หากโดยทั่วไปแล้วตามความเข้าใจที่เราระลึกได้เมื่อเอ่ยถึงศีลของสอง นั่นก็คือ การไม่ขโมยสิ่งของอันเป็นสิ่งที่เจ้าของไม่ได้ให้
แต่ในนัยนี้...หลวงปู่ติช นัทฮันห์ได้กล่าวว่า
ศีลข้อสอง
ตระหนักถึงความทุกข์อันเกิดจากการเอาเปรียบ สังคมอยุติธรรม การลักขโมย และการกดขี่ขูดรีด ข้าพเจ้าของปวารณาตัวที่จะบ่มเพาะความเมตตา ความรัก และเรียนรู้วิถีทางที่จะทำงานเพื่อความเป็นดีอยู่ดีของมนุษย์ สัตว์ และพืช ข้าพเจ้าขอปวารณาตัวที่จะแสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ด้วยการแบ่งปันเวลา กำลัง และทรัพยากรให้แก่ผู้ที่เดือดร้อนและต้องการอย่างแท้จริง ข้าพเจ้าขอตั้งปณิธานในอันที่จะไม่ลักขโมยและไม่เอาของผู้อื่น ข้าพเจ้าจะเคารพในทรัพย์สินของผู้อื่น แต่ข้าพเจ้าจะป้องกันมิให้ผู้อื่นเอาประโยชน์จากความทุกข์ของมนุษย์หรือความทุกข์ของสิ่งทั้งหลายในโลกนี้
หลวงปู่ติช นัท ฮันห์
สำหรับข้าพเจ้าแล้ว...
ศีลข้อนี้คือ การได้นำพาให้เราละออกจากความเห็นแก่ตัว
และการฝึกฝนบนเส้นทางแห่งการเสียสละ การตั้งมั่นในช่วยเหลือสรรพสิ่งต่างๆ ซึ่งในขณะที่เรากำลังช่วยเหลือผู้คนอยู่นั้น เราก็กำลังบ่มเพาะพลังแห่งการเสียสละให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นในจิตใจเรา
กราบเรียน อาจารย์ครับ สบายดีนะครับ
- ผมอ่านบันทึกนี้แล้วครับ ชอบครับ ดีใจที่ได้เข้ามาอ่านครับ
- เรื่องที่ผมขอเรื่องอาจารย์ลงวารสารไปครับ บก. ยังไม่คลอดเลยนะครับ ถ้าเสร็จผมจะส่งไปให้อ่านนะครับ
- เรื่องอาจารย์ชวนไปเวที R2R ผมไปอยู่แล้วครับ และคงไม่พลาด ต้องไปนั่งฟังห้องอาจารย์ไม่พลาดครับ
ส่วนเรื่องอาจารย์ชวนขึ้นเวทีด้วย หนักใจครับว่า ผมกลัวจะทำให้หมดสาระและหมดความสุขครับ แต่ถ้าคิดว่า
พอเข็นผมไม่ยาก ก็อยากจะลองดูนะครับ (ถ้าไม่ใช่อาจารย์ไม่ต้องกังวลและลืมก็ได้ครับ)
ขอบพระคุณอาจารย์ที่ทำให้ผมมีความรู้สึกมีความสุขในชีวิต...อยู่เพื่อเรียนรู้...อยู่เพื่อแบ่งปันครับ
และดีใจที่มีอาจารย์อยู่ในชีวิตผมนะครับ