"ผ้าไหมลายลูกแก้ว ลายผ้าไหมที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดศรีสะเกษ"
ผ้าไหมลายลูกแก้ว มีมาตั้งแต่อดีตกาลกว่า 200 ปีก่อน การเรียกชื่อ ผ้าไหมแตกต่างไปตามท้องถิ่นบ้างเรียกว่า "ผ้าแพรเหยียบ" เหตุที่เรียกก็เพราะว่าผู้ทอจะต้องเลือกเหยียบไม้สลับตะกอ ซึ่งที 4 ตะกอ เพื่อให้ได้ลายผ้าที่เป็นลายเฉพาะของผ้าแพรเหยียบ ซึ่งก็คือลายลูกแก้วตามที่ต้องการ
แนวคิดการทอผ้า ได้จากไหมเปลือกนอกที่มีขนาดเส้นใหญ่หยาบ เมื่อทอผ้าจะผ้าเนื้อหนา หยาบ เหมาะสำหรับตัดเป็นเสื้อใส่ทำงานที่ต้องทำอย่างสมบุกสมบันใส่ทำนา ทำไร่ ทอ 4 ตะกอ ยกดอกเป็นลายลูกแก้ว ผู้ทอต้องเป็นคนที่มีความชำนาญทอผ้าเก่ง มีความละเอียดลออและความปราณีตชาวบ้านนิยมใส่ผ้าลายลูกแก้วในการทำงานมักนิยมย้อมผ้าด้วยผลมะเกลือจะทำให้ได้เสื้อที่มีความหนา น้ำหนักเพิ่มเสื้อย้อมมะเกลือมีคุณสมบัติซักแล้วไม่ต้องรีดสวมใส่ได้เลย ปี พ.ศ. 2545 สภาวัฒธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ประกาศให้ผ้าลายลูกแก้วสีเหลืองดอกลำดวนเป็นผ้าเอกลักษณ์ของจังหวัดศรีสะเกษ ปัจจุบันการผลิตผ้าไหมลายลูกแก้วเป็นผลิตภัณฑ์สุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ระดับ 5 ดาว
ขั้นตอนการทอ
เส้นยืน ย้อมสีเดียว เก็บตะกอ 4 ตะกอตามลวดลายที่กำหนด
เส้นพุ่ง ย้อมด้วยสีเดียวกับเส้นยืนหรือต่างกันก็ได้ ถ้าย้อมสีต่างกันจะได้สีที่แปลกออกไป
การทอ ผ้าลายลูกแก้ว 4 ตะกอจะได้ตะกอเป็นตัวกำหนดลาย โดยไม่มีการแยกตะกอสำหรับทอลายขิด เพื่อเป็นพื้นของผ้า เวลาทอจะทอโดยการยกตะกอ
ยกตะกอ 1 กับ 3 และ 3 กับ 4 สลับกับการยกตะกอ ยก 2 ครั้ง เหยียบ 2 ครั้ง
ยกตะกอ 3 กับ 4 และ 1 กับ 4 สลับกับการยกตะกอ ยก 2 ครั้ง เหยียบ 2 ครั้ง
ยกตะกอ 1 กับ 2 และ 2 กับ 3 สลับกับการยกตะกอ ยก 2 ครั้ง เหยียบ 2 ครั้ง
ยกตะกอ 3 กับ 4 และ 1 กับ 3 สลับกับการยกตะกอ ยก 2 ครั้ง เหยียบ 2 ครั้ง
ยกตะกอ 1 กับ 2 และ 1 กับ 4 สลับกับการยกตะกอ ยก 2 ครั้ง เหยียบ 2 ครั้ง
ครึ่งของลายลูกแก้ว
ยกตะกอ 3 กับ 4 และ 2 กับ 3 สลับกับการยกตะกอ ยก 2 ครั้ง เหยียบ 2 ครั้ง
ยกตะกอ 3 กับ 4 และ 1 กับ 4 สลับกับการยกตะกอ ยก 2 ครั้ง เหยียบ 2 ครั้ง
ยกตะกอ 1 กับ 2 และ 2 กับ 3 สลับกับการยกตะกอ ยก 2 ครั้ง เหยียบ 2 ครั้ง
ยกตะกอ 3 กับ 4 และ 1 กับ 4 สลับกับการยกตะกอ ยก 2 ครั้ง เหยียบ 2 ครั้ง
ยกตะกอ 1 กับ 3 และ 3 กับ 4 สลับกับการยกตะกอ ยก 2 ครั้ง เหยียบ 2 ครั้ง
ไม่มีความเห็น