การปฏิบัติธรรม


การได้เรียนรู้หลักการเหมือนเราได้เห็นแผนที่ก่อนออกเดินทาง เมื่อเราปฏิบัติธรรมเราจะได้รู้เราปฏิิบัติอยู่ในส่วนไหนสัมพันธ์กับส่วน อื่นๆ อย่างไรและทางที่ต้องพัฒนาต่อไปเป็นอย่างไร แล้วยังทำให้เข้าใจผู้อื่นด้วยว่าเขาปฏิบัติอยู่ ณ จุดใด มีจุดร่วมกันที่ตรงไหน หรือแบบใดที่ไม่ใช่การปฏิบัติแนวทางการปฏิบัติแบบพุทธ...

การได้เรียนรู้หลักการที่เป็นแก่นของพระพุทธศาสนาเสียก่อนเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการปฏิบัติธรรม เพราะทุกวันนี้มีแนวทางปฏิบัติหลากหลายให้เราได้เลือก แต่ละสายก็ว่าวิธีที่ตนเองสอนนั้นดีที่สุด ตรงที่สุด ง่ายที่สุด จนชาวพุทธเราสับสน

การได้เรียนรู้หลักการเหมือนเราได้เห็นแผนที่ก่อนออกเดินทาง เมื่อเราปฏิบัติธรรมเราจะได้รู้เราปฏิิบัติอยู่ในส่วนไหนสัมพันธ์กับส่วนอื่นๆ อย่างไรและทางที่ต้องพัฒนาต่อไปเป็นอย่างไร แล้วยังทำให้เข้าใจผู้อื่นด้วยว่าเขาปฏิบัติอยู่ ณ จุดใด มีจุดร่วมกันที่ตรงไหน หรือแบบใดที่ไม่ใช่การปฏิบัติแนวทางการปฏิบัติแบบพุทธเถรวาท (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวิธีนั้นนำมาใช้กับพุทธเถรวาทของเราไม่ได้เลย)

ถ้าจะเล่าให้ฟังอย่างย่อๆ ที่สุด การปฏิบัติธรรมหรือการฝึกฝนพัฒนาตนตามหลักพุทธศาสนาก็ต้องประกอบไปด้วย ๓ ด้าน ด้านทางกาย (ศีล) ด้านจิตใจ (สมาธิ) และด้านปัญญา (ความรู้ความเข้าใจต่อโลกและสรรพสิ่ง) ซึ่งแต่ละด้านนั้นก็มีรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติม เช่น การพัฒนาจิตก็ไม่ได้หมายถึงการฝึกสมาธิแต่เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการเจริญสติ และการสร้างความบากบั่นขยันทำด้วย อีกทั้งยังทิ้งอีก ๒ ด้านที่เหลือไม่ได้ด้วย เป็นต้น

หากหวังผลให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในธรรม (ปฏิเวธ) การศึกษาตัวหลักการ (ปริยัติ) และการปฏิบัติธรรมเป็น ๒ ส่วนที่สำคัญที่อิงอาศัยกันอยู่ตลอดขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้

ที่สำคัญคือต้องทำอยู่ตลอดเวลาหรือทุกๆ ขณะที่เราตื่นอยู่ การปลีกตัวลางานไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมปีละ ๗ วัน ๑๐ วัน เป็นสิ่งที่ดีที่ควรทำแต่ก็ยังไม่เพียงพอ ธรรมะควรต้องถูกนำมาใช้ในทุกๆ ขณะของชีวิต ทุกครั้งที่เราคิด พูด ทำ ควรต้องมีธรรมะเป็นพื้นฐาน ยิ่งกำลังรีบ กำลังเครียด กำลังทุกข์ยิ่งต้องใช้ธรรมะมากเป็นพิเศษ ใครที่คิดว่ารอให้ว่างกว่านี้ก่อนจะปฏิบัติธรรมเห็นจะไม่ถูก

แต่ก็เป็นธรรมดาที่เราจะเผลอไผลไปบ้าง เผลอไปก็เอาใหม่ ทำใหม่ ทำไปเรื่อย ความเพียรจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการพัฒนาตนแบบพุทธ เราเองก็ต้องสร้างเงื่อนไข สร้างกฎเกณฑ์ที่จะช่่วยกระตุ้นความเพียรให้ตัวเราด้วย ไม่งั้นเผลอแป๊บเดียว เดี๋ยวก็แก่ เดี๋ยวก็ป่วย เสียดายโอกาสเมื่อยังแข็งแรงมีสุขภาพดีแย่เลย...

เป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะ... พระจอม

หมายเลขบันทึก: 440883เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2011 13:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท