การพัฒนาองค์การ
เสนอ
ดร.ยงยุทธ ยศยิ่งยง
จัดทำโดย
นายอนุวัฒน์ ชูแก้ว
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิชา การพัฒนาองค์การ
ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา2553
มหาวิทยาลัยปทุมธานี ศูนย์ห้องเรียนหาดใหญ่
คำนำ
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การพัฒนาองค์การ มีจุดประสงค์เพื่อให้ศึกษาหาความรู้และศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมในเรื่องของ การพัฒนาองค์การ แนวคิดการพัฒนาองค์การ รวมไปถึงลักษณะและกลยุทธ์ต่างๆ ของการพัฒนาองค์การ เพื่อให้นักศึกษาได้เข้าใจเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ ทางผู้จัดทำขอขอบคุณ ดร.ยงยุทธ ยศยิ่งยง ให้ความรู้และแนวทางการศึกษา ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้คงเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน
นายอนุวัฒน์ ชูแก้ว
ผู้จัดทำ
สารบัญ
เรื่อง หน้า
การพัฒนาองค์การ 1
- แนวคิดการพัฒนาองค์การ 1-2
- ความหมายของการพัฒนาองค์การ 3
วัตถุประสงค์ของการพัฒนาองค์การ 4-5
ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดการพัฒนาองค์การ 5
สาระสำคัญของการพัฒนาองค์การ 5
ลักษณะของการพัฒนาองค์การ 6
- ตัวอย่างปัญหาขององค์การ 6-8
ข้อจำกัดของการพัฒนาองค์การ 9-10
เงื่อนไขความสำเร็จในการพัฒนาองค์การ 10
ลักษณะเด่นของการพัฒนาองค์การ 11
ขั้นตอนการพัฒนาองค์การ 12
- การยอมรับปัญหา 12
- การเข้ามาของที่ปรึกษาการพัฒนาองค์การ 12-13
- การวิเคราะห์ปัญหา 14-15
- การป้อนข้อมูลป้อนกลับ 15
- การวางแผนดำเนินงาน 15-16
- การเลือกใช้เทคนิคการพัฒนาองค์การ 16
- การประเมินผล 17
ประเภทของเทคนิคการพัฒนาองค์การ 18-19
- เทคนิคการพัฒนาองค์การระดับบุคคล 20
- เทคนิคการพัฒนาองค์การระหว่างบุคคล 20
- เครื่องสอดแทรกการพัฒนาองค์การระดับกลุ่ม 20-25
-การพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างกลุ่ม 25-26
- ตัวอย่างโครงการเทคนิคองค์การ 26-28
การต่อต้านการเปลี่ยนองค์การ 28-29
เหตุผลในการต่อต้านการเปลี่ยนแปลง 29-30
การขจัดความรู้สึกต่อต้านการเปลี่ยนแปลง 31
-องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยขจัดการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาองค์การ 31-32
บทสรุป 32
เอกสารอ้างอิง 33
การพัฒนาองค์การ
ความหมายและแนวคิดของการพัฒนาองค์การ
แนวคิดการพัฒนาองค์การ(OrganizationDevelopment)
Organization Development (OD) – การพัฒนาองค์การ เป็นรูปแบบหนึ่งของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ระยะยาว ที่เกิดขึ้นทั่วทั้งองค์กร ถือได้ว่าเป็นศาสตร์ที่ผสมผสานระหว่างแนวคิดในเชิงสังคมศาสตร์และในเชิงวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน เกี่ยวข้องกับเครื่องมือในเรื่องพฤติกรรมมนุษย์ในองค์การที่ถูกนำมาใช้อย่างเป็นระบบ
พบว่าปัจจุบันผู้บริหาร นักพัฒนาบุคลากรหลายคนสงสัยว่า OD
นั้นมีความหมายแตกต่างไปจาก HRD อย่างไร
จากการที่ผู้เขียนได้ศึกษาความหมายของคำว่า OD
จะเห็นได้ว่ามีนักคิด
นักวิชาการมากมายที่ได้ให้คำนิยามเกี่ยวกับODที่เหมือนและแตกต่างกันดังต่อไปนี้
Richard
Beckhard (1969) กล่าวถึง OD ว่าเป็นความพยายามที่เกี่ยวข้องกับ 1)
แผนงานที่ถูกกำหนดขึ้น 2) องค์การในภาพรวม 3)
การบริหารจัดการจากผู้บริหารระดับสูง 4)
การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในระดับองค์การ และ 5)
เครื่องมือที่มีการวางแผนงานและถูกนำมาใช้ในกระบวนการทำงานขององค์การ
Wendell
French (1969) กล่าวถึง OD
ว่าเป็นกระบวนการระยะยาวที่เกิดขึ้นจากความพยายามในการปรับปรุงขีดความสามารถในการแก้ไขปัญหาและการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากภายนอกองค์การ
โดยมีที่ปรึกษาทั้งจากภายในและภายนอกองค์การที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลง
(Change Agent) คอยช่วยเหลือ
ให้คำปรึกษาแนะนำในการเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในองค์การ
Michael Beer
(1980) กล่าวว่า OD กระบวนการที่เป็นระบบในการรวบรวมข้อมูล
การวิเคราะห์ และการวางแผนงาน
รวมถึงการออกแบบเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลง
และการประเมินผลการเปลี่ยนแปลงของบุคลากรในองค์การ
Warner Burke
(1982) กล่าวว่า OD
เป็นกระบวนการที่มีการวางแผนเพื่อการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์การ
ด้วยการนำแนวคิด การวิจัย
และเครื่องมือทางพฤติกรรมศาสตร์มาใช้ในองค์การ
จากแนวคิดของนักคิดและผู้รู้ดังกล่าวข้างต้น พบว่า OD
เป็นกระบวนการหรือเครื่องมือที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากสภาวะแวดล้อมภายนอกในยุคของการแข่งขัน
ดังนั้นองค์การต่างๆ จึงมุ่งเน้นให้คนในองค์การเกิดการปรับปรุง
และการพัฒนาในขีดความสามารถของตน ทั้งนี้แนวคิดของ OD
จะเกิดขึ้นจากการที่ผู้บริหารได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลง
มิใช่การหยุดนิ่งอยู่กับที่ และหลายครั้งที่การทำ OD
ไม่ประสบความสำเร็จ
เนื่องจากผู้บริหารไม่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของ “คน”
ในองค์การเป็นเรื่องสำคัญ ทำให้ผู้บริหารขาดการมีส่วนร่วม
ขาดการผลักดันในการนำเครื่องมือต่างๆ
มาใช้ในองค์การอย่างจริงจัง ซึ่งบุคคลที่จะทำหน้าที่กระตุ้นให้ผู้บริหารระดับสูงเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญขอเครื่องมือODก็คือ
นักพัฒนาบุคลากร ที่จะต้องค้นหาปัญหา (Problem Identification)
ที่เกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้นหากองค์การไม่เปลี่ยนแปลงวิธีการคิดและวิธีการทำงานของบุคลากรในองค์การ
เมื่อค้นหาว่าอะไรเป็นประเด็นปัญหาที่ต้องรีบแก้ไขเปลี่ยนแปลงแล้ว
ขั้นตอนถัดไปคือการหาแนวร่วมจากผู้บริหารในสายงานต่าง ๆ
รวมทั้งพนักงานทุกคนในองค์การ การจัดทำแผนการสื่อสาร (Communication
Plan)
จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้ทั้งผู้บริหารและพนักงานเกิดความเข้าใจในเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลง
นักพัฒนาบุคลากรจะต้องสร้างจิตสำนึกของคนในองค์การก่อนเพื่อให้พวกเขาไม่ต่อต้านและพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงของระบบงานหรือกระบวนการทำงานที่แตกต่างไปจากเดิมที่เคยปฏิบัติ
และเมื่อพนักงานทุกคนตระหนักและเข้าใจถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงแล้ว
ขั้นตอนถัดไปคือการออกแบบเครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์การ
โดยไม่ควรลอกเลียนรูปแบบหรือแนวปฏิบัติจากองค์การอื่น
โดยเฉพาะองค์การที่ได้ชื่อว่าเป็น Best Practices
ที่ประสบความสำเร็จในเรื่องการนำเครื่องมือ OD มาใช้เพื่อพัฒนาองค์การ
และเพื่อให้เครื่องมือที่คิดขึ้นถูกนำมาประยุกต์ใช้งานได้
ข้อพึงระวังก็คือ
การให้ผู้บริหารและพนักงานมีส่วนร่วมในการนำเสนอแนวคิดและรูปแบบของเครื่องมือที่จะนำมาใช้ในองค์การ
โดยเข้าไปพบเพื่อสอบถามความคิดเห็น
หรือการทำแบบสำรวจเพื่อสอบถามถึงแนวคิดในการนำเครื่องมือต่างๆมาใช้ในการพัฒนาองค์การ
ดังนั้น OD
จึงเป็นเรื่องของแผนงาน กิจกรรม
และระบบงานที่ถูกคิดขึ้นเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนในองค์การ
ทั้งนี้แผนงานดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการค้นหาปัญหาที่แท้จริงว่าปัจจุบันองค์การกำลังเผชิญกับปัญหาในเรื่องใด
เช่น หากองค์การเผชิญปัญหาว่าพนักงานเก่ง (Talented People)
ลาออกค่อนข้างมาก
นักพัฒนาบุคลากรสามารถนำเสนอเครื่องมือการบริหารจัดการคนเก่ง
โดยการสร้างจิตสำนึก หรือ Talent Mindset
ให้กับผู้บริหารในหน่วยงานต่างๆ ก่อน
และหากผู้บริหารมีจิตสำนึกของการบริหารจัดการคนเก่งแล้ว
ขั้นตอนถัดไปก็คือการหาเครื่องมือและวิธีการที่เหมาะสมในการสร้าง
พัฒนา จูงใจและรักษาพนักงานเก่งเหล่านี้ไว้ให้ได้
ความหมายการพัฒนาองค์การ
ได้มีนักวิชาการหลายท่านได้เคยให้ความหมายเกี่ยวกับการพัฒนาองค์การไว้หลายแนวความคิดด้วยกัน ตัวอย่างเช่น
1. การพัฒนาองค์การ คือ ความพยายามอย่างมีแผน ที่มุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมขององค์การ เป็นความพยายามที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบขององค์การ ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ควรมุ่งเน้นที่การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมขององค์การเป็นหลัก ไม่ใช่การมุ่งเน้นที่การเปลี่ยนแปลงของบุคคล แต่การเปลี่ยนแปลงของบุคคลที่เกิดขึ้น เป็นผลพลอยได้ของการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมขององค์การ
2. การพัฒนาองค์การ คือ กระบวนการปรับปรุงองค์การให้กลับสู่สภาวะใหม่ที่เหมือนเดิมหรือดีกว่าเดิมโดยมุ่งที่ความกล้าในการยอมรับการเปลี่ยนแปลงเน้นให้องค์การมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่จะนำเอาความใหม่และแปลกทั้งทางด้านเทคนิค วิทยาการ และทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่ามาสู่องค์การ
3. การพัฒนาองค์การ คือ กระบวนการปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์การ โดยใช้การวิจัยเชิงแก้ปัญหา ซึ่งมีลักษณะเป็นกระบวนการการแก้ปัญหาอย่างมีระบบเชิงวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
จากความหมายข้างต้น สรุปได้ว่า การพัฒนาองค์การ หมายถึง ความพยายามอย่างมีแผนและต่อเนื่อง เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั่วทั้งระบบ โดยมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมขององค์การ เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์การ ทั้งนี้ต้องได้รับความเห็นชอบและสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง และต้องใช้เครื่องมือและเทคนิคทางด้านพฤติกรรมศาสตร์ ประกอบกระบวนการวิจัยเชิงแก้ปัญหาเป็นแม่แบบ
วัตถุประสงค์ของการพัฒนาองค์การ
การพัฒนาองค์การนั้นควรมุ่งเพื่อพัฒนาการทำงานเป็นทีมให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากวัตถุประสงค์ของกลุ่มย่อยและกระบวนการหรือวิธีการดำเนินงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของกลุ่มย่อยนั้น หากมีความขัดแย้งกันระหว่างกลุ่ม หรือขัดแย้งกับวัตถุประสงค์ขององค์การเอง จะเป็นหนทางสู่ความล้มเหลวขององค์การโดยส่วนรวมได้ ดังนั้นการพัฒนาองค์การ จึงควรมุ่งความสนใจไปที่การวางเป้าหมาย และการวางแผนในการสร้างวัตถุประสงค์ขององค์การอย่างมีระบบ ทั้งนี้ต้องหมายรวมถึงการมีส่วนร่วมของผู้นำการเปลี่ยนแปลงต้องเข้ามามีบทบาทและหน้าที่ ในการกระตุ้นให้องค์การสามารถสร้างวัตถุประสงค์ขึ้นทั้ง 3 ประเภท คือ
วัตถุประสงค์อย่างกว้าง ๆ ของการพัฒนาองค์การโดยทั่ว ๆ ไปแล้ว จะคล้ายคลึงกัน
ซึ่งพอสรุปได้ดังนี้
ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดการพัฒนาองค์การ
สาระสำคัญของการพัฒนาองค์การ
-วัฒนธรรมของทีมงาน มีอิทธิพลอย่างสูงต่อพฤติกรรมของบุคคล
ลักษณะของการพัฒนาองค์การ
การพัฒนาองค์การ เป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงองค์การ เพื่อการวิเคราะห์แหล่งที่มาของปัญหาภายในองค์การ และการดำเนินแผนงานเพื่อการแก้ไขปัญหาขององค์การ การพัฒนาองค์การจะเป็นกระบวนการร่วมมือร่วมใจของสมาชิกที่ถูกกระทบจากการเปลี่ยนแปลงขององค์การ พวกเขาจะต้องมีส่วนร่วมวิเคราะห์ปัญหาขององค์การอย่างจริงจัง และพัฒนาแนวทางการดำเนินงานใหม่ขึ้นมา เพื่อการแก้ปัญหาภายในองค์การของพวกเขา
ตัวอย่างปัญหาขององค์การ
ทุกองค์การย่อมจะต้องเคยเผชิญกับปัญหาที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในขึ้น การเปลี่ยนแปลงภายในอาจจะเป็นค่านิยม ทัศนคติ และพฤติกรรมของสมาชิกภายในองค์การ ตลอดจนโครงสร้างและกลยุทธ์ขององค์การ เป็นต้น ตัวอย่างเช่น
1. ความขัดแย้งระหว่างบุคคล
ผู้บริหารสองคนภายในแผนกเดียวกัน ไม่ชอบกันเป็นการส่วนตัว ความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานของพวกเขาจะเป็นการโต้แย้งกันอยู่บ่อยครั้ง และมีการต่อสู้ทางการเมืองอย่างรุนแรง ผู้บริหารแต่ละคนเชื่อว่าความสัมพันธ์ที่ไม่ดีและความขัดแย้งของพวกเขา ไม่ได้เป็นความรับผิดชอบของพวกเขา ความไม่สามารถทำงานร่วมกันของพวกเขา ได้ทำให้เกิดปัญหาอย่างรุนแรงแก่ผู้บังคับบัญชาของพวกเขา เมื่อการบรรลุความสำเร็จของงานขึ้นอยู่กับความร่วมมือระหว่างกันของพวกเขา ซึ่งนี่คือปัญหาอย่างหนึ่งขององค์การ
2. การสร้างทีมงาน
ทีมงานถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ที่องค์การมองว่าเป็นหัวใจของการแข่งขัน และความสำเร็จขององค์การในอนาคต ทีมงานจะประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลายแผนกงานภายในองค์การ สมาชิกแต่ละคนของทีมงานต่างมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับหน้าที่ของพวกเขา ผลงานของทีมงานภายในระยะแรกจะมีความคืบหน้าน้อยมาก ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ซาก ๆ แทนที่จะเป็นความร่วมมือของ "ทีมงาน" องค์การจะมีทีมงานที่เข้มแข็งและฉลาดไม่ได้ ตราบใดที่สมาชิกแต่ละคนกำลังเดินไปในทิศทางของเขาเอง ทำให้ความคืบหน้าของโครงการมีน้อยมาก ผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสำเร็จขององค์การจะต้องเกิดขึ้น นี่คือปัญหาอย่างหนึ่งขององค์การ
3. ความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม
พนักงานฝ่ายการตลาดของบริษัทแห่งหนึ่ง จะมองว่างานของพวกเขาคือ การเพิ่มยอดขายของสินค้าให้สูงสุดเพื่อเอาชนะคู่แข่งขัน พนักงานฝ่ายผลิตของบริษัทเดียวกัน ก็จะมองว่างานของพวกเขาคือ การลดต้นทุนการผลิตด้วยการรักษาคุณภาพของสินค้าไว้คงเดิม แผนการตลาดมักจะยอมรับเงื่อนไขพิเศษจากลูกค้า เช่น การเปลี่ยนแปลงตัวสินค้าและวันส่งมอบสินค้า เพื่อการเพิ่มยอดขายของพวกเขา ในขณะเดียวกันฝ่ายผลิตมักจะคัดค้านเงื่อนไขเช่นนี้ เพราะว่าต้นทุนการผลิตของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากงานพิเศษและค่าล่วงเวลา และจะเป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายการลดต้นทุนของพวกเขา ผลที่เกิดขึ้นคือ สองแผนกงานนี้จะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ความไม่ไว้วางใจสูงขึ้น และการติดต่อสื่อสารแย่ลง เราจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองแผนกนี้อย่างไร? นี่คือปัญหาอย่างหนึ่งขององค์การ
4. การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
การคุกคามของผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ต่อองค์การกำลังเพิ่มสูงขึ้น องค์การบางแห่งได้เพิ่มงบประมาณให้แก่นักวิจัยและวางแผนเกือบเท่าตัว ด้วยงบประมาณจำนวนนี้ เจ้าหน้าที่ของแผนกวิจัยและวางแผนจึงได้เพิ่มจำนวนสูงขึ้นด้วย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่มีความสามารถ แต่ผลงานของแผนกวิจัยและวางแผนไม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิมเท่าไรนัก การลงทุนอย่างมากภายในแผนกการวิจัยและวางแผน เป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือไม่ เจ้าหน้าที่ใหม่หลายคนได้ร้องเรียนว่า ความสามารถของพวกเขาได้ถูกใช้ประโยชน์น้อยไป และเริ่มมองว่าพวกเขาควรจะทำงานภายในองค์การอยู่ต่อไปหรือไม่ ? ทำไมการลงทุนอย่างมากเช่นนี้ไม่ได้ผลคุ้มค่าเลย นี่คือปัญหาอย่างหนึ่งขององค์การ
5. การตกต่ำทางเศรษฐกิจ
การตกต่ำทางเศรษฐกิจที่ยาวนาน ส่งกระทบต่อตลาดและยอดขายขององค์การเป็นอย่างมาก ผู้บริหารขององค์การเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงจะต้องเกิดขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างภายในองค์การ ขวัญและกำลังใจของพนักงานในองค์การจะต่ำ พวกเขาไม่แน่ใจว่าจะถูกปลดออกจากงานหรือไม่? ผู้บริหารขององค์การควรจะดำเนินการอย่างไร? นี่คือปัญหาอย่างหนึ่งขององค์การ
6. คู่แข่งขันรา
รายงานการพัฒนาองค์การ
<p “=”“>คุณอนุวัฒน์ ขอไฟล์รายงานหน่อยได้ป่ะจ๊ะ ถ้าได้ติดต่อกลับ 0892176970 </p>