การปลูกมะนาวในกระถาง


การปลูกมะนาวในกระถาง บังคับให้ออกผลได้ง่าย

กำลังฝึกการต่อกิ่งต้นไม้อยู่ (ฝึกมานานแล้ว แต่ไม่ได้ทำอย่างจริงจัง + สถานการณ์ไม่เอื้อด้วย รอไว้กลับไปอยู่บ้านนอกถาวรซะก่อน) ที่ผ่านมาก็สำเร็จไป 5 กิ่งแล้วจาความพยายามซัก 20 ครั้งได้ (ใช้นับกิ่งเอาเป็น มะม่วง 2 พุทรา 3)  มะม่วงกิ่งพันธุ์หาง่ายแต่ต้องให้มีตาพร้อมซะก่อน ส่วนพุทราหายาก เพราะไม่มีใครปลูกกัน  มาเรื่องมะนาวดีกว่า ไปอ่านเจอมาจากมติชนมันน่าสนใจดีก็จะ copy บางส่วนมาเก็บไว้ก่อนเอาไว้มาทำตามอีกที

เทคโนโลยีการเกษตร : มติชน วันที่ 09 มิถุนายน พ.ศ. 2554
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์  

มะนาว ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีบทบาทสูง และเป็นที่ต้องการของตลาดตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้งประมาณเดือน มีนาคม-เมษายน มักมีผลผลิตเข้าสู่ตลาดในปริมาณน้อย ทำให้มะนาวช่วงหน้าแล้งมีราคาสูงกว่าปกติ จากการรวบรวมของตลาดสี่มุมเมืองพบว่า ช่วงหน้าแล้งปีนี้ มะนาวเบอร์ใหญ่ มีราคาขายส่งถึงร้อยละ 450 บาท ทีเดียว ทำให้หลายคนหันมาสนใจปลูกมะนาวนอกฤดูเป็นอาชีพกันมากขึ้น หากใครมีพื้นที่อยู่แล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกปลูกมะนาวพันธุ์ใด ก็ขอแนะนำ “แป้นสิรินนท์” มะนาวพันธุ์ใหม่ให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในใจคุณ
จุดเด่นของมะนาวแป้นสิรินนท์
มะนาวแป้นสิรินนท์ เป็นพันธุ์มะนาวที่ให้ดอก ออกผลได้ตลอดปี ผลมีขนาดใหญ่ ทรงผลแป้น เปลือกบาง มีกลิ่นหอม สามารถปลูกได้ดีในดินเกือบทุกชนิด โดยเฉพาะสภาพร่วนซุย มีการระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุผสม และมีแหล่งน้ำที่เหมาะสม มะนาวแป้นสิรินนท์จะสามารถเจริญงอกงาม มีผลดก และคุณภาพดี

สำหรับใบมะนาวสายพันธุ์ทั่วไป จะมีโครงสร้างใบ 2 ส่วน คือ แผนใบ และก้านใบ แต่แป้นสิรินนท์มีส่วนประกอบของใบที่เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ส่วน คือ หูใบ เป็นรยางค์คู่หนึ่งที่อยู่ตรงฐานของก้านใบ ทั้งนี้ มะนาวแป้นสิรินนท์ ถือว่ามีลักษณะใบสั้น และมีหูใบ เป็นลักษณะเด่นที่แตกต่างจากต้นมะนาวสายพันธุ์ทั่วไป
เมื่อถามถึงปริมาณน้ำมะนาว ก็ได้รับคำตอบจากคุณเล็กว่า มะนาวแป้นสิรินนท์มีปริมาณน้ำเยอะมาก
โดยทั่วไป คนไทยส่วนใหญ่เชื่อว่า น้ำมะนาวคั้นจากผลสด ต้องมีรสเปรี้ยว ไม่ขม มีกลิ่นหอมของมะนาวสด และน้ำมะนาวต้องสีขาว ซึ่งน้ำมะนาวแป้นสิรินนท์มีคุณสมบัติครบถ้วนตามความต้องการของตลาด

การปลูก และการดูแล
หากใครต้องการปลูกมะนาวแป้นสิรินนท์ให้มีผลตอบแทนต่อไร่สูง และดูแลจัดการง่าย อาจารย์แป๊ะ แนะนำให้ใช้เทคนิค “การปลูกมะนาวในท่อซีเมนต์” เพราะต้นมะนาวที่ปลูกในท่อซีเมนต์ ต้นจะไม่สูงใหญ่ ดูแลจัดการง่าย ตั้งแต่การควบคุมปัญหาโรคและศัตรูพืช การเก็บเกี่ยวผลผลิต การตัดแต่งกิ่งทำได้ง่ายขึ้น และสามารถบังคับให้มะนาวออกผลเก็บเกี่ยวในช่วงหน้าแล้งได้เป็นอย่างดี
ขั้นตอนแรกให้เตรียมอุปกรณ์สำคัญ คือ ท่อซีเมนต์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 80-100 เซนติเมตร สูงประมาณ 50 เซนติเมตร พร้อมฝาท่อซีเมนต์ ใช้ขนาดเท่ากับท่อซีเมนต์ ส่วนวัสดุปลูกใช้สูตร “ไฮโดรโปนิกส์” (hydroponics) แบบแห้ง ที่อาจารย์แป๊ะได้แนวคิดจากหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เล่มที่ 27 หน้าที่ 161-163 โดยประยุกต์ใช้วัสดุในท้องถิ่นที่หาได้ง่าย คือเปลือกมะพร้าวขนาดกระสอบใหญ่ ดินที่บรรจุถุงขาย จำนวน 1 ถุง ขี้วัว 1 ถุง ดินประมาณ 10% 
เนื่องจากต้นมะนาวที่ปลูกในท่อซีเมนต์โดยทั่วไป มักจะมีปัญหาเรื่องการทรุดตัว อาจารย์แป๊ะจึงแนะนำให้แก้ไขปัญหาโดยนำกิ่งพันธุ์มะนาวใส่กระถางดำ เจาะรูรอบกระถาง นำกระถางตั้งไว้กลางท่อซีเมนต์ และใส่วัสดุปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์แบบแห้งไว้รอบกระถาง ในปีแรกต้องนำไม้พร้อมเชือกฟาง ผูกมัดกับต้นมะนาวไม่ให้ล้มหรือเอียง พอเข้าปีที่สอง รากต้นมะนาวแข็งแรงก็ไม่จำเป็นต้องค้ำยันต้นอีก หลังจากนั้น ค่อยเติมเปลือกมะพร้าวเพียงปีละ 1 ครั้ง สำหรับสวนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ลำคลอง มักมีสภาพดินอ่อน ท่อซีเมนต์ที่วางไว้บนพื้นอาจจะทรุดจมดินได้ในที่สุด ควรแก้ไขปัญหาได้โดยนำล้อยางรถยนต์เก่ามารองใต้ถังปูนอีกชั้นหนึ่ง วิธีนี้อาจารย์แป๊ะทดลองมาแล้ว ได้ผลดีเต็ม 100%  
อาจารย์แป๊ะ มั่นใจว่า มะนาวพันธุ์แป้นสิรินนท์ สามารถนำไปปลูกที่ไหนก็ได้ ต้นมะนาวก็จะสามารถเจริญเติบโตได้ดีได้ทุกแห่ง เพียงนำต้นมะนาวพันธุ์นี้ไปเสียบกับตอส้มโอ แต่ไม่แนะนำปลูกกับตอมะขวิด เนื่องจากตอมะขวิดเติบโตไม่ดี เพราะมีรากฝอยน้อย 
ส่วนการดูแลมะนาวแป้นสิรินนท์ก็ใช้หลักการเดียวกับมะนาวพันธุ์ทั่วไป เพียงใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยชีวภาพ เปลือกมะพร้าว และสารปรับสภาพ และให้น้ำผ่านระบบสปริงเกลอร์ หัวดอกเห็ด 100 ลิตร วันละประมาณ 10 นาที ไม่ต้องให้น้ำมาก แค่ให้เปลือกมะพร้าวมีความชื้นอยู่ตลอดเวลาก็เพียงพอแล้ว และให้ปุ๋ยเคมี สูตร 16-16-16 ใส่โรยรอบต้นมะนาวที่มีขนาดใหญ่ ใส่ปุ๋ยต้นละประมาณ 3 ช้อน ทุกๆ 15 วัน หากช่วงใดที่ต้องการให้ต้นมะนาวออกดอก ก็ปล่อยให้ต้นมะนาวอดน้ำสัก 2-3 วัน ต้นมะนาวก็จะเริ่มออกดอกสีขาวพราวเต็มต้น ส่วนช่วงที่ต้นมะนาวออกดอกก็สามารถให้น้ำวันเว้นวันได้ อย่าให้น้ำเยอะ เมื่อกลีบร่วงเห็นเป็นผลชัดเจน ก็จึงให้น้ำอย่างเต็มที่ หากต้องการให้ต้นมะนาวมีผลผลิตเรื่อยๆ ก็ต้องให้น้ำเป็นงวดๆ ขึ้นอยู่กับเราต้องการให้มีปริมาณผลผลิตมากน้อยแค่ไหน
อาจารย์แป๊ะ กล่าวว่า ผมคอยตัดแต่งกิ่งต้นมะนาวอยู่เสมอ ภายหลังจากที่เราตัดแต่งกิ่งไปแล้ว ต้นมะนาวจะแตกกิ่งออกมาใหม่ ให้ตัดแต่งกิ่งลักษณะนี้ 3 ครั้ง แต่กิ่งฝอยข้างในไม่ต้องตัดทิ้ง เพราะเป็นกิ่งที่ต้นมะนาวออกลูก หากตัดออกก็เท่ากับตัดเงินทองทิ้งหมดเลย ผมไปได้ความรู้เทคนิคการตัดแต่งทรงพุ่มวิธีนี้มาจากสวนเจริญวีรวัฒน์ ที่จังหวัดระยอง เขาจะตัดปลายกิ่งภายนอกพุ่มทิ้งหมดเลย แต่ข้างในต้น จะไม่ตัด เพราะเป็นกิ่งออกลูก 
ช่วงที่ต้นมะนาวแตกใบอ่อนใหม่ มักจะเกิดปัญหาเรื่องหนอนผีเสื้อ หากปลูกต้นมะนาวจำนวนน้อย ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีกำจัดแมลง แค่จับไข่ผีเสื้อทิ้งไปก็ใช้ได้ หากสวนใดปลูกต้นมะนาวจำนวนมาก ก็ควรฉีดสารเคมีกำจัดแมลง ชื่ออะบาเม็กติน (abamectin) ประมาณ 30-40 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร 
อาจารย์แป๊ะ ยอมรับว่า มะนาวแป้นสิรินนท์ก็เจอโรคแคงเกอร์รบกวนบริเวณลำต้นเหมือนกับต้นมะนาวพันธุ์ทั่วไป แต่สามารถหยุดการแพร่ระบาดของโรคได้ โดยใช้น้ำหมักชีวภาพ ที่ผลิตจากไพล จำนวน 15 กิโลกรัม หนอนตายหยาก 5 กิโลกรัม ใบสะเดาแก่ 2-3 กิโลกรัม รวมทั้งหญ้าสาบเสือ กากน้ำตาล 5 กิโลกรัม ใส่น้ำจนท่วมถังหมัก ขนาด 50 ลิตร ร่วมกับสารเร่ง พด. 2 ของกรมพัฒนาที่ดิน จำนวน 1 ซอง หมักเป็นระยะเวลา 1 เดือน จะได้น้ำหมักชีวภาพที่มีคุณภาพสูงในการกำจัดโรคและแมลง เมื่อต้องการนำไปใช้งาน เพียงผสมน้ำ ในอัตราส่วน 1 : 150 นำไปใช้ฉีดพ่นต้นมะนาวที่มีปัญหาโรคแคงเกอร์ ปรากฏว่าได้ผลดี แผลแห้งสนิทในระยะเวลาอันสั้น ก่อนหน้านี้ได้ทดลองนำน้ำหมักสูตรนี้ไปทดลองใช้กับต้นลีลาวดีที่มีปัญหาโรคสนิมเหลือง ก็ได้ผลดีเช่นเดียวกัน
สำหรับเกษตรกรที่ประสงค์จะปลูกมะนาวนอกฤดู หากนำพันธุ์สิรินนท์ไปปลูกก็แค่ให้อดน้ำอย่างเดียว ยิ่งปลูกใส่ถังจะสามารถบังคับการออกลูกได้ง่ายมาก การผลิตมะนาวนอกฤดู จะต้องเริ่มต้นโดยนับถอยหลัง 6 เดือน ช่วงก่อนเดือนกันยายน เราก็ดูแลให้ปุ๋ยและน้ำ จนต้นมะนาวงามเต็มที่  ใบเริ่มแก่ ก็เริ่มให้อดน้ำแค่ 5 วัน สำหรับต้นมะนาวที่ปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์แบบแห้ง หากหยุดให้น้ำ 5 วัน ต้นมะนาวก็เหี่ยวหมดแล้ว เพราะต้นมะนาวสุขสบายมีความชื้นตลอด หากใช้วิธีนี้ ก็จะมีผลผลิตออกมาในช่วงฤดูแล้ง
มะนาวแป้นสิรินนท์ แม้ผลแก่ แต่ยังมีสีเขียวสดตลอด ซึ่งแตกต่างจากมะนาวพันธุ์ทั่วไป หากเป็นมะนาวแก่จะมีผิวสีเหลือง  
คุณเล็ก เล่าอีกว่า มะนาวแป้นสิรินนท์มีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากมะนาวในท้องตลาดทั่วไปก็คือ ไม่ต้องดูแลมาก สำหรับผู้สนใจที่ไม่มีความรู้เรื่องการเกษตรมาก่อนเลยก็ตาม ก็สามารถปลูกดูแลมะนาวพันธุ์นี้ได้อย่างสบาย เพราะคุณเล็กได้ทำแผ่นพับเพื่อแนะนำขั้นตอนการดูแลต้นมะนาวให้กับลูกค้าทุกรายอยู่แล้ว หากใครซื้อกิ่งพันธุ์มะนาวแป้นสิรินนท์จากสวนของเราไป บำรุงดูแลตามคำแนะนำของเรา ภายในระยะเวลา 8-12 เดือน ต้นมะนาวก็พร้อมจะออกลูกได้   

คุณเล็ก เล่าว่า ครอบครัวเรามั่นใจว่า มะนาวแป้นสิรินนท์มีคุณภาพดี ตรงตามความต้องการตลาด จึงเตรียมพื้นที่แห่งใหม่จำนวน 12 ไร่ ในอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี สำหรับเป็นพื้นที่ผลิตกิ่งพันธุ์มะนาวแป้นสิรินนท์ สำหรับกิ่งพันธุ์ที่เตรียมนำออกมาจำหน่าย สวนของเราใช้การเสียบยอดแบบปลอดเชื้อ บนตอส้มโอเพาะเมล็ด เพื่อช่วยให้ต้นมะนาวมีรากที่แข็งแรงทนทาน โตไว หลังจากเสียบกิ่งเสร็จแล้ว ต้องนำกิ่งที่เสียบยอดไปคลุมถุงพลาสติค เพื่อรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในสภาพคงที่ ยอดจะได้ไม่เหี่ยว ซึ่งวิธีนี้อัตราการติดจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากเกือบ 100% และกิ่งที่เสียบจะติดยอดภายในระยะเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ ทางสวนจะเลี้ยงกิ่งพันธุ์ต่อไปอีก 2 เดือน เพื่อดูแลให้ต้นมะนาวมีระบบรากที่แข็งแรง ใบแตกยอดก่อน จึงค่อยนำกิ่งพันธุ์ออกจำหน่ายให้แก่ผู้ที่สนใจ ในราคาไม่เกิน 300 บาท สำหรับไม้กระถาง 8 นิ้ว ส่วนไม้กระถาง ขนาด 11 นิ้ว จะขายในราคา 500 บาท หากลูกค้าซื้อกิ่งพันธุ์ ขนาด 11 นิ้ว ไปขยายพันธุ์ลงดิน ใช้เวลาประมาณ 8 เดือน ก็ได้ต้นมะนาวพุ่มใหญ่ ที่พร้อมผลิดอกออกผล หลังจากนั้น สามารถตัดขยายพันธุ์ได้เลย สำหรับเกษตรกรที่ขยายพันธุ์เป็น หากซื้อกิ่งพันธุ์ ขนาด 11 นิ้ว จากเราไปแล้วก็สามารถนำไปเสียบยอดได้ไม่ต่ำกว่า 12 ต้น   

ติดต่อสวนบางไผ่พันธุ์ไม้ เลขที่ 113/4 หมู่ที่ 4 ซอยวัดสังฆทาน ถนนนครอินทร์ พระราม 5 ตำบลบางไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี หรือติดต่อโดยตรงได้ที่ คุณฉัตราพร  สิงหราช (เล็ก) โทร. (086) 569-6225 หรือ คุณกัลยารัตน์ ชมฉ่ำ (แดง) โทร. (084) 656-1174  

หมายเลขบันทึก: 443678เขียนเมื่อ 12 มิถุนายน 2011 14:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 13:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

การปลูกมะนาวในกระถาง หากเคลื่อนย้ายได้จะเป็นเรื่องที่ดี ยกตัวอย่าง ผมปลูกมะนาวในกระถางไว้หน้าบ้าน พอเกิดน้ำท่วม ผมก็ยกตั้งบนที่สูง มะนาวของผมจึงรอดจากวิกฤติน้ำท่วมไปได้ เลือกกระถางเคลือบเหมือนโอ่งมังกร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่ควรน้อยกว่า 18 นิ้ว ใส่วัสดุปลูกที่มีส่วนผสมของดินร่วนสะอาด กาบมะพร้าวสับ ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอกเก่า อัตรา 3:1:1 พร้อมใส่ปูนขาวอีก 1 กระป๋องนม ต่อกระถาง คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปริมาณที่ใส่ให้ต่ำกว่าขอบกระถางเล็กน้อย นำกิ่งพันธุ์ปลูกลงกลางกระถาง สำหรับมือใหม่หรือมือสมัครเล่น แนะนำให้ใช้มะนาวพันธุ์ พิจิตร 1 เนื่องจากทนทานต่อโรคแคงเกอร์หรือโรคขี้กลาก อีกทั้งโตเร็วและติดผลดก จึงไม่จำเป็นต้องฉีดพ่นด้วยสารเคมีหรือสารปฏิชีวนะแต่อย่างใด

เปิดหลุมกลางกระถางขนาดใหญ่กว่าถุงเพาะกล้าเล็กน้อย ฉีกถุงพลาสติกออก ระวังอย่าให้รากฉีกขาด วางต้นกล้าลงในหลุม กลบดินพอแน่น หากต้องการให้ตั้งตัวเร็วขึ้น ใส่ปุ๋ย สูตร 15-15-15 อัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ต่อกระถาง ปักหลักไม้ไผ่ผูกกับต้นกล้าแล้วรดน้ำตามทันที สิ่งสำคัญต้องให้ต้นมะนาวได้รับแสงแดดเต็มที่ หรืออย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง ต่อวัน จะช่วยให้ออกดอกได้ดี หมั่นดูแลอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้ขาดน้ำ ใส่ปุ๋ยคอกเก่า หรือปุ๋ยหมัก อัตรา 3 กระป๋องนม ต่อกระถาง ทุก 2-3 เดือน และใส่ปุ๋ย สูตร 15-15-15 อัตรา 2 ช้อนโต๊ะ ต่อกระถาง ทุกเดือน

หากต้องการเก็บผลผลิตมะนาวในเดือนเมษายน บำรุงต้นสมบูรณ์แล้ว เมื่ออายุครบ 1 ปี ให้ตัดปลายกิ่งทุกกิ่งออก ประมาณ 10 เซนติเมตร ทารอยแผลด้วยปูนแดง อีกไม่นานต้นมะนาวจะออกดอกสะพรั่ง ขณะต้นยังมีขนาดเล็ก เมื่อติดผลให้เด็ดทิ้ง บำรุงต้นให้สมบูรณ์ตามคำแนะนำข้างต้น ผลมะนาวจะแก่จัดในเดือนเมษายนตามต้องการ กรณีที่มีหนอนกัดกินใบ หรือเพลี้ยอ่อน ให้ใช้ยาฉุน 1 จับ หมักในน้ำสะอาด 1 ลิตร เติมเหล้าโรงเล็กน้อย หมักไว้ 1 คืน คั้นและกรองน้ำ ฉีดพ่น การระบาดจะหายไป ประหยัดสตางค์และปลอดภัย เริ่มตั้งแต่วันนี้เลยครับ

ที่มา : เทคโนโลยีชาวบ้าน : หมอเกษตร/ทองกวาว : วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท