อร่อยกับอาหารพื้นบ้านจากแคป่า


ช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี ผมเคยเก็บดอกแคไปฝากญาติๆที่ภูมิลำเนา เพราะว่านำไปเป็นเครื่องเคียงของลาบและน้ำพริกตาแดงและน้ำพริกอ่อง ซึ่งเป็นอาหารที่อร่อยของทางภาคเหนือครับ

 

 

          ดอกแคป่า เป็นอาหารพื้นบ้านที่คนในชุมชนนิยมรับประทานโดยนำดอกไปลวกหรือต้มเป็นอาหารที่นำมาจิ้มกับน้ำพริกและ ลาบ ที่มีรสชาติอร่อยอีกรูปแบบหนึ่ง  ก่อนอื่นเราลองมาทำความรู้จักว่าดอกมีลักษณะดังนี้ ดอกโตสีขาว รูปแจกันทรงสูงหรือรูปแตร ออกรวมกันเป็นช่อสั้นๆ ตามปลายกิ่ง ช่อดอกแบบติด ดอกสลับ ยาว 2-3 ซม. แต่ละช่อมีดอกอยู่รวมกัน 3-7 ดอก กลีบฐานดอกทรงรูปกรวย ยาว 3-5 ซม. ปลายด้านหนึ่งจะเป็นจงอยผิวคล้ำ โคนกลีบดอกติดกันเป็นหลอดรูปทรงกระบอกตอนครึ่งล่างส่วนครึ่งบนจะบานโป่งออก ทั้งหมดยาว 11-19 ซม. ปลายแยกเป็น 5 กลีบ แผ่กว้างตั้งฉากกับตัวหลอด เมื่อบานเต็มที่กว้างถึง 8 ซม. ผิวกลีบและขอบกลีบจะย่นเป็นริ้ว เกสรตัวผู้มี 2 คู่ สั้นหนึ่งคู่และยาวหนึ่งคู่ ติดอยู่โคนผนังกลีบดอกด้านใน รังไข่รูปขอบขนานภายในมี 2 ช่อง แต่ละช่อมีไข่อ่อน

 

 

     ในช่วงที่ดอกแคป่ามีมากจะอยู่ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์-เมษายน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี  ผมเคยเก็บดอกแคไปฝากญาติๆที่ภูมิลำเนา  เพราะว่านำไปเป็นเครื่องเคียงของลาบและน้ำพริกตาแดงและน้ำพริกอ่อง ซึ่งเป็นอาหารที่อร่อยของทางภาคเหนือครับ

 

   

          การที่จะนำดอกแคป่าไปรับประทานนั้น เราควรจะรู้เทคนิคที่จะลดความมีรสขม โดยการนำเอาก้านชูเกสรที่อยู่ในดอกทิ้งให้หมด แล้วจึงนำไปลวกหรือต้ม โดยการต้มหรือลวกก็ควรจะต้มน้ำให้เดือดจัดก่อนแล้วจึงนำดอกแคที่เก็บมาจากต้นสดๆลงหม้อน้ำร้อนที่เดือดใช้เวลาที่เหมาะประมาณ๑-๒ นาที ก็เพียงพอแล้ว จากนั้นก็ตักดอกแคออกไปใส่ในถาดหรือหม้อที่มีน้ำสะอาดแช่อยู่แล้ว

 

              ก้านชูเกสรที่อยู่ในดอกแคป่าซึ่งถูกดึงออกมากองไว้เพื่อทิ้ง

 

                    นำดอกแคป่าใส่หม้อน้ำเดือดนาน๑-๒ นาที

 

เมื่อลวกหรือต้มเสร็จแล้ว ก็นำไปแช่น้ำสะอาดในถาดเพื่อจะนำไปรัปประทานต่อไป

 

 

         สำหรับการนำไปรับประทาน ก็ใช้มือปั้นดอกแคเป็นกำๆเพื่อบีบเอาน้ำออกให้หมด จากนั้นก็นำไปใส่จานหรือภาชนะที่จะใช้ใส่ดอกแค เพื่อจิ้มกับน้ำพริกหรือลาบได้   บางท่านก็สามารถนำดอกแคป่าที่ลวกแล้ว ไปประยุกต์เป็นยำดอกแคยังได้อีกเมนูหนึ่ง ที่ใส่ทั้งงาดำหรืองาขาวโดยคั่วใส่เป็นส่วนผสมของเครื่องปรุงครับ

 

      ท้ายสุดนี้ผมอยากจะเชิญชวนทุกท่านลองหันมารับประทานอาหารพื้นบ้าน ที่ปลอดภัยจากสารพิษกันเถอะครับโดยเน้นอาหารประเภทผักพื้นบ้าน

 

เขียวมรกต
๑๖ เมย.๕๔
 

 

 

หมายเลขบันทึก: 435517เขียนเมื่อ 16 เมษายน 2011 12:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
  • สวัสดีค่ะ
  • อยากเห็นต้นด้วยค่ะ
  • เพราะเพื่อนนำต้นมาให้ปลูกบอกว่าแคป่า
  • ปลูกได้ ๑ ปีแล้วต้นสูงท่วมศรีษะแล้วยังไม่ออกดอก
  • ไม่รู้ใช่หรือไม่ค่ะ
  • ขอบคุณท่านอาจารย์ลำดวน
  • ที่แวะมาทักทายและให้กำลังใจกัน
  • ส่วนใหญ้ต้นแคป่ามักจะนิยมปลูกขอบกลางถนนหรือที่สนามก๊อฟครับ

  • สวัสดีค่ะ
  • ขอบคุณมากค่ะที่นำต้นแคป่ามาให้ดู
  • ต้นใหญ่นะคะ ต้องย้ายที่ปลูกแน่ๆค่ะ
  • เพราะคิดว่าเป็นไม้พุ่มขนาดกลางๆ
  • นำไปปลูกในใกล้แปลงดอกไม้.....

ว่ากันว่า กินดอกแค่แก้ไขหัวลม น่าจะจริงนะครับ


  • ขอบคุณท่านอาจารย์ลำดวน
  • ที่มาลปรร.กันเสมอมา
  • ต้นแคป่าเป็นไม้พุ่มใหญ่ หากมีพื้นที่จำกัดต้องควบคุมการตัดแต่งกิ่งครับ
  • ขอบคุณท่านอาจารย์โสภณ
  • ที่แวะมาทักทายและลปรร.กันเสมอมา
  • ความจริงแล้วประโยชน์คุณค่าทางอาหารทางการวิจัยยังไม่ปรากฎ
  • แต่จากคำเล่าของผู้สูงวัยได้บอกว่า หากได้กินอาหารดอกแคลวกก็เท่ากับว่าได้กินผักไปด้วย ดีกว่ากินอาหารประเภทเนื้อและไขมันอย่างเดียว แต่ที่แน่ๆความเชื่อว่ารสขมของดอกแคนั้นแหละเป็นยา ครับ
  • ลองรับประทานดูนะครับแล้วจะติดใจ

สวัสดีครับ สำหรับท่านที่อยากเห็นต้นแคป่า ตอนนี้ประมาณ6โมงเช้าทุกๆวันจะออกดอกเยอะมาก ที่บิ๊กซีพระราม2(คาร์ฟรูเก่า)ผมเห็นคนมาเก็บกันทุกๆวันเลยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท