราไว้ ประเทศไทยที่สร้างมา
 แค่ ๗ ร้อยกว่าปี ก็จะสิ้นไป แบบสร้างใหม่ไม่ได้ 
 ต่อให้เป็นวิศวกรที่เก่งที่สุดในประเทศก็เฮอะค่ะ

สรุปว่า ผู้หญิง ยุคไหน ก็เหมือนกันนะคะ รักสวยรักงาม ช็อปกระจาย

โอ้วตายแล้ว.............คุณพระ นึกว่ามีแต่เราที่ช็อป...จนกระเป๋า แป หมดแล้วเนี้ย.......
.....................................................................................................................................

อ่านแล้วก็ ตลกปน อมยิ้มดีครับ ดูจากที่เธอเล่า เท่าที่เธอเขียน ก็จะเห็นถึง วิถีสาวชาววังยุคนั้น 
หรือประมาณ สาวไฮโซ ยุคนี้ครับ ซึ่งก็ จะกระดี๊กระด๊า เวลาช็อปปิ้ง วิ่งดูของลดราคา แต่พอถึงเวลาอันควร
ก็ต้องทำสำรวมอยู่ไม่น้อย ให้สมกับที่ได้รับการอบรม 
จินตนาการตามแล้ว ก็น่ารักดีครับ 
ส่วนสถานที่ ที่ถูกบันทึกเอ่ยถึงนั้น ปัจจุบันก็เปลี่ยนหน้า แปลงตา ไปมากอยู่ครับ
จนบางทีผมก็นึกไม่ออกว่า ประตู รูต่างๆ ที่ หนุ่มสาวแอบพบ แอบเชื่อมรัก สานสัมพันธ์กันนั้น มันอยู่ตรงไหนบ้าง
เพราะทุกวันนี้เปลี่ยนไปมากจริงครับ
ต้องขอบคุณ คุณระริน อินจันทร์ ครับที่สนอก สนใจ ไปสืบหาเรื่องในอดีต ที่ยังขีดเส้นทางลางๆให้ลูกหลานอย่างเราๆ ได้อ่าน
เรื่องเล่าของรุ่นคุณย่า คุณตา คุณทวด
หมายเลขบันทึก: 453343เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2011 10:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 01:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท