7 อินเดีย-เนปาล: สารนารถ


7 อินเดีย: สารนารถ

เช้ามืดข้าพเจ้ารู้สึกตัวตื่นนอน เมื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืนอากาศเย็นสบายดี เมื่อวานพระอาจารย์ที่จำพรรษาอยู่ที่วัดไทยเชตวันท่านบอกว่าเมื่อหลายวันก่อนอากาศที่นี่ประมาณสี่สิบเจ็ดองศาแต่พอพวกเรามาถึงฝนตกปรอยๆ ไม่แรงมากทำให้การเดินทางของเราร่มรื่นเย็นดี ข้าพเจ้าจัดการภารกิจส่วนตัวเสร็จก็ออกนั่งรับลมเย็นๆ ที่ลานธรรม(ไม่แน่ใจว่าเขาเรียกว่าอะไรแต่ข้าพเจ้าสันนิษฐานว่านี่คือลานธรรมเพราะเป็นที่รวมของการทำกิจของวัดต่างๆ) ละอองฝนเบาๆ โปรยปรายข้าพเจ้ารู้สึกชอบจังเลย

พระอาจารย์ท่านเมตตาเปิดเทปธรรมะให้ฟัง ฟ้ายังไม่สว่างมากนักแสงสลัวๆ
ข้าพเจ้านั่งจัดการเขียนแก้ไขบันทึกการเดินทางที่ทยอยเขียนมาหลายวัน หลายๆคนเริ่มทยอยมากันเรื่อยๆ ข้าพเจ้าเข้าใจผิดคิดว่าวันนี้ตื่นสายเพราะดูนาฬิกาประมาณตีสามครึ่งไทยหากแต่เป็นเวลาของอินเดียก็ประมาณตีสองกว่าก็น่าจะตื่นเร็วไม่แตกต่างจากวันก่อนๆ

ใจของเราเป็นเช่นไรนะข้าพเจ้าถามต่อตนเอง

หนทางอีกยาวไกลที่คนเราต้องเดินทางก้าวไปในเส้นทางแห่งการเรียนรู้ภายใน เรานั้นมักรุงรังกับพิธีกรรมภายนอกแต่ขาดการเรียนรู้ภายในจิตใจ ขณะที่นั่งฟังธรรมไปด้วยข้าพเจ้าชอบใจประโยคหนึ่งที่ว่า "บางคนบารมีมากอาสวะน้อยก็จะเข้าใจในธรรมได้ง่าย บางคนอาสาวะมากบารมีน้อยก็จะเข้าใจธรรมะได้ยาก"

การเดินทางรอบนี้ได้เรียนรู้เข้าไปในจิตใจของตนเองต่อผัสสะที่มากระทบอันเป็นสภาวะอันละเอียดเนื่องด้วยสายตาเราได้ไปสัมผัสกับสิ่งบางสิ่งที่ไม่ชอบใจ เมื่อก่อนเราอยู่ในสถานที่ที่เราเลือกได้แต่ที่นี่เราถูกจำกัดไว้ในบริเวณและเงื่อนแห่งเหตุ สิ่งที่เราพึงทำได้คือ ความอดทนอันเป็นความอดทนต่อความทุกข์ที่ทะลักปรากฏขึ้นในจิตใจเราให้มันบางเบา บางครั้้งด้วยปัญญาบางครั้งก็เบาบางด้วยความอดทน

วันนี้เป็นอีกวันที่ข้าพเจ้าทานมื้อเดียว ซึ่งก็เลือกมื้อเที่ยงทั้งๆที่มื้อเช้าเป็นมื้อที่อาหารเต็มที่เพียบพร้อมเยอะกว่ามื้อเที่ยงซึ่งเป็นเพียงข้าวกล่อง นี่คือการดัดตัวดัดนิสัย เมื่อรถออกวิ่งเคลื่อนออกจากวัดไทยเชตวันฝนก็ยังไม่หยุดตก อากาศเริ่มเย็นระหว่างทางเราจอดห้องน้ำเช่นเดิมแต่ต่างจากทุกวันคือ ฝนตกน้ำเจิ่งนองแต่ด้วยความอยากปลดทุกข์เราไม่ได้หวั่นอะไรเลยเข้าย่างมาถึงวันนี้เราไม่ได้หวั่นไหวอะไรเลยการปลดทุกข์กลางท้องทุกข์เริ่มกลายเป็นความปกติคุ้นชินไปเสียแล้ว

ข้าพเจ้ามองออกไปนอกหน้าต่างทุกๆ พื้นที่ชุ่มช่ำต้นไม้ดูสดชื่น แต่ไม่ค่อยเห็นผู้คนมากเหมือนทุกวัน

