ปัจจุบันเทศบาลได้จัดตั้งกรรมการชุมชน โดยประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยให้แนวทางไว้ โดยจัดกลุ่มครอบครัว และผู้นำชุมชนในแต่ละกลุ่ม ให้มีจำนวนโดยรวมที่เหมาะสม ซึ่งพบว่า กลไกดังกล่าวเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพมาก
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการทำงานของกรรมการชุมชนเป็นการทำงานแบบอาสาสมัคร โดยยังไม่มีกฏหมายฉบับใดได้กล่าวถึงอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ เงินเดือน ค่าตอบแทน สวัสดิการต่างๆ ให้กับกรรมการชุมชน ทำให้บางคนยังไม่ทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างจริงจัง ดังนี้ กลไกของชุมชนจึงเป็นกลไกที่ยังต้องการ การพัฒนาอีกมากพอควร
บทบาทของกรรมการชุมชน
ให้ทำหน้าที่ในการสนันสนุนการทำงานของเทศบาล เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างภาคประชาชนกับเทศบาล บทบาทหน้าที่ของกรรมการชุมชนอาจมีหลายประการเช่น
1) ช่วยในการค้นหา เสนอแนะปัญหาของชุมชน และนำปัญหานั้นเสนอต่อเทศบาล เพื่อจัดทำแผนแก้ไขปรับปรุงในกรณีต่างๆ
2) ประสานงานระหว่างเทศบาลกับชาวบ้าน โดยนำข้อมูลข่าวสารจากชาวบ้านสู่เทศบาล และนำข้อมูลจากเทศบาลสู่ชาวบ้าน
3) เป็นตัวแทนชาวบ้านในการรับการสนุบสนุนการดำเนินการต่างๆ จากรัฐ เช่น การบรรเทาสาธารณะภัย การสาธารณสุขพื้นฐาน การส่งเสริมพัฒนาอาชีพ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น
4) เป็นตัวแทนชาวบ้านในการควบคุมดูแลการทำงานของเทศบาลให้ซื่อสัตย์ สุจริต และโปร่งใส
5) เป็นตัวแทนในการพัฒนาอาชีพให้กับชาวบ้าน
6) บทบาทอื่นๆ ที่เทศบาลหรือราชการขอความร่วมมือ
การจัดตั้งกรรมการชุมชน
ควรจัดตั้งขึ้นในอัตรา 10-20 ครอบครัว ต่อกรรมการชุมชน 1 คน สำหรับการแบ่งกลุ่มครอบครัวให้เป็นดุลยพินิจของเทศบาล เทศบาลที่มีประชากรมาก อาจจัดตั้งในอัตรา 20:1 ในทางตรงข้าม เทศบาลที่ครอบครัวไม่มาก อาจจัดตั้งในอัตรา 10:1 ก็ได้ตามความเหมาะสม
ปัจจุบันการทำงานของกรรมการชุมชนเป็นการทำงานแบบอาสาสมัคร จึงไม่มีเงินเดือน แต่อาจมีสิ่งจูงใจทางอื่น เช่น สิทธิพิเศษในการได้รับการบริการจากเทศบาล หรือสวัสดิการอื่น ที่ทางเทศบาลหรือราชการพอจะให้ได้
มีต่อ......
ไม่มีความเห็น