ทำไมต้องรณรงค์ อย่าเสียตัววันวาเลนไทน์


ทำไมต้องรณรงค์ อย่าเสียตัววันวาเลนไทน์

            วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นวันวาเลนไทน์ วันแห่งการมอบความรักให้กันและกัน ประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนควรจะใช้วันนี้เป็นวันแสดงความรักในทางสร้างสรรค์บนวิถีแห่งความพอเพียง เช่นบอกรักพ่อแม่ เพิ่มความรักความอบอุ่นให้ครอบครัว หรือบอกรักเพื่อนสนิท โดยไม่มีเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศมาเกี่ยวข้อง

            วันวาเลนไทน์ เดิมนั้นเป็นวัฒนธรรมของชาติตะวันตกเป็นวันแสดงความรัก ของคู่รักและคนในครอบครัว  แต่เมื่อมีวันวาเลนไทน์ เข้าสู่ประเทศไทย กิจกรรมวันแห่งความรักได้เปลี่ยนไป ภาครัฐได้ออกมาจัดกิจกรรมการจดทะเบียนสมรสโดยเฉพาะสำนักทะเบียนที่มีชื่อเป็นมงคล อาทิเช่น สำนักงานบางรัก ในขณะที่ภาคธุรกิจได้จัดกิจกรรมการแต่งงานที่ปลกและแหวกแนว อาทิเช่น แต่งงานใต้ทะเล แต่งบนหน้าผาเป็นต้น

            คำตอบที่ได้รับจากการสำรวจเป็นอย่างไรนั้น ไม่น่าสนใจ แต่สนใจว่า ทำไมต้องสำรวจพฤติกรรมของวัยรุ่นเกี่ยวกับมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์ เหมือนเป็นการชี้โพรงให้กระรอกหรือเปล่า

            มีความเป็นได้ว่า เยาวชนยังไม่มีโปรแกรมอะไรเป็นพิเศษในวันวาเลนไทน์  แต่เมื่อได้รับข้อมูลข่าวสารเรื่องการสำรวจพฤติกรรมของวัยรุ่นเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ อาจเป็นแรงจูงใจให้เยาวชนเหล่าพฤติตาม

ดังเช่นกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรคร่วมสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของเยาวชนอายุระหว่าง12-24 ปี ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ในหัวข้อ " เยาวชนกันวันวาเลนไทน์" โดยใช้กลุ่มตัวอย่าง 1,012 ตัวอย่าง ดำเนินการในเดือนมกราคม 2554

            ผลการศึกษาเกี่ยวกับประเด็นของทัศนคติ ค่านิยม ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของวัยรุ่นพบว่า ค่านิยมที่กลุ่มตัวอย่างไม่เห็นด้วย

อันดับ 1 ได้แก่ประเด็นการมีคู่นอนพร้อมกันหลายๆคนเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เห็นด้วยร้อยละ 90 อันดับ 2 ได้แก่ประเด็นวันวาเลนไทน์ เป็นวันที่ควรมีเพศสัมพันธ์กับคนรัก ไม่เห็นด้วยร้อยละ 85 อันดับ 3 ได้แก่ การทำแท้งควรทำให้เป็นเรื่องถูกกฎหมาย ไม่เห็นด้วยร้อยละ 74

            ประเด็นที่กลุ่มตัวอย่างเห็นด้วย ได้แก่ กฎหมายควรระบุให้ผู้ชายมีส่วนรับผิดชอบต่อการทำแท้ง เห็นด้วยร้อยละ 83

            รองลงมาได้แก่ประเด็น ผู้หญิงควรรักษาพรหมจรรย์ไว้จนกว่าจะอายุ 18 ปี เห็นด้วยร้อยละ 82

            ส่วนประเด็นการทดลองอยู่ก่อนแต่งเป็นเรื่องที่สังคมปัจจุบันยอมรับได้ วัยรุ่นเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยใกล้เคียงกัน
            พฤติกรรมเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการใช้ถุงยางอนามัย ได้สอบถามว่า

            ถ้าแฟน หรือคนรักขอมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์จะทำอย่างไร กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 67 ตอบปฎิเสธการมีเพศสัมพันธ์ อีกร้อยละ 25 ตอบว่ายอมมีเพศสัมพันธ์ โดยเป็นชายมากกว่าหญิงถึง 6 เท่าตัว

            กลุ่มอายุที่ยอมมีเพศสัมพันธ์มากที่สุดได้แก่อายุ 21-24 ปี ร้อยละ 39 ต่ำสุดคือกลุ่มอายุ 12-14 ปี ร้อยละ 8 

            ส่วนการใช้ถุงยางอนามัย พบว่าในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 28 ตอบว่าเคยมีเพศสัมพันธ์ และใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งร้อยละ 59

            แต่เมื่อพิจารณาครั้งสุดท้ายของการมีเพศสัมพันธ์ พบว่าการใช้ถุงยางอนามัยลดลงเหลือร้อยละ 51 โดยให้เหตุผลที่ใช้ว่าเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์   


      ขอบคุณข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข


หมายเลขบันทึก: 425825เขียนเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2011 14:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 12:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • สวัสดีค่ะ
  • ความรักใด....มิเทียบเท่า....รักบริสุทธิ์แห่งมิตรภาพแห่งความเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง  รักที่ไม่ยึดครอง.....รักที่พร้อมจะเคียงข้างและพร้อมจะให้อภัยกันเสมอ ขอบคุณสำหรับมิตรภาพดี ๆ ที่ตรึงตราในจิตใจนิรันดร์....
  • สุขสันต์วันวาเลนไทน์เช่นกันค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

                              

สวัสดีครับบุษรา

 

สุขสันต์วันวาเลนไทน์เช่นกัน 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท