ไตรสิกขา หมายถึงข้อที่พึงศึกษาปฏิบัติ 3 ประการ ที่สอดรับกับ มรรค ไตรสิกขา ก็คือการสรุป การย่อ หนทาง 8 แนวทางลงมาเพื่อนำไปปฏิบัติ ได้แก่
1. ศีล(แปลว่า ปกติ) ลูก ๆ ต้องเข้าใจว่า คนเราทุกคนเกิดมานั้น มีปกติวิสัยอย่างหยาบในตัวเองกั้นทุกคนคือมีกิเลสในตัวเอง กิเลสคือ ตัวสำคัญที่ทำให้จิตใจของเราเป็นทุกข็ ดังนั้นเราต้องขจัดกิเลส ขัดเกลาความหยาบในตัวเอง ด้วยการสงบกาย สงบวาจา ด้วย ศีล อย่างน้อยก็ถือ ศีล 5 ถ้าลูก ๆ ทุกคน ปฏิบัติได้ตาม ศีล 5 จิตใจก็จะมีแต่ความสุข
2. สมาธิ คือการฝึกหัดให้เกิดสันติสุขทางใจด้วยสมาธิ ภาวนา หัดใจไม่ให้คิดถึงความกำหนัดอันได้แก่ รัก โลภ โกรธ หลง และความกลัว ความฟุ้งซ่าน ดังที่ครูได้ฝึกให้ลูก ๆ ได้นั่งสมาธิทุก ๆ เช้าก่อนเริ่มเรียนวิชาแรก ซึ่งลูก ๆ คนไหน ปฏิบัติอย่างจริงจัง ก็จะเกิดผลดี เป็นคนมีสมาธิมา ปัญญาเกิด สมาธิ คือการขัดเกลากิเลสอย่างเป็นกลาง เป็นการสอนให้รู้ทันปัจจุบัน คือความไม่ประมาทนั่นเอง
3.ปัญญา คือการให้รู้จักคิดเห็นด้วยปัญญา เป็นการฝึกขัดเกลากิเลสอย่างละเอียด คือการพิจารณาให้เห็นว่า สรรพสิ่งทั้งหลายไม่แน่นอน เป็นอนิจจังไม่เที่ยง ต้องเสื่อมลงและดับไปในที่สุด เป็นการใช้สมาธิที่ลึกและละเอียด พิจารณาลักษณะทั่วไปในสังขารของเรา (เรียกว่าการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน) คือ
1) อนิจจัง คือความไม่เที่ยงแท้ คือลูก ๆ ต้องเข้าใจว่า ทุกอย่างในโลกมีเกิด มีดับเป็นธรรมดา
2) ทุกขัง คือความไม่ทนอยู่ ไม่คงที่ มีทุกข์อยู่ทุกขณะ มีเดือดร้อน ทรุดโทรม เก่าแก่ลง หรือป่วยเจ็บทรมานและที่สุดคือตาย เป็นธรรมดาของชีวิต
3) อนัตตา คือความไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ของตน ไม่ยึดมั่นถือมั่น ไม่เข้าข้างตน ไม่ลืมตน ไม่หลงตน เราจะบังคับทุกอย่างให้เป็นไปตามที่เราต้องการไม่ได้
เรียกว่า "ปัญญาในไตรลักษณ์" การปฏิบัติให้ลึกซึ้งเพื่อให้ทะลุปัญญาในไตรลักษณ์นั้น มิใช่จะได้มาโดยง่าย ๆ ลูก ๆ จะต้องมีจิตที่เรียกว่า
อิทธิบาท 4 คือ
ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
เรื่องไตรสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญาก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องปฏิบัติ เรื่องไตรลักษณ์ หรือสามัญญลักษณะ ก็จะทำให้เรารู้เท่าทันความเป็นไปของโลก อยู่ในโลกได้อย่างมีความสุข
ขออนุโมทนากับคุณครูด้วยนะที่นำหลักธรรมมาทำเป็นบันทึก ใครผ่านมาผ่านไปได้อ่านได้ศึกษา ที่มาก็เพียงเยี่ยมชมแสดงความเห็นเพื่อเป็นการสนับสนุนให้กำลังใจคุณครู
ธรรมะนี่เป็นสิ่งที่มีคุณมีค่าเหลือเกิน สมแล้วที่มีบาลีว่า น เตน ธมฺเมน สมตฺถิ กิญฺจิ สิ่งใดๆ เสมอด้วยพระธรรมย่อมไม่มี นตฺถิ เม สรณํ อญฺญํ ธมฺโม เม สรณํ วรํ สรณะอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระธรรมเป็นสรณะอันประเสริฐของข้าพเจ้า
คนเราส่วนนึงเมื่อประสบทุข์แล้วค่อยนึกถึงธรรม แต่บางคนก็ประพฤติธรรมมาตลอด
ออกแบบได้สวยงามดีครับ
You are Superteacher.
เรียน คุณรัชดาวัลย์ วงษ์ชื่น(อิงจันทร์) ดิฉันได้เปิดมาเจอบทความของอาจารย์ เขียนได้ดีมากค่ะ ชัดเจน ข้อความกระชับเข้าใจง่ายค่ะอยากจะขออนุญาตนำไปเผยแพร่จะได้ไหมคะ ขอบพระคุณค่ะAngela Vajrayothin