ขั้นตอนการขอวีซ่า


การยื่นคำร้องขอวีซ่า

ขั้นตอนการยื่นคำร้อง

1. ชำระค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ ท่านต้องชำระค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ เป็นจำนวนเงิน 100 เหรียญสหรัฐ (หรือเทียบเท่าค่าเงินบาทไทยปัจจุบัน) ณ ที่ทำการ ไปรษณีย์ทุกแห่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล (ยกเว้นไปรษณีย์สาขาย่อย) จะไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกว่าท่านจะได้ชำระ ค่าธรรมเนียมนี้แล้ว (ยกเว้นผู้ถือหนังสือเดินทางทูต ที่ได้รับวีซ่าชนิดยกเว้นค่าธรรมเนียม) ในวันที่ท่านยื่นขอวีซ่า ท่านต้องแสดงใบ เสร็จที่ได้รับจากที่ทำการไปรษณีย์พร้อมกับใบคำร้อง ท่านต้องแน่ใจว่า ท่านได้รับใบเสร็จจากที่ทำการไปรษณีย์ และจะไม่มีการคืนค่าธรรมเนียมนี้ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น ท่านจะต้อง ชำระค่าธรรมเนียมนี้ทุกครั้งที่ยื่นคำร้อง

2. กรอกใบคำร้อง (ดีเอส-156) ใบคำร้องขอได้ที่แผนกกงสุล หรือใช้แบบฟอร์มซึ่งพิมพ์ออกทางอินเตอร์เนทที่ http://www.usa.or.th/embassy/visa.htm และอาจกรอกได้ที่สถานทูตในเช้าวันที่ท่านประสงค์จะยื่นคำร้องขอวีซ่า โปรดตอบคำถามทุกข้อให้สมบูรณ์ หากท่านไม่ตอบ คำถามทั้งหมดในคำร้องนี้ จะไม่มีการรับคำร้องของท่าน ผู้ยื่นคำร้องที่เป็นคนไทย ควรเขียนชื่อของตนเป็น ภาษาไทยในข้อ 3 พร้อมชื่อสกุลก่อนสมรส ชื่อทางศาสนา ชื่อทางอาชีพ หรือชื่ออื่นใดที่ท่านได้เคยใช้มา หากผู้อื่นทำการกรอกใบคำ ร้องแทนท่าน บุคคลผู้นั้นต้องเขียนชื่อตัวพิมพ์ และลงลายมือชื่อของตนเอง ด้านล่างใต้ข้อ 35 ท่านจะต้องรับผิดชอบ ในความถูกต้องของ ข้อมูล ที่บุคคลผู้นั้นได้กรอกในใบคำร้องแทนท่าน

หมายเหตุ: การเซ็นชื่อในใบคำร้องขอวีซ่านี้ ถือว่าท่านได้รับรองข้อความทั้งหมดที่กรอกไว้ ว่าถูกต้องและเป็นความจริง หากท่านบิดเบือนข้อเท็จจริงประการใดก็ตาม ท่านสามารถจะถูก ระงับมิให้เดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯเป็นการถาวร กรุณาตรวจทานคำตอบทุกข้อให้แน่ใจ ว่าถูกต้องทุกประการ และโปรดสอบถามเจ้าหน้าที่หากท่านไม่เข้าใจคำถามใดๆในใบคำร้อง

3. ไปยังหน้าต่างตรวจรับเอกสาร ผู้สมัครขอวีซ่าต้องยื่นใบเสร็จที่ได้รับจากที่ทำการไปรษณีย์ ใบคำร้องของวีซ่าที่กรอกเป็นภาษาอังกฤษแล้ว หนังสือเดินทาง รูปถ่าย และหลักฐานต่างๆ (ดูข้างล่าง) หลังจากยื่นใบคำร้องและเอกสารต่างๆ ตามหน้าต่างที่ได้กำหนดไว้แล้ว ผู้สมัครขอวีซ่าจะได้รับบัตรนัดให้กลับมาฟังผลในตอนบ่ายของวันทำการถัดไป บางรายอาจได้รับวีซ่าโดยไม่มีการสัมภาษณ์ ในกรณีที่มีการนัดสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่จะให้ใบนัด ซึ่งระบุวันและเวลาที่จะต้องเข้ามารับการสัมภาษณ์ ในวันสัมภาษณ์ กรุณามารับหมายเลขบัตรคิวจากหน้าต่างที่ได้ระบุไว้ในใบนัด กรุณานั่งรอในบริเวณห้องพักจนกว่า หมายเลขของท่านจะปรากฎขึ้นบนจออีเลคทรอนิค หมายเลขบนคือหมายเลขบัตรคิวที่ท่านถืออยู่ หมายเลขล่างคือหมายเลขหน้าต่างที่ท่านจะเข้ารับการสัมภาษณ์

การยื่นคำร้องขอวีซ่าจะต้องนำอะไรมาบ้าง

หนังสือเดินทาง: หนังสือเดินทางของท่าน ควรมีอายุใช้ได้อย่างน้อยหกเดือน หลังจากวันที่ยื่นขอวีซ่า ท่านควรนำหนังสือเดินทางทุก เล่มที่มีอยู่ ซึ่งหมดอายุไปแล้ว หรือยังใช้ได้อยู่ (ถึงแม้จะเคยมีวีซ่าเข้าออกสหรัฐฯ หรือไม่ก็ตาม) มายื่นด้วย เพื่อประกอบในการพิจารณา การขอวีซ่าของท่าน

ภาพถ่าย: 1 รูป ( เป็นภาพสีหรือขาวดำ ) โดยฉากหลังของรูปต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ขนาด 50 x 50 มม. ( หรือ 2 x 2 นิ้ว ) เป็นรูปถ่ายหน้าตรง เห็นหูทั้ง 2 ข้าง ใบหน้าต้องมีขนาดใหญ่ประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่รูปถ่าย และต้องเป็นรูปถ่ายที่ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน (ลักษณะของรูปถ่ายที่ถูกต้องสำหรับผู้ขอวีซ่าชั่วคราว)

หลักฐานถิ่นที่อยู่ของท่านภายนอกสหรัฐฯ: การยื่นขอวีซ่าประเภทธุรกิจ/ท่องเที่ยว หมายถึงผู้ยื่นคำร้องกำลังขอ วีซ่าเข้า สหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว ก่อนที่ทางเราจะออก วีซ่าเข้าเมืองชั่วคราว ผู้ยื่นขอวีซ่าต้องแสดงให้เป็นที่พอใจ ต่อเจ้าหน้าที่กงสุลว่าท่านไม่มี ความประสงค์ที่จะเข้าไปอยู่ในสหรัฐฯ เป็นการถาวร ผู้ยื่นคำร้องจะทำได้ โดยการแสดงหลักฐานความผูกพัน ทางครอบครัว เศรษฐกิจ และสังคมอื่นๆ ที่มีอยู่ภายนอกประเทศสหรัฐฯ ญาติพี่น้อง นายจ้าง หรือ เพื่อนไม่สามารถ "รับประกันการเดินทางกลับ ของ ท่าน แทนการยื่นหลักฐานดังกล่าวได้ ทางเจ้าหน้าที่กงสุล ต้องพิจารณาจากสถานการณ์ ของบุคคลผู้ยื่นขอวีซ่า ว่า ผู้นั้น มีคุณสมบัติ จะได้รับวีซ่าด้วยตนเองหรือไม่ โดยไม่คำนึงว่า ผู้ใดออกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ข้อสำคัญคือเจ้าหน้าที่กงสุลพิจารณา การออกวีซ่าบนพื้นฐาน ของพระราชบัญญัติ การตรวจคนเข้าเมือง และสัญชาติสหรัฐฯ กฎหมายฉบับนี้ระบุว่า "เมื่อใดก็ตามที่บุคคลใด ยื่นคำร้องขอวีซ่า......ภาระการพิสูจน์จะตกอยู่กับบุคคลผู้นั้น ในการที่จะแสดงว่า ตนมีคุณสมบัติ" กฎหมายเข้าเมืองของสหรัฐฯ กำหนด ให้เจ้าหน้าที่กงสุล ปฏิเสธคำร้อง ของผู้ยื่นขอวีซ่า หากบุคคลดังกล่าวไม่สามารถแสดงหลักฐาน ที่เชื่อได้ว่า มิได้มีความประสงค์ต่อ การเป็นบุคคลเข้าเมืองถาวร ประเภทของหลักฐานที่สามารถนำมาประกอบในการพิจารณา เนื่องจากสภาพแวดล้อมแห่งครอบครัว สังคม และอาชีพ ของแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป

ทางเราจึงไม่สามารถระบุได้ว่า เอกสารใดที่ท่าน ยื่นแล้ว สามารถรับประกันได้ว่า ท่านจะได้รับวีซ่า อย่างไรก็ตามหลักฐานต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างที่เจ้าหน้าที่กงสุล จะขอดูอยู่เสมอๆ

หลักฐานการทำงาน: ผู้ขอวีซ่าอาจยื่นจดหมายจากนายจ้าง ระบุถึง (1) วันที่เริ่มทำงาน (2) เงินเดือน และ/หรือเงินค่าตอบแทน อื่นๆ (3) ตำแหน่งงานชั่วคราวหรือถาวร และ (4) ระยะเวลา ที่ท่านได้รับอนุญาตให้ลางานได้ กรณีข้าราชการ และลูกจ้างของรัฐบาลไทย ควรมีใบอนุมัติการลาหยุดงานมาแสดง ผู้ขอวีซ่าที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว ควรแสดงหลักฐานพิสูจน์ การเป็นเจ้าของกิจการของตน ผู้ที่จะ เดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อทำธุรกิจ เช่น ฝึกงาน หรือ เข้าร่วมประชุม ควรมีจดหมายจากบริษัทต่างประเทศที่ท่านกำลังจะไปติดต่อมาแสดง ด้วย ในรายที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ควรแสดงหลักฐานการศึกษาจากสถานศึกษาของท่าน สำหรับผู้เยาว์จะต้องแสดงหลักฐานทาง เศรษฐกิจของบิดา-มารดา

หลักทรัพย์: ผู้ยื่นคำร้อง ควรยื่นแสดงเอกสารทางการเงิน เพื่อพิสูจน์ว่าตน มีฐานะทางการเงินเพียงพอ ที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่าย ในการเดินทาง หลักฐานดังกล่าว อาจเป็น สมุดบัญชีเงินฝากประจำ บัญชีกระแสรายวัน บัญชีออมทรัพย์และ /หรือ ตั๋วสัญญาใช้เงิน ท่านควรยื่นแสดงเอกสารต้นฉบับเท่านั้น ทางสถานทูตจะไม่เก็บสำเนาเอกสาร

หลักฐานอื่นๆ: ท่านสามารถใช้ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส ภาพถ่ายพิธีสมรส และสูติบัตร เพื่อยืนยันความผูกพันทางครอบครัว หากท่านมีอาชีพ เป็นนายแพทย์ ทนายความ วิศวกร หรือสมาชิกสมาคมวิชาชีพอื่นใด ท่านควรนำใบอนุญาต การประกอบอาชีพนั้นๆ มาแสดง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการยื่นคำร้องขอวีซ่า

คำสำคัญ (Tags): #ปานไพร
หมายเลขบันทึก: 43128เขียนเมื่อ 7 สิงหาคม 2006 14:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท