ผมเล่าเรื่องนโยบายของนายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่นไปแล้วนะครับว่าเขา กำลังผลักดันเอาวัฒนธรรมพื้นบ้านมาชูโรงภาพลักษณ์ ของอีสาน เบื้องต้นเห็นจะชูเอา ท้าวสินไซ ในวรรณกรรมเรื่อง สินไซ มาเป็นพระเอกและผลักดัน รางวัลสินไซ ให้แก่บุคคลที่ทำคุณประโยชน์แก่สังคมเมืองขอนแก่น
นอกจากนั้นยังผลักดันงานการศึกษาโดยการประกาศนโยบายการสร้างหลักสูตรท้องถิ่นคุณภาพ ทันที่ที่เรื่องนี้มีคนมาเล่าให้ผมฟังก็มีปฏิกิริยาและความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ผมได้รับการติดต่อจากโรงเรียนเทศบาลบ้านโนนชัย ให้ไปช่วยงาน ละครเวทีของโรงเรียน เรื่องสินไซ ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องการสนองนโยบายปลอมหรือการคำนึงถึงคุณค่าของงานเท่าใดนักในเรื่องนี้ แต่ในแนวคิดถือว่าน่าจะเป็นแบบอย่างในการปรับใช้สำหรับท่านที่สนใจได้
ผมเรียนการละครกับ รองศาสตราจารย์สุนันทนี จันทร์ทิพย์อดีตอาจารย์ใหญ่โรงเรียนการแสดงช่อง3 และข้าราชการบำนาญของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในตอนที่เรียนอยู่ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์
ผมไม่แน่ใจว่าตอนนั้นคิดเรื่องการแสดงอย่างไรแต่ที่แน่ ๆ ไม่ได้คิดจะเป็นดารา แต่ต้องการเรียนเพื่อผลักดันพลังส่วนตัวที่ซ่อนอยู้ลึกมากของตนเองออกมา
ผมเป็นเด็กบ้านนอกที่ขี้อาย ไม่กล้า ดังนั้นความคาดหวังเรื่องเรียนการแสดงก็เพื่อลบจุดด้อยของผมออกไป ในคราวที่เรียนกับครูก็แสนจะสนุกจนในสมัยที่เรียนกลายเป็นคนสนใจงานละครและช่วยทำละครอยู่เรื่อย ๆ ก่อนจบจาก มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ฝากฝีมือ(เล็กๆ)ใน ละครของมหาวิทยาลัยขอนแก่นและกลายเป็นละครประจำปีของมหาวิทยาลัยจนถึงปัจจุบัน
เมื่อจบและมาทำงานผมก็ถึงกลับขอบพระคุณอาจารย์ที่สอนละครผมมากเพราะผมมีกล่องความรู้หลายใบ นอกจากเรื่องวาด ๆอันเป็นกล่องความรู้หลักจากการเรียนในมหาวิทยาลัย ผมยังมีกล่องความรู้เรื่องละคร กล่องความรู้ด้านภาษา และหลายกล่องอาจจะเป็นแค่ความรู้พืนฐาน แต่ในปจจุบันผมก็ได้ใช้กล่องความรู้เหล่านั้นมาผสมผสานกันทำงานที่ผมรักได้
ขอขอบคุณอาจารย์ออต...