การเก็บรวบรวมข้อมูล
วิธีการ
เราต้องบอกวิธีการก่อน แล้วบอกเครื่องมือด้วยเช่น ใช้วิธีการสัมภาษณ์ ใช้การสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือ ไม่ควรใช้ปะปนกัน เช่น วิธีการสอบถามเราใช้เครื่องมือคือแบบสอบถาม เครื่องมือทำหน้าที่เป็นสิ่งเร้า ที่ใช้กระตุ้นกลุ่มตัวอย่างให้ได้ข้อมูลที่ผู้วิจัยต้องการ เช่น แบบทดสอบ ดังนั้นเครื่องมือต้องสกัดเฉพาะสิ่งที่เราต้องการ ต้องมีคุณภาพ โดย
1.รายงานว่าสร้างมาอย่างไร ส่วนใหญ่สร้างเอง ต้องรายงานขั้นตอนการสร้างอย่างละเอียดว่ามีที่มาอย่างไร
2.บอกการหาระดับคุณภาพ เช่น ความเที่ยง ความตรง
3.การหาคุณภาพ
การสร้างเครื่องมือวัดตัวแปร
การเขียนนิยามศัพท์ สามารถนำมาจากกรอบทฤษฎี หรือแนวคิดของคนอื่นๆหลายๆคนแล้วนำมาสังเคราะห์เป็นของเราเอง
การหาคุณภาพของเครื่องมือ
IOC,IC แทน ดัชนีความสอดคล้องของข้อคำถาม (Index Conference)
åR แทน ผลรวมของความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญแต่ละข้อ
N แทน จำนวนผู้เชี่ยวชาญ
ตัวอย่าง การแสดงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน
ข้อสอบ ข้อที่ |
ผู้เชี่ยวชาญ คนที่ 1 |
ผู้เชี่ยวชาญ คนที่ 2 |
ผู้เชี่ยวชาญ คนที่ 3 |
ผู้เชี่ยวชาญ คนที่ 4 |
ผู้เชี่ยวชาญ คนที่ 5 |
รวม |
IOC |
ความหมาย |
1 |
+1 |
0 |
+1 |
+1 |
+1 |
+4 |
4/5 = 0.8 |
ใช้ได้ |
2 |
+1 |
0 |
-1 |
-1 |
+1 |
0 |
0/5 = 0 |
ใช้ไม่ได้ |
3 |
+1 |
-1 |
-1 |
+1 |
+1 |
+1 |
1/0 = 0.2 |
ใช้ไม่ได้ |
4 |
+1 |
-1 |
+1 |
+1 |
+1 |
+3 |
3/5 = 0.6 |
ใช้ได้ |
5 |
+1 |
+1 |
+ |
+1 |
+1 |
+5 |
5/5 = 1 |
ใช้ได้ |
เทียบเกณฑ์ ถ้า IOC สูงกว่า 0.5 เป็นข้อสอบที่นำไปใช้วัดได้
D แทน ค่าอำนาจจำแนก
Ru แทน จำนวนผู้ตอบถูกกลุ่มบน (เก่ง)
Rl แทน จำนวนผู้ตอบถูกกลุ่มล่าง (อ่อน)
Nu Nl แทน จำนวนคนในกลุ่มบนและล่าง ตามลำดับ
วิธีการทำ
1. ตรวจข้อสอบให้คะแนน และรวมคะแนนของผู้เข้าสอบแต่ละคน
2. เรียงลำดับคะแนนของผู้เข้าสอบจากมากไปหาน้อย
3. แบ่งจำนวนคนตามลำดับคะแนนออกเป็นกลุ่มสูง – กลุ่มต่ำ (กลุ่มเก่ง – กลุ่มอ่อน) วิธีการแบ่ง จะใช้ 50% บน – ล่าง หรือจะใช้ 1/3 บน กับ 1/3 ล่าง หรือจะใช้ 25% บน กับ 25% ล่าง หรือจะใช้ 27% บน 27% ล่างก็ได้
4. นำกระดาษคำตอบของคะแนนคนในกลุ่มสูง และกลุ่มต่ำมาบันทึก
5. หาจำนวนคนที่ตอบถูกของแต่ละกลุ่มในข้อเดียวกัน แล้วแทนค่าในสูตร จะได้ค่าอำนาจจำแนกเป็นรายข้อ
P แทน ค่าความยากของคำถามแต่ละข้อ
R แทน จำนวนคนที่ตอบถูกข้อนี้
N แทน จำนวนผู้เข้าสอบทั้งหมด
ตัวอย่าง สมมติแบบทดสอบฉบับหนึ่ง นำไปทดลองสอบกับนักเรียน จำนวน 100 คน
ข้อ 1 มีคนตอบถูก 50 คน P = 50 / 100 = .50
ข้อ 2 มีคนตอบถูก 90 คน P = 90 / 100 = .90
ข้อ 3 มีคนตอบถูก 20 คน P = 20 / 100 = .20
ค่า P จะอยู่ระหว่าง 0 ถึง 1
ถ้า P เข้าใกล้ 1 แสดงว่า ข้อสอบข้อนั้น ง่าย
ถ้า P เข้าใกล้ 0 แสดงว่า ข้อสอบข้อนั้น ยาก
ถ้า P มีค่าเท่ากับ .5 แสดงว่า ข้อสอบข้อนั้นมีความยาก ปานกลาง
เกณฑ์ ข้อสอบที่ควรนำไปใช้ควรมีค่าระดับความยากอยู่ระหว่าง .20 - .80
เพราะถ้าต่ำกว่า .20 จะเป็นข้อสอบที่ยากเกินไป แต่ถ้ามีค่าสูงกว่า .80 เป็นข้อสอบที่ง่ายเกินไป
Questionnaire จะไม่มีความยาก ดูว่าข้อนั้นไปในทิศทางเดียวกับคะแนนโดยรวมจะถือว่ามีอำนาจจำแนกจะมี จะหาค่าความตรง ความเที่ยง อำนาจจำแนก ความเป็นปรนัย (ได้จากผู้เชี่ยวชาญ)
Test จะมีค่าความยาก ความตรง ความเที่ยง อำนาจจำแนก ความเป็นปรนัย
แบบสอบถามปลายปิดจะมี
1) มาตรประมาณค่า ไม่ใช่มาตราส่วน เช่น ของลิเคิร์ท, Osgood
2) แบบเลือกตอบ เช่น เลือก 1 ข้อ กับแบบเลือกมากกว่า 1 ข้อ
การวัดเจตคติจะต้องมีข้อความเชิงบวกและข้อความเชิงลบ ควรนำมาไว้ทั้งสองข้างเพื่อป้องกันไม่อ่านแล้วเช็ค อัตราส่วน 1: 3 ก็ได้ แต่ที่ดีคือควรครึ่งต่อครี่ง
แบบวัดสถานการณ์
การเลือกตัวเลือกไหนจะขึ้นอยู่กับจริยธรรมของผู้ตอบ ที่ไม่ใช้ลิเคริทเพราะคนมีแนวโน้มเข้าข้างตนเองแบบนี้
แบบสอบถามที่เป็นลิเคริท
ใส่ข้อความบวกและลบเพื่อให้ผู้ตอบระมัดระวัง การไม่ทำจะส่งผลให้คุณภาพไม่ดี
การวิเคราะห์แบบสอบถาม
-ทำแบบสอบถามสองครั้ง ควรได้คะแนนเท่ากันจึงจะมีค่าความเที่ยง ถ้าค่าเข้าใกล้ 1 แสดงว่ามีความเที่ยงสูง
-หรือสอบครั้งเดียวแล้วแบ่งครึ่ง โดยต้องคู่ขนานกันอาจแบ่งข้อคี่กับข้อคู่ หา r xy แล้วมาปรับเป็น rtt =2rhh/1+rhh
-หรือหา ความคงที่ภายใน โดยใช้สูตรของคอนบาค ถ้าค่าเข้าใกล้ 1 แสดงว่ามีความเที่ยงสูง ต่ำกว่า .70 ถือว่าใช้ไม่ได้
ต้องบอกว่าใช้นักศึกษากี่คน ใช้ข้อคำถามกี่ข้อ
ตารางโครงสร้าง
ประเด็น |
น้ำหนัก |
จำนวน |
1.ไม่เอาสิ่งที่........................... |
3 |
6 |
2”””””””””””””””””””” |
2 |
4 |
3//////////////////////// |
3 |
6 |
นำจำนวนข้อที่กำหนดไว้มาสร้างแบบสอบถาม
ประเด็น |
ข้อ |
รายการคำถาม |
1.ไม่เอาสิ่งที่........................... |
6 |
1. 2. 3. 4. 5. 6. |
2”””””””””””””””””””” |
4 |
1. 2. 3. 4. |
ไม่มีความเห็น