การจัดการไข่ไหม |
วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดการไข่ไหมชนิดฟักปีละ 2 ครั้ง ตามธรรมชาติ (Bivoltine)
1. การฟักเทียมไข่ไหมแบบฟักทันที (Common acid treatment/Sokushin)
หลังจากแม่ผีเสื้อวางไข่ไหม 15-20 ชั่วโมง แล้วนำไปฟักเทียม (เวลาประมาณ 11.00-16.00 น.ของวันถัดไป) ถ้าหากเป็นไข่ไหมแผ่นให้นำไข่ไหมจุ่มฟอร์มาลีน 2 เปอร์เซ็นต์ นาน 3-5 นาที แล้วนำไปผึ่งให้แห้งในร่มเงา จะทำให้ไข่ไหมติดกับกระดาษวางไข่ดียิ่งขึ้น
การฟักเทียมไข่ไหม ทำได้ 2 วิธี
1.1 การฟักเทียมโดยใช้สารระลายกรดเกลือที่อุณหภูมิสูง (Heated acid treatment)
วิธีการนี้ใช้เวลาสั้นในการฟักเทียมแต่มีข้อเสีย คือ ถ้าหากอุณหภูมิของสารละลายกรดเกลือเปลี่ยนแปลงไปจะส่งผลให้การฟักออกมีความแปรปรวนสูงได้
ถ.พ. ของสารละลายกรดเกลือ 1.075 (ที่อุณหภูมิ 15 เซลเซียส)
อุณหภูมิของสารละลายกรดเกลือ 46 องศาเซลเซียส
เวลาที่ใช้จุ่มไข่ไหมนาน 5-6 นาที
หลังจากฟักเทียมแล้วนำไข่ไหมไปล้างในน้ำไหลที่มีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส เป็นเวลานาน 20-30 นาที ทดสอบว่าหมดฤทธิ์สารละลายกรดเกลือแล้วจึงนำไปผึ่งให้แห้งในร่มเงา
1.2 การฟักเทียมโดยใช้สารละลายกรดเกลือที่อุณหภูมิปกติ (Room temperature acid treatment)
ก่อนการฟักเทียมปฏิบัติเหมือนกับข้อ 1.1 แต่แตกต่างที่ ถ.พ. อุณหภูมิของสารละลายกรดเกลือและเวลาในการจุ่มกรดเกลือ ดังนี้
ถ.พ.ของสารละลายกรดเกลือ 1.110 (ที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิของสารละลายกรดเกลือ 27-29 องศาเซลเซียส
เวลาที่ใช้จุ่มไข่ไหมนาน 50-60 นาที
หลังจากนำไข่ไหมขึ้นจากสารละลายกรดเกลือแล้ว การล้างไข่ไหมถือปฏิบัติเช่นเดียวกับ ข้อ 1.1 การประวิงเวลาในการเก็บรักษาไข่ไหม หลังจากฟักเทียม แล้วนำไข่ไหมเก็บในห้อง 25 องศาเซลเซียส นาน 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นย้ายไข่ไหมเข้าห้อง 15 องศาเซลเซียส นาน 6-12 ชั่วโมง ย้ายไข่ไหมเข้าห้อง 5 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถเก็บไข่ไหมได้นาน 20 วัน ในช่วงเวลาที่เก็บไข่ไหมในห้อง 5 องศาเซลเซียส หากมีความต้องการจะเลี้ยงไหม ให้นำไข่ไหมออกจากห้อง 5 องศาเซลเซียส โดยผ่านห้อง 15 องศาเซลเซียส นาน 6-12 ชั่วโมง แล้วจึงนำไข่ไหมไปกกที่ห้องกกไข่ไหมต่อไป
2. การฟักเทียมไข่ไหมหลังจากเก็บในห้องเย็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง (Acid treatment after chilling / Reishin)
หลังจากแม่ผีเสื้อวางไข่แล้ว เก็บไข่ไหมที่ห้อง 25 องศาเซลเซียส นาน 45-48 ชั่วโมง แล้วย้ายไข่ไหมไปห้อง 15 องศาเซลเซียส นาน 6-12 ชั่วโมง จึงย้ายไข่ไหมไปเก็บที่ห้อง 5 องศาเซลเซียสนาน 60-100 วัน เมื่อไข่ไหมมีอายุครบการเก็บรักษา ให้นำมาฟักเทียม โดยนำไข่ไหมออกมาห้องปกติเป็นเวลา 3-6 ชั่วโมง ก่อนการฟักเทียมเพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนอุณหภูมิโดยกะทันหัน
วิธีปฏิบัติก่อนการฟักเทียม ใช้วิธีการเช่นเดียวกับข้อ 1.1 และการฟักเทียมสามารถปฏิบัติได้ 2 วิธี คือ
2.1 การฟักเทียมโดยใช้สารละลายกรดเกลือที่อุณหภูมิสูง (Heated acid treatment)
ถ.พ. ของสารละลายกรดเกลือ 1.10 (ที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส)
อุณหภูมิของสารละลายกรดเกลือ 48 องศาเซลเซียส
เวลาที่ใช้จุ่มไข่ไหมในการฟักเทียม 5-6 นาที
2.2 การฟักเทียมโดยใช้สารละลายกรดเกลือที่อุณหภูมิปกติ (Room temperature acid treatment)
ถ.พ.ของสารละลายกรดเกลือ 1.13 (ที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส)
อุณหภูมิของสารละลายกรดเกลือ 27-29 องศาเซลเซียส
เวลาที่ใช้จุ่มไข่ไมในการฟักเทียม 50-60 นาที
ทั้งสองวิธีดังกล่าวหลังจากฟักเทียมเสร็จแล้ว นำไข่ไหมไปล้างและปฏิบัติเช่นเดียวกับข้อ 1.1
3. การเก็บไข่ไหมวิธีเลียนแบบธรรมชาติ (Artificial hibernating egg)
ในต่างประเทศไข่ไหมชนิดที่ฟัก 2 ครั้งต่อปี (bivoltine) ที่ผลิตในฤดูใบไม้ร่วงจะผ่านฤดูหนาวและจะฟักเป็นตัวในฤดูใบไม้ผลิของปีถัดไป ส่วนในประเทศไทยจำเป็นต้องนำไข่ไหมชนิดนี้ไปเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำ 2-5 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมแล้วจึงนำไข่ไหมเลี้ยงต่อไปโดยถือปฏิบัติ ดังนี้
หลังจากแม่ผีเสื้อวางไข่แล้วเก็บไข่ไหมไว้ในห้อง 25 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-80 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 30 วัน จึงย้ายไข่ไหมไปเก็บที่ห้อง 5 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 130-180 วัน ก่อนย้ายไข่ไหมจากห้อง 25 องศาเซลเซียส ไปห้อง 5 องศาเซลเซียส หรือจากห้อง 5 องศาเซลเซียส ไปห้อง 25 องศาเซลเซียส ต้องนำไข่ไหมผ่านห้อง 15 องศาเซลเซียส นาน 12-24 ชั่วโมงทุกครั้ง ช่วงที่ไข่ไหมมีอายุ 130-180 วันในห้อง 5 องศาเซลเซียส สามารถนำไข่ไหมมากกที่ห้องกกไข่ไหมเพื่อใช้เลี้ยงต่อไป โดยไม่ต้องฟักเทียมไข่ไหม
ข้อควรปฏิบัติ
ไข่ไหมที่เก็บโดยวิธีเลียนแบบธรรมชาตินี้ต้องผ่านการจุ่มฟอร์มาลีน 2 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลานาน 30 นาที แล้วล้างน้ำให้สะอาดผึ่งให้แห้งในร่มเงาก่อนที่จะนำไข่ไหมไปกก
ส่วนไข่ไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้านสามารถเก็บในห้อง 5 องศาเซลเซียส ได้นาน 20 วัน วิธีการปฏิบัติ คือ หลังจากแม่ผีเสื้อผสมพันธุ์วางไข่ไหมเสร็จแล้วเก็บไว้ห้อง 25 องศาเซลเซียส นาน 24 ชั่วโมง จึงย้ายไปห้องเย็น 15 องศาเซลเซียส นาน 12 ชั่วโมง แล้วย้ายไปห้อง 5 องศาเซลเซียส นาน 20 วัน ในช่วงไข่ไหมอยู่ในห้อง 5 องศาเซลเซียส สามารถนำไข่ไหมมากกเพื่อใช้เลี้ยงต่อไปได้ ก่อนจะนำไข่ไหมมากกให้จุ่มฟอร์มาลีน 2 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับไข่ไหมวิธีเลียนแบบธรรมชาติ
ความสำคัญของห้องเย็นในการเก็บไข่ไหม
การผลิตไข่ไหมชนิดฟัก 2 ครั้งต่อปี (bivoltine) หรือฟักตลอดปี (poylyvoltine) เป็นงานสำคัญพื้นฐานที่นำไปสู่ผลผลิตรังไหมของเกษตรกร ขั้นตอนในการผลินไข่ไหมค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้นห้องเย็นเก็บไข่ไหม ถ้าไม่มีประสิทธิภาพก็จะทำให้คุณภาพไข่ไหมด้อยลง เจ้าหน้าที่ ที่ดูแลห้องเย็นต้องถือปฏิบัติการบำรุงรักษา ดังนี้
1. ทำความสะอาดห้องเย็นทุกห้องอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง โดยใช้ยาฆ่าเชื้อโรค ควรทำความสะอาดก่อนการกกไข่ไหม 5 วัน สารเคมีที่ใช้ต้องมีประสิทธิภาพทำลายเชื้อโรคได้ดี ไม่มีกลิ่นฉุน ไม่ทำความเสียหายกับอุปกรณ์ ห้องเย็น เช่น ไม่ทำให้โลหะเกิดสนิม เป็นต้น
2. ห้ามสูบบุหรี่หรือนำสารเคมีทุกชนิดเข้าในห้องเย็น และบริเวณรอบๆ ห้องเย็น
3. เปลี่ยนรองเท้าก่องเข้าห้องเย็นทุกครั้งใช้เฉพาะรองเท้าที่เตรียมไว้ใช้ในห้องเย็นเท่านั้น
4. ต้องตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้นสัมพันธ์ในห้องแต่ละห้องอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง (เช้า-บ่าย)
5. เดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทุก 15 วันหากไฟฟ้าดับภายใน 2 ชั่วโมง ต้องเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทันที เพื่อรักษาอุณหภูมิห้องเย็นให้อุณหภูมิตรงตามกำหนดไว้
6. การเปิด-ปิดประตูห้องเย็น ควรเปิดแล้วรีบปิดทันที เพราะจะทำให้อุณหภูมิในห้องไม่เปลี่ยนแปลงมาก
7. ไม่ควรอนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปห้องเย็นเก็บไข่ไหม
8. ไม่ใช้ห้องเย็นเก็บรักษาถนอมอาหารหรือวัสดุอื่นๆ โดยเด็ดขาด
ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ (กาญจนบุรี)
ระยะเวลาในการฟักเทียมไข่ไหมพันธุ์ต่าง ๆ ที่เลี้ยงในศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ (กาญจนบุรี)
พันธุ์ไข่ไหม |
ระยะเวลาในการฟักเทียม |
หมายเหตุ |
J 108 |
8 นาที |
|
UB1 |
5.40 – 6 นาที |
|
108P3 |
6 นาที |
|
|
|
|
ที่มา ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ (กาญจนบุรี)
Very informative.
I never have a chance to see silk industry in details, I would love to see some pictures of silk worms in 'nursery' ;-)