วันนี้เป็นวันสงกรานต์ ซึ่งดิฉันก็คงจะไม่ออกไปไหนแน่นอน และก็นั่งคิดว่าจะเอาความรู้และประสบการณ์อะไรเข้ามาเล่าไว้ในบล็อกดี เพราะว่าดิฉันก็ห่างหายไปนาน ตอนนี้ดิฉันก็พอที่จะนึกออกแล้วค่ะ
ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีมากๆเลยค่ะ ดิฉันเคยได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมการส่งเสริมสำนึกพลเมือง โดย สำนักส่งเสริมการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า บางคนพอได้ยินว่าไปอบรมสำนึกพลเมืองก็มักจะแซวกันค่ะว่า ทุกวันนี้ยังไม่มีสำนึกหรอ555 แต่ดิฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเพราะคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่นอน
สิ่งที่ดิฉันได้จากการเข้าอบรมในครั้งนั้น ดิฉันได้เข้าใจความเป็นพลเมืองมากขึ้น มากขึ้นยังไง เดี๋ยวดิฉันจะเริ่มอธิบาย โดยสรุปตามความเข้าใจของดิฉันเลยนะค่ะ
ในอันดับแรกอยากจะพูดถึง เรื่อง ของความเป็นประชาชนและความเป็นพลเมือง ซึ่งเรามักจะมองไม่เห็นความแตกต่างของคำสองคำนี้เท่าไหร่ เรามักจะได้ยินคนพูดถึงคนในประเทศ หรือแม้กระทั่งตัวเราเองที่พูดถึงคนในประเทศหลายๆคนว่า ประชาชน แม้กระทั่งในข่าวที่มักจะใช้คำว่า ประชาชนคนไทย เป็นต้น
คำว่าประชาชน หมายถึง บุคคลที่อยู่ในประเทศหรือรัฐ ซึ่งไม่สามารถมีสิทธิ มีเสียง หรือแสดงความคิดเห็น ภายในประเทศ รวมถึงไม่สามารถแสดงความคิดเห็นต่อการบริหารประเทศของรัฐบาลในประเทศด้วย
ส่วนคำว่า พลเมือง หมายถึง บุคคลที่อยู่ในประเทศหรือรัฐ ซึ่งมีสิทธิออกเสียงและสามารถแสดงความคิดเห็น รวมถึง การมีส่วนร่วมในเรื่องต่างๆภายในประเทศ และการบริหารประเทศรวมถึงนโยบายที่รัฐจัดขึ้น ซึ่งพลเมืองเองก็มีสิทธิและสามารถเสนอความคิดเห็นออกมาเป็นนโยบายต่างๆ ได้ ด้วยเช่นกัน
เพราะฉะนั้นคุณคิดว่าคุณจะเป็นประชาชนหรือเป็นพลเมืองกันค่ะ ?????
เราอย่าได้แต่พูดว่า เราควรทำตามหน้าที่และสิทธิ แต่เราต้องทำให้ได้อย่างที่พูดจริงๆ แสดงความเป็นพลเมืองเจ้าของประเทศกันเถอะค่ะ
นอกจากนี้ชุมชนต่างๆที่มีปัญหาหรือประสบปัญหา เราก็สามารถยื่น หรือเสนอปัญหาของให้ให้กับหน่อวยงานราชการได้ด้วยนะค่ะ โดยการทำนโยบายสาธารณะโดยการทำประชาคมในชุมชน เพื่อหาข้อสรุป และนำเสนอเป็นนโยบายของเรา
โดยเริ่มจาก
1. ช่วยกันหาปัญหาที่ต้องการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
2. เราต้องนำเสนอให้เห็นว่าทำไมปัญหานี้ถึงสำคัญ และเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
3. วิธีการแก้ไขปัญหาของชุมชน ให้เขารู้ไปเลยค่ะว่า นี่เรามีวิธีแก้ไขมาให้ด้วยนะค่ะ
4. งบประมาณที่ต้องให้ค่ะ ว่าต้องใช้เท่าไหร่ในการแก้ไขปัญหาชุมชนของเรา
5. เราก็เอาไปนำเสนอให้กับคนใหญ่ คนโตค่ะ
เนี่ยแหละค่ะ แค่นี้เอง เราก็จะได้นำเสนอปัญหาและความคิดเห็นของเราในฐานะพลเมือง ได้แล้วค่ะ
ทุกวันนี้ดิฉันก็ได้รับหน้าที่เป็นวิทยากรในการทำประชาคมให้กับชาวบ้านเพื่อหาปัญหาในชุมชนนั้นๆและเพื่อนำเสนอให้กับหน่อยงานของรัฐด้วยค่ะ
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสรุปองค์ความรู้ ที่ได้จากการอบรมและ ต้องการนำเสนอให้กับหลายๆท่าน ได้เห็นความสำคัญของการเป็นพลเมืองค่ะ
สำหรับข้อมูลในที่นี้ต้องขอขอบคุณอาจารย์เล็ก ศุภณัฐ เพิ่มพูนวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการเมืองภาคพลเมือง และที่งาน ผู้จัดการอบรมจากสำนักส่งเสริมการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า ซึ่งข้อมูลในวันนี้อาจจะไม่ครบถ้วนมากนัก และอาจมีข้อผิดพลาดประการใด ซึ่งต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ขอบใจมากจ้ะ เขียนได้ดี ขอให้เขียนต่ออีกนะคะ จะได้ share ความรู้กัน