PC เป็นการดูแลสุขภาพที่เข้าถึงง่าย มีคุณภาพ เชื่อมโยงกับบริการ รพ.
ร่างประเด็นเชิงนโยบายการพัฒนาระบบการให้บริการด้านสุขภาพ
เป้าหมายหลัก
ปี 2557 รพ. จะรับเฉพาะ Case Refer จากหน่วย PC จะไม่มี OP walk-in
tern :- Primary Care Unit PC = หน่วยบริการปฐมภูมิ
OP walk-in = ผู้ป่วยนอกเข้ารับบริการตรวจรักษา(ตรง)
นโยบายและทิศทาง
- ระบบบริการสุขภาพจำเป็นต้องปรับปรุง(Re-design)
- ปรับปรุงควรอยู่บนฐานความรู้ทางวิชาการและข้อจำกัดด้านทรัพยากร (Set
Priority & Phasing)
- สธ. ต้องทำหน้าที่เป็นกลไกหลักในการเปลี่ยนแปลง ทำหน้าที่เชื่อมประสานกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง
กรอบแนวทางในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ
- Satellite OP/PC & Centralized IP หรือ Cluster IP
- พัฒนา Excellence Center
- พัฒนาระบบส่งต่อผู้ป่วย
- พัฒนาระบบบริหารจัดการกำลังคนด้านสุขภาพ
- พัฒนาระบบคุณภาพและการประเมินเทคโนโลยี
- พัฒนาระบบและกลไกการบริหารจัดการใหม่
กรอบแนวทาง Satellite OP/PC & Centralize IP
หลักการ จัด Satellite OP
- เป็นบริการ PC เพื่อกระจาย OP ออกจาก รพ.
- เน้นมองภาพเป็น District Health System
- PC เป็นบริการด่านแรกให้ ปชช. เข้าถึงบริการ ที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม
- PC เป็นการดูแลสุขภาพ ที่เข้าถึงง่าย มีคุณภาพ เชื่อมโยงกับบริการ รพ.
และภาคส่วนอื่นในการดูแลสุขภาพ
- จัด PC เป็น Network หรือ Stand Alone ตามที่เหมาะสม
กำหนดงานบริการของระดับ รพ.
- ระดับ 2.1 บริการ OP-IP ไม่ซับซ้อน +ดูแล เครือข่ายบริการ PC (OP+PP)
- ระดับ 2.2 จัดบริการ (OP+PP) + OP เฉพาะทาง ตามระดับการมีแพทย์เฉพาะทาง (4 สาขา+) + ทีมสนับสนุน + เครื่องมือที่สอดคล้องกัน
- ระดับ 2.2 ที่เป็น Node + อีก 2 สาขา (ศัลยกรรมกระดูก+วิสัญญี)
- ระดับ 2.3 จัดบริการสาขา Minor ระดับ 3 ขึ้นไป : Sub-Board
กรอบแนวทาง Excellence Center
o ต้องมีนโยบาย และข้อสั่งการที่ชัดเจน เพื่อเป็นกรอบแนวทางปฏิบัติให้ รพ. ที่เป็น Center
o ให้มีคณะกรรมการกลางในระดับกระทรวง เป็น คณะกรรมการบริหาร 1 ชุด และคณะอนุกรรมการวิชาการชุดย่อย 3 ชุด และ คณะกรรมการ ระดับเขต (มีผู้แทน Center และ ดึงอาจารย์และหน่วยงานนอกมาร่วม)
o ต้องมีกลไก กำกับ ติดตามในภาพรวม
o ข้อเสนอเพื่อพัฒนา Cardio Center ควรเน้นการจัดบริการที่ศูนย์และการบริการเชิงรุก , Trauma Center ควรเน้นบริการในระดับเครือข่ายและเน้นวิชาการ, high tech instrument และ Cancer Center ควรเน้นรวมทีมผู้ให้การรักษาพยาบาลและการป้องกัน รวมทั้งการค้นหาผู้ป่วย
กรอบแนวทางระบบส่งต่อ
o ให้มีศูนย์ประสานการส่งต่อของเขต ที่ รพศ./รพท. ในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง มีหัวหน้าทีม และมี จนท. ประจำ 24 ชม.
o ให้มีศูนย์ประสานการส่งต่อของจังหวัด เพื่อประสานทุก รพ. และเป็นพี่เลี้ยงในจังหวัด
o ศูนย์ฯ ทำหน้าที่ประสานข้อมูลกับ สปสช. , สสจ. เกี่ยวกับ Hi cost , DRG เพื่อการบริหารงบประมาณ
o ศูนย์ฯ เขต ประสานภายในเครือข่าย เพื่อ Update ข้อมูล ทั้ง คน เงิน ของ กับศูนย์ฯ จังหวัด
ให้พิจารณาการบริหารจัดการศูนย์ส่งต่อผู้ป่วยกับศูนย์ EMS ตามความเหมาะสม
กรอบแนวทาง New Management
กลไกส่วนกลาง
- คณะกรรมการพัฒนาระบบบริการระดับกระทรวง
ทำหน้าที่กำกับ ดูแล สนับสนุน ในระยะยาว (ปลัด สธ.-ประธาน, สบภ.-เลขา)
- ทีม คณะทำงาน ย่อย Support ด้านวิชาการ ให้ คกก.
เช่น ทีม GIS ทีมแพทย์ประจำบ้าน ทีมแก้ปัญหากำลังคน ฯลฯ
- ปรับโครงสร้าง สบกส. ให้เข้มแข็ง
(รวมหลายหน่วยย่อย) เป็นหน่วยงานหลัก สนับสนุน/ดูแลหน่วยงานภูมิภาค
กลไกส่วนภูมิภาค
กลไกระดับเขต
- คกก.ระบบบริการเขต บริหารภาพเขต
- สนง.สธ. เขต ทำหน้าที่สนับสนุนวิชาการ
กลไกระดับจังหวัด
- คกก.ระบบบริการจังหวัด : กำกับติดตามงาน PC, ทบทวน SP , ระบบส่งต่อ , ระบบ รพ. พี่เลี้ยง
กลไกระดับอำเภอ
- DHB : บริหารจัดการงบประมาณ และระบบบริการ PC
- มีหน่วยรับผิดชอบPC แยกอยู่ในเวชกรรมสังคม/เวชศาสตร์ชุมชน
กรอบแนวทาง Quality &Technology Management
- การประเมินคุณภาพบริการ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ต้องเชื่อมประสานกับ พรพ. และ สปสช. เพื่อกำหนดเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพบริการ
- สธ. ควรกำหนดเกณฑ์ความเสี่ยงในการบริการ เพื่อสื่อให้ประชาชนรับรู้รับทราบ
- ต้องมีระบบข้อมูลการประเมินคุณภาพบริการ
- การประเมินเทคโนโลยี ต้องมีการประเมินความคุ้มค่าการลงทุนเครื่องมือราคาแพง
- การดูแลด้านการกระจายเครื่องมือราคาแพง
กรอบแนวทางของ HRH (HRD/HRM)
การวางแผน (Planning)
- ควรจัดทำแผนความต้องการ HR ประเภทต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาระบบบริการ และต้องทบทวนเป็นระยะ
การผลิต (Production)
- ทิศทางการผลิต ต้องให้ความสำคัญกับ HR ที่ปฏิบัติงานอยู่ใน DHS ได้แก่ FM พยาบาลชุมชน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
- ส่งเสริมการผลิต HR เพื่อแก้ปัญหาการกระจายในระยะยาว โดยยึดแนวคิดการรับนักเรียนจากพื้นที่เข้าสู่ระบบการผลิต
- การผลิตกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ต้องพิจารณาให้สอดคล้องต่อความจำเป็น (ทั้งระดับประเทศ/พื้นที่) โดยต้องมีกลไกในการจัดการ
- HR กลุ่มนี้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (Maximize Utility)
การใช้งาน (Utilization)
- ปรับระบบการจ้างงานของ สธ. ใหม่ ที่มีแรงจูงใจมากพอ เพื่อรองรับ HR
กลุ่มที่ไม่ได้รับการบรรจุเข้าเป็นราชการ
- ใช้แนวคิด Resource pooling and sharing เพื่อบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะในกลุ่มทีมีจำนวนจำกัด เช่น แพทย์เฉพาะทาง
- ปรับแนวทางและมาตรการสร้างแรงจูงใจ เน้นไปในทิศทางที่ตอบสนองต่อผลิตผลของงาน (performance based) เน้นการแก้ไขปัญหาการกระจายระหว่างเขตเมืองและชนบท
New Topics
- Service Plan
- Tambon Health Promotion Hospital and 10 year-plan development
- New HRD
- Cost of medical care
- Disaster
- Speed of Change
- Local Government