เรื่องภิกษุผู้เจริญวิปัสสนา
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุผู้เจริญวิปัสสนามีประมาณ 500 รูป ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า ยถา พุพฺพุฬกํ เป็นต้น
สมัยหนึ่ง ภิกษุ 500 รูป เรียนพระกัมมัฏฐาน ในสำนักของพระศาสดาแล้ว ก็ได้เข้าไปปฏิบัติธรรมอยู่ในป่า แม้จะขะมักเขม้นปฏิบัติอย่างไร ก็ไม่สามารถบรรลุคุณวิเศษอะไร ดังนั้นจึงได้พากันเดินทางกลับไปเฝ้าพระศาสดาเพื่อทูลขอหัวข้อพระกัมมัฏฐานที่เหมาะสมยิ่งขึ้น ในระหว่างทางได้เห็นพยับแดด ก็ได้นำพยับแดดมาพิจารณาเป็นอารมณ์ของพระกัมมัฏฐาน ในช่วงที่จะเข้าสู่บริเวณวัดพระเชตวัน ได้เกิดฝนตก เห็นฟองน้ำที่เกิดจากการตกลงมาของสายฝนมีลักษณะเกิดขึ้นแล้วแตกไปก็ได้ยึดเป็นอารมณ์กัมมัฏฐานว่า “อัตภาพนี้เป็นเช่นกับฟองน้ำเพราะอรรถว่าเกิดขึ้นแล้วแตกไปเหมือนกัน”พระศาสดา ประ ทับนั่งในพระคันธกุฎี ทรงแลดูภิกษุเหล่านั้น ทรงแผ่โอภาส เหมือนตรัสกับภิกษุเหล่านั้น
ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
ยถา พุพฺพุฬกํ ปสฺเส
ยถา ปสฺเส มรีจิกํ
เอวํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ
มจฺจุราชา น ปสฺสติ ฯ
(แปลว่า)
พระยามัจจุ ย่อมไม่เห็น
บุคลผู้พิจารณาเห็นอยู่ซึ่งโลก
เหมือนบุคคลพึงเห็นฟองน้ำ
และเหมือนบุคคลเห็นพยับแดด.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ภิกษุเหล่านั้น บรรลุพระอรหัตแล้ว ในที่ที่ตนยืนอยู่นั่นเอง.
ไม่มีความเห็น