การใช้บทเรียนและแบบฝึกทักษะคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำเร็จรูป
หรือคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจะเป็นแรงจูงใจให้ผู้เรียนกระตือรือร้นที่จะฝึกฝนทักษะ เพราะสื่อ
การเรียนการสอนเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ
ความสำคัญของปัญหา
การจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนรู้เพื่อเพิ่ม
คุณภาพ และประสิทธิภาพเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ด้วยบทบาทของเทคโนโลยี
สารสนเทศได้เอื้ออำนวยประโยชน์ต่อการเรียนการสอนมากขึ้น ด้วยเหตุนี้รัฐบาลมีนโยบายเร่งใช้
ICT (information and communication technology) เพื่อพัฒนาการศึกษาในทุกด้านและได้กำหนด
เป็นแผนแม่บทในการพัฒนาประเทศ แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
เพื่อการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ.2547-2549) ที่จัดทำโดยผู้ทรงคุณวุฒิจากส่วนราชการ
และภาคเอกชนภายนอกที่เกี่ยวข้องและผู้แทนระดับ CIO (chief information officer) ของแต่ละกรม
ในกระทรวง ศึกษาธิการมีรายละเอียดขั้นตอน วิธีการทำงานที่ชัดเจนยุทธศาสตร์ 4 ประการ
ที่แผนหลักนี้ระบุไว้เพื่อไปสู่ความสำเร็จ คือ 1) การใช้ ICT เพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ 2) การใช้
ICT เพื่อการบริหารและบริการทางการศึกษา 3) การผลิตและการพัฒนาบุคลากร 4) การกระจาย
โครงสร้างพื้นฐาน ICT เพื่อการศึกษา (อธิปัตย์ คลี่สุนทร, 2546)
ในด้านการเรียนการสอนที่ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสารเป็นเครื่องมือในการออกแบบและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนอย่าง
มีประสิทธิภาพ และในด้านกระบวนการเรียนรู้ ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสาร เป็นเครื่องมือในรูปแบบที่หลากหลายในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้
และได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารตามความสนใจของผู้เรียน
และสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่า ครูและผู้บริหารทางการศึกษามีบทบาทอย่างมากในการขับเคลื่อน
การพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีคิด วิธีสอนจากเดิมให้สามารถตอบสนอง
การพัฒนาของประเทศและความต้องการของสังคม (วิจิตร ศรีสอ้าน, 2550)
การเรียนการสอนภาษาอังกฤษในปัจจุบัน มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาการเรียนการสอน
นักเทคโนโลยีทางการศึกษาได้ทำการทดลองวิจัยเกี่ยวกับสื่อการสอนจนเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป
ว่า สื่อการสอนเป็นช่องทางในการถ่ายทอดความรู้และความคิดระหว่างครูกับนักเรียน เป็นเครื่องมือ
ช่วยให้การเรียนการสอนง่ายขึ้นและสามารถนำมาใช้กับผู้เรียนได้ทุกระดับชั้น ทำให้การเรียนการสอน
ได้ผลดีกว่าไม่ใช้สื่อ (เอกวิทย์ แก้วประดิษฐ์, 2545)จากวิสัยทัศน์ของโรงเรียนมวกเหล็กวิทยา โรงเรียนต้นแบบโรงเรียนในฝัน(กระทรวงศึกษาธิการ, 2549) “โรงเรียนดี มีคุณภาพ ก้าวไกลเทคโนโลยี บรรยากาศสิ่งแวดล้อมดี มีชุมชนร่วมคิดพัฒนา” โดยมุ่งเน้นคุณภาพนักเรียน ให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ คิดวิเคราะห์
คือ นักเรียนอ่านและแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง เพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษและการค้นคว้า
สามารถใช้เทคโนโลยีสารเทศและการสื่อสารเพื่อการเรียนรู้ ทำให้ผู้สอนต้องปรับเปลี่ยนวิธีการ
จัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ได้จัดให้นักเรียนเรียนรู้จากสื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น โปรแกรม
คอมพิวเตอร์ช่วยสอนภาษาอังกฤษชุด Tell me more บทเรียนภาษาอังกฤษทางอินเทอร์เนต มีการ
ใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในวิชาพื้นฐานและวิชาเพิ่มเติม มีการเรียนรู้จากวีดิทัศน์ เป็นต้น
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม แม้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษจากสื่อต่าง ๆ ที่กล่าวมา ผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนและจากผลการทดสอบแห่งชาติ ในวิชาภาษาอังกฤษ ปี 2549-2550 ยังอยู่ในเกณฑ์
ที่ไม่น่าพอใจ จากการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและจากการสังเกตพบว่าผู้เรียนส่วนมากในระดับ
ช่วงชั้นที่ 3 และ4 ยังมีปัญหาเรื่อง คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ผู้เรียนยังขาดความรู้และทักษะที่จะนำ
คำศัพท์ไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ รวมทั้งใช้ในการวัดผลสัมฤทธิ์ การสอบเข้าเรียนในสถาบัน
ต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้ ถ้าผู้เรียนมีการพัฒนาทักษะทางด้านคำศัพท์ภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องสามารถ
ฝึกฝนเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะการเรียนรู้ด้วยสื่อเทคโนโลยีจะทำให้ผู้เรียนเพิ่มพูนความรู้
ด้านคำศัพท์ภาษาอังกฤษมากขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในบทเรียน
เกิดเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าว การใช้บทเรียนและแบบฝึกทักษะคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำเร็จรูป
หรือคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจะเป็นแรงจูงใจให้ผู้เรียนกระตือรือร้นที่จะฝึกฝนทักษะ เพราะสื่อ
การเรียนการสอนเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ
ศศิฉาย ธนะมัย (2546) ได้กล่าวถึงบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีคุณค่าต่อการเรียน
การสอนที่สำคัญ ดังนี้
1. ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตามความช้าเร็วของตนเอง ตามความต้องการเรียน หรือ
ตามความสามารถและผู้เรียนจะปลอดจากอิทธิพลของครู จะเป็นการเรียนที่ตอบสนองความ
แตกต่างระหว่างบุคคลได้อย่างดี
2. ผู้เรียนจะได้รับการเสริมแรงทันทีทันใดจากบทเรียนตามที่ได้โปรแกรมไว้
3. สามารถสร้างโปรแกรมให้ดึงดูดความสนใจผู้เรียนได้ง่าย สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียน
อยากเรียนและตื่นตาตื่นใจกับรูปแบบต่าง ๆ ที่อยู่ในบทเรียน
4. สามารถรวมเอาเสียงดนตรี สีสันสวยงาม กราฟิกและความเคลื่อนไหวทำให้ดูเหมือน
ของจริงและเร้าใจสนับสนุนการสร้างสถานการณ์จำลองเพื่อการเรียนรู้และทำการฝึกปฏิบัติ
5. ส่งเสริมการเรียนด้วยตนเอง เนื่องจากความสามารถในการเก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์
ทำให้การเรียนด้วยตนเองเป็นไปอย่างสะดวกง่ายดาย
6. สามารถควบคุมประเมินผลความก้าวหน้า ติดตามความก้าวหน้าในการเรียนของผู้เรียน
ได้ทันทีเพราะคอมพิวเตอร์บันทึกการเรียนของผู้เรียนแต่ละบุคคลไว้
7. ในการเรียนการสอนแต่ละครั้งสามารถให้ความเชื่อถือแก่ผู้เรียนโดยไม่เปลี่ยนแปลง
ช่วยให้การเรียนมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ช่วยลดเวลาและทุ่นแรงผู้สอนทำให้ผู้เรียนบรรลุ
จุดมุ่งหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ก็ดีกว่า หรือเท่ากับการเรียนตามปกติ
8. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนและทำงานกับโปรแกรมได้อย่างกว้างขวาง
ช่วยในการฝึกซ้ำ ๆ ได้โดยไม่จำกัดตามต้องการของผู้เรียน
กิดานันท์ มลิทอง (2548) ได้กล่าวถึงคอมพิวเตอร์ช่วยสอนว่า
… การนำคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมาใช้เป็นสื่อการสอนเพื่อให้มีการโต้ตอบกันได้
ในระหว่างผู้เรียนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมทั้งการตอบสนองต่อข้อมูลที่ผู้เรียนป้อนเข้าไปได้
ในทันที ซึ่งเป็นการช่วยเสริมแรงให้แก่ผู้เรียน เช่นเดียวกับการเรียนการสอนระหว่างผู้สอน
กับผู้เรียนที่อยู่ในห้องปกติ บทเรียนซีเอไอจะมีรูปแบบต่าง ๆ ในแต่ละบทเรียนจะมีตัวอักษร
ภาพกราฟิก ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวและเสียงประกอบด้วยในลักษณะสื่อประสมทำให้ผู้เรียน
สนุกไปกับการเรียนโดยไม่รู้สึกเบื่อหน่าย…
จากที่กล่าวมา ทำให้ผู้ศึกษามีความสนใจในการสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
เรื่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนมวกเหล็กวิทยา จังหวัดสระบุรี ว่าเมื่อผู้เรียนได้ศึกษาบทเรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษแล้ว จะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้น
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
วิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนมวกเหล็กวิทยา
จังหวัดสระบุรี
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
โรงเรียนมวกเหล็กวิทยา จังหวัดสระบุรี หลังเรียนจากบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนกับคะแนน
ทดสอบก่อนเรียน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ผู้สอนสามารถนำบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
วิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันที่มีประสิทธิภาพ มาใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
โรงเรียนมวกเหล็กวิทยา จังหวัดสระบุรี
2. ผลการวิจัยสามารถเป็นแนวทางในการสร้างและพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์
ในเรื่องอื่น ๆ ใน วิชาภาษาอังกฤษและแขนงสาขาวิชาอื่น ๆ ได้ต่อไป
ขอบเขตของการวิจัย
1. กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนมวกเหล็กวิทยา จังหวัดสระบุรี
ที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ปีการศึกษา 2550
2. ตัวแปรที่จะศึกษา
2.1 ตัวแปรต้น คือ การเรียนโดยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
2.2 ตัวแปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง หลังจากเรียน
โดยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
นิยามศัพท์
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หมายถึง โปรแกรมสำเร็จรูปที่เอื้ออำนวยต่อการเรียน
การสอน โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นสื่อในการเสนอเนื้อหาและเป็นการเรียนแบบปฏิสัมพันธ์
ระหว่างผู้เรียนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเรียนการสอน
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง คะแนนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้จากการทำ
แบบทดสอบหลังจากเรียนโดยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หมายถึง บทเรียนที่มีประสิทธิภาพจาก
การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ตามเกณฑ์ 80/80 (เปรื่อง กุมุท, 2527) โดยมีข้อกำหนดดังนี้
80 ตัวแรก คือ ค่าเฉลี่ยของคะแนนเป็นร้อยละของผลการทดลองที่นักเรียนทั้งหมด
ทำแบบทดสอบไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ 80 ที่ตั้งไว้
80 ตัวหลัง คือ ค่าเฉลี่ยของคะแนนร้อยละของจำนวนนักเรียน ที่ตอบคำถาม
ของข้อสอบแต่ละข้อถูกไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ 80 ที่ตั้งไว้
ไม่มีความเห็น