มีพระในวัดไทยเดินทางมาด้วย แต่ข้อวัตรปฏิบัติของความเป็นสมณย่อหย่อนมากสำหรับข้าพเจ้าแล้วยอมรับไม่ค่อยได้ในพระที่ไม่รักษาในวินัยสงฆ์แม้อาจอ้างว่ามาบวชเพื่อสืบสานต่อในศาสนกิจก็ตาม เมื่อเห็นอะไรที่ไม่งามในความเป็นสมณะนั้นสิ่งที่ข้าพเจ้านำมาพิจารณาต่อตนเองก็คือ ทำใจให้ยอมรับให้ได้ว่ามันมีสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วความเสื่อมที่มาจากชายหนุ่มในชุดผ้าเหลือง ลำดับกาลต่อมาคือ การนำใจให้ร่มเย็นขึ้น

บุคคลที่อยู่ในผ้าเหลืองเหล่านี้เก่งทฤษฎีทางพุทธศาสนามากทำให้โยมหลงติดได้ง่าย แต่ข้อวัตรปฏิบัติในตนเองทำไม่ได้ ข้าพเจ้าก็มาตั้งข้อสังเกตว่าบุคคลในผ้าเหลืองนี้นั่งรถมาด้วย ทานข้าวหลังเที่ยง และมีโยมเรี่ยรายเงินให้บอกว่าส่งเป็นค่าเรียนหนังสือให้พระ รู้สึกสลดสังเวชใจยิ่งนักคนไทย พระภิกษุ พุทธศาสนา และข้าพเจ้าก็ตั้งข้อสังเกตต่อไปอีกว่าสงสัยนั่งรถนานไปหน่อยเลยมองอะไรเป็นด้านลบไปหมด ตัวกูของกูคงจะเริ่มโต ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

แต่ก็ไม่นานพอรู้ตัวความไม่พอใจก็หายไป
ใจก็ยังเบิกบานอยู่เช่นเดิม ทุกอย่างมันก็เป็นไปเช่นนั้นเอง

ห้าโมงเย็นเรามาถึงเมืองพาราณาสี เมืองดูเจริญมีตึกรามสูง แต่ความสกปรกก็ยังคงมีให้เห็นไม่ต่างจากเมืองอื่น ขยะเกลื่อนเต็มไปหมดข้าพเจ้าตั้งข้อสังเกตว่าระบบสาธารณสุขที่นี่น่าจะยังไม่เจริญเท่าที่ควร พระเจ้าอาวาสที่วัดไทยนาลันทาเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนที่วัดจะเชิญแพทย์คนไทยมาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลในวันแต่ดูจะให้ผลได้ไม่ดีเนื่องจากมีปัญหาเรื่องภาษาจึงเปลี่ยนเป็นแพทย์อินเดียแทนก็ดูจะได้เรื่องดีกว่า

กิจกรรมวันนี้ไม่มีอะไรมากเดินทางมาถึงเมืองพาราณสีก็เย็นพอดี จึงเปลี่ยนแผนเข้าที่พักเลยวันนี้เราพักที่วัดไทยสารนารถ หลังมื้อเย็นก็พากันออกไปดูผ้าซึ่งสมิทพาไปที่นี่มีโรงทอผ้าอยู่ชั้นล่างการทอผ้ายังเป็นแบบโบราณไม่ได้ใช้เครื่องจักรยังเป็นแรงงานคนเสียส่วนใหญ่ ลายผ้าที่ทอยังวางแบบผสมผสานระหว่างรายกระดาษกับตัวเครื่องจักรเล็กๆ ส่วนข้างบนเป็นพื้นที่ขายผ้าน่าตื่นตาตื่นใจอย่างมากผ้าสวยๆ ข้าพเจ้าได้เดินเข้าไปแล้วรู้สึกมีความสุขกับการเห็นผ้าเสียอย่างเดียวว่าคนขายผ้านั้นเป็นผู้ชายทั้งหมดซึ่งขาดศิลปะการขาย เขาตั้งราคาสูงมากการต่อรองราคาเริ่มต้นขึ้น ที่สุดเราก็ไม่ซื้อกันซักคนเพราะมีทางเลือกที่ดีกว่านี้

กลับมาที่พักอีกครั้งพรุ่งนี้มีนัดหมายกันตีห้าเพื่อไปแม่น้ำคงคา วันนี้ที่วัดไทยสารนารถเขาจัดให้พักห้องละคนค่อยยังชั่วพอดีพอดี

...

๓๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๔

 

หมายเลขบันทึก: 447198เขียนเมื่อ 4 กรกฎาคม 2011 07:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท