ทรัพยากรธรรมชาติที่บ้านเรานำมาใช้เป็นพลังงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
เช่น ภาคคมนาคมอุตสาหกรรมและการผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างเชื้อเพลิงฟอสซิล
เช่น น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ ฯลฯ นั้น
จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงประเภทที่ใช้แล้วหมดไป.....
“โลกร้อน”
ยังคงเป็นกระแสที่ทุกคนให้ความสนใจ
เนื่องจากส่งผลกระทบต่อทุกส่วนและทุกคนบนโลกใบนี้
โดยเฉพาะความแปรปรวนอย่างหนักของสภาพอากาศ
ที่ก่อให้เกิดภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม
พายุเฮอริเคน ฤดูกาลต่างๆ
เปลี่ยนไปอย่างวิปริตชนิดที่ไม่เคยประสบมาก่อน
ซึ่งหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนก็คือ
ก๊าซเรือนกระจกจากการใช้พลังงานธรรมชาตินั่นเอง
เป็นที่ทราบกันดีกว่า
ขณะนี้ทรัพยากรธรรมชาติที่บ้านเรานำมาใช้เป็นพลังงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
เช่น ภาคคมนาคมอุตสาหกรรมและการผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างเชื้อเพลิงฟอสซิล
เช่น น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ ฯลฯ
จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงประเภทที่ใช้แล้วหมดไป ด้วยเหตุนี้
จึงเป็นหน้าที่ทุกคนที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกันใช้พลังงานอย่างประหยัดและรู้คุณค่า
รวมทั้งพยายามหาพลังงานทดแทนในรูปแบบใหม่ๆ
ซึ่งหนึ่งในวิธีช่วยประหยัดพลังงานก็คือการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างพลังงานทดแทนที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
อันเป็นสาเหตุของปัญหาโลกร้อน
และวิธีการที่มีการเริ่มใช้กันบ้างแล้วในบ้านเราคือ
การใช้ประโยชน์จากชีวมวลเหลือทิ้งอย่างฟางข้าว
เหง้ามันสำปะหลัง หรือ ทะลายปาล์มน้ำมันมาสร้างมูลค่าเพิ่ม
โดยนำไปผ่านกระบวนการเผาให้ได้ก๊าซที่เรียกว่า “แก๊สซิฟิเคชั่น”
ซึ่งก๊าซที่ได้นี้สามารถนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าทดแทนการใช้ถ่านหินได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ก๊าซที่ผ่านกระบวนการเผาดังกล่าว
ยังสามารถนำไปควบแน่นเป็นของเหลวแล้วนำไปกลั่นให้ได้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เรียกกันว่า
“ไบโอออลย์”
ใช้กับเครื่องยนต์ได้อีกด้วย คุณประโยชน์ของชีวมวลเหลือทิ้งที่ว่านี้
สำหรับคนไทยอาจต้องรอเวลาศึกษาวิจัยกันอีกระยะเวลาหนึ่ง
แต่สำหรับประเทศเยอรมนี
ได้มีการผลิตน้ำมันจากเทคโนโลยีดังกล่าวใช้บ้างแล้วซึ่งก็สามารถช่วยลดการใช้พลังงานจากธรรมชาติได้ส่วนหนึ่ง
“ไม้เทียมจากเส้นใยธรรมชาติ”
เป็นนวัตกรรมสำคัญที่ควรพัฒนาเพื่อให้เกิดการใช้จริง
โดยการนำเส้นใยธรรมชาติไปผสมกับพลาสติกเพื่อผลิตเป็นไม้เทียม
ช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่าได้อย่างดีเพราะป่าเป็นผู้ช่วยสำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อันเป็นสาเหตุของโลกร้อน
นอกจากนี้
ไม้เทียมยังมีข้อดีที่เหนือกว่าไม้จริงคือ
ไม่ยืดและไม่หดเมื่ออยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนหรือชื้น
ด้วยเหตุนี้จึงมีบรรดาผู้ประกอบการผลิตไม้เทียมจากเศษไม้บดออกวางจำหน่ายแล้ว
ทั้งยังมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเกี่ยวกับการผลิตไม้เทียมจากเส้นใยใบสับปะรดผสมกับเม็ดพลาสติก
เนื่องจากคาดว่าน่าจะสามารถให้ความแข็งแรงได้มากกว่าไม้เทียมที่ใช้ไม้บดเป็นส่วนผสม
เส้นใยจากหญ้าแฝกก็นับเป็นเส้นใยธรรมชาติอีกชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาผลิตไม้เทียมได้
เนื่องจากปัจจุบัน
จุดประสงค์ในการปลูกหญ้าแฝกก็เพื่อรักษาหน้าดินเพียงอย่างเดียว
จึงควรสนับสนุนให้มีการนำเส้นใยจากหญ้าแฝกมาใช้ผลิตไม้เทียมด้วย
เพื่อเพิ่มมูลค่าของหญ้าแฝกให้มากขึ้น
แต่ทั้งนี้ควรวางแผนในเรื่องของการปลูกและเก็บรวมรวมวัตถุดิบให้มากเพียงพอที่จะนำไปผลิต
ซึ่งหากสามารถส่งเสริมการผลิตไม้เทียมจากเส้นใยธรรมชาติเหล่านี้ได้
ในอนาคตข้างหน้าเราก็จะมีไม้เทียมไว้ใช้กันอย่างแพร่หลายทดแทนไม้ป่าที่มีจำนวนลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง
เป็นการช่วยอนุรักษ์ป่าไม้ของไทย
“พลาสติกชีวภาพ”
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าสนใจเนื่องจากปัจจุบัน
ขยะประเภทพลาสติกมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
และขยะประเภทนี้ก็ต้องอาศัยระยะเวลาในการย่อยสลายนาน ถุงพลาสติก 1 ใบ
ใช้ระยะเวลาย่อยสลายนานถึง 450 ปี
แต่หากนำไปเผาก็จะก่อให้เกิดสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
ซึ่งทำให้เกิดมลภาวะอันเป็นสาเหตุของโลกร้อน
ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้คิดค้นพลาสติกชีวภาพขึ้น
เพื่อลดปัญหาโลกร้อนอันเกิดจากการไม่ย่อยสลายของพลาสติก
โดยพลาสติกชีวภาพที่ว่านี้ จะผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ
ใช้แบคทีเรียหมักน้ำตาลจากพืชให้เป็นกรดแลคติก
จากนั้นใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้เป็นโพลิเมอร์ก่อนนำไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์
ซึ่งไม่ต้องใช้พลังงานในกระบวนการผลิตมา ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ
ทั้งยังกำจัดได้ง่ายเพียงแค่ฝังดินก็จะถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ในดินในเวลาไม่นาน
ปัจจุบัน
นวัตกรรมเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการวิจัยและพัฒนา
แต่ก็เชื่อว่าอีกไม่ช้านาน เราคงจะได้ใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
ซึ่งถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนไทยในการชะลอวิกฤตพลังงานด้วยนวัตกรรมลดโลกร้อน
ทั้งยังเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่เกษตรกรไทย
และชาวบ้านในชุมชนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
ภายใต้ความร่วมมือระหว่างวารสารสื่อชุมชนและวิชาการดอทคอม
www.pttplc.com