เงินนอกงบประมาณ
ความหมาย
เงินนอกงบประมาณ หมายถึง
เงินทั้งปวงที่อยู่ในความรับผิดชอบของส่วนราชการนอกจากเงินงบประมาณรายจ่าย
เงินรายได้แผ่นดิน เงินเบิกเกินส่งคืน
และเงินเหลือจ่ายปีเก่าส่งคืน
เงินงบประมาณรายจ่าย หมายถึง
จำนวนเงินอย่างสูงที่อนุญาตให้จ่ายหรือให้ก่อหนี้ผูกพันได้ตามวัตถุประสงค์
และภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
เงินรายได้แผ่นดิน หมายถึง
เงินทั้งปวงที่ส่วนราชการจัดเก็บหรือได้รับไว้เป็นกรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ หรือจากนิติกรรม
หรือนิติเหตุและกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายด้วยวิธีการงบประมาณบัญญัติไม่ให้ส่วนราชกานั้น
ๆ นำไปใช้จ่าย หรือหักไว้เพื่อการใดๆ
เงินเบิกเกินส่งคืน หมายถึง
เงินงบประมาณรายจ่ายที่ส่วนราชการเบิกจากคลังไปแล้วแต่ไม่ได้จ่ายหรือจ่ายไปหมด
หรือจ่ายไม่หมด หรือจ่ายไปแล้วแต่ถูกเรียกคืน
และได้นำส่งคลังก่อนสิ้นปีงบประมาณหรือก่อนสิ้นระยะเวลาเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี
เงินเหลือจ่ายปีเก่าส่งคืน หมายถึง
เงินงบประมาณรายจ่ายที่ส่วยราชการเบิกจากคลังไปแล้วแต่ไม่ได้จ่ายหรือจ่ายไม่หมด
หรือจ่ายไปแล้วแต่ถูกเรียกคืน
และได้นำส่งคลังภายหลังสิ้นปีงบประมาณหรือภายหลังระยะเวลาเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี
เงินนอกงบประมาณต้องมีกฎหมายรองรับ
1. พระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2491
1.1 เงินทุนหมุนเวียน หมายถึง
ทุนที่ตั้งขึ้นเพื่อกิจการซึ่งอนุญาตให้นำรายรับสมทบไว้ใช้จ่ายได้
การจ่ายเงินเป็นทุนหรือทุนหมุนเวียนเพื่อการใดๆ
ให้กระทำได้แต่โดยกฎหมาย
1.2 เงินยืมทดรองราชการ หมายถึง
เงินซึ่งกระทรวงการคลังอนุญาตให้ส่วนราชการมีไว้ตามจำนวนที่เห็นสมควร
เพื่อทดรองจ่ายเป็นค่าใช้สอยปลีกย่อย ประจำสำนักงาน ตามข้อบังคับ
และระเบียบของกระทรวงการคลัง
1.3 เงินฝาก หมายถึง เงินที่กระทรวงการคลังรับฝากไว้
และจ่ายคืนตามคำขอของผู้ฝากตามข้อบังคับ
และระเบียบของกระทรวงการคลัง
1.4 เงินขายบิล หมายถึง เงินที่กระทรวงการคลังรับไว้ ณ ที่แห่งหนึ่ง
เพื่อโอนไปจ่าย ณ ที่อีกแห่งหนึ่ง ตามข้อบังคับ
และระเบียบของกระทรวงการคลัง
2. พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502
2.1 เงินบูรณะทรัพย์สิน หมายถึง
เงินที่ส่วนราชการได้รับในลักษณะค่าชดใช้ความเสียหาย
หรือสิ้นเปลืองแห่งทรัพย์สิน
และจำเป็นต้องจ่ายเพื่อบูรณะทรัพย์สินหรือจัดให้ได้ทรัพย์สินนั้นคืนมา
2.2 เงินบริจาค หมายถึง
เงินซึ่งมีผู้มอบให้ส่วนราชการโดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อให้ส่วนราชการนั้นใช้จ่ายในกิจกรรมของส่วนราชการนั้น
หรือเป็นเงินที่เกิดจากทรัพย์สินซึ่งมีผู้มอบให้เพื่อหาดอกผลใช้จ่ายในกิจการของส่วนราชการนั้น
2.3 เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ หมายถึง
เงินที่ได้รับจากรัฐบาลต่างประเทศ องค์การสหประชาชาติ
ทบวงการชำนัญพิเศษฯ องค์การระหว่างประเทศ หรือบุคคลใด
ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้ หรือเงินให้เปล่า
2.4 เงินบำรุงการศึกษา หมายถึง
เงินทั้งปวงที่สถานศึกษาได้รับไว้เป็นกรรมสิทธิ์
เพื่อบำรุงการศึกษานอกเหนือจากเงินงบประมาณรายจ่าย
2.5 เงินบำรุงของหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข หมายถึง
เงินทั้งปวงที่หน่วยบริการได้รับไว้เป็นกรรมสิทธิ์
เนื่องจากการดำเนินงานนอกเหนือจากเงินงบประมาณ
2.6 เงินทดรองราชการ หมายถึง เงินที่กระทรวงการคลังจ่าย
และอนุญาตให้ส่วนราชการมีไว้ตามจำนวนที่เห็นสมควร
เพื่อทดรองเป็นค่าใช้จ่ายตามระเบียบหรือข้อบังคับของกระทรวงการคลัง
2.7 เงินทุนสำรองจ่าย หมายถึง เงินทุนจำนวน
ร้อยล้านบาทซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสั่งจ่ายจากเงินคงคลัง
เพื่อให้นำไปใช้จ่ายในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการแผ่นดิน
โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี
และเมื่อได้จ่ายไปแล้วให้ขอตั้งรายจ่ายชดใช้เพื่อสมทบทุนนั้นไว้จ่ายต่อไป
3. กฎหมายพิเศษ
3.1 พระราชบัญญัติเฉพาะ เช่น กองทุนประกันสังคม
3.2 มติคณะรัฐมนตรี เช่น กองทุนปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ
ประโยชน์ของเงินนอกงบประมาณ
1. ผ่อนคลายการควบคุม
2. มีการกระจายอำนาจให้ส่วนราชการ
3. สะดวกคล่องตัวในการเบิกจ่าย
4. การบริหารงานสำเร็จ รวดเร็ว
5. เป็นส่วนเสริมภารกิจ
กรณีเงินในงบประมาณได้รับการจักสรรไม่เพียงพอ
เงินทุนหมุนเวียน
เงินทุนหมุนเวียน หมายถึง
ทุนที่ตั้งขึ้นเพื่อกิจการซึ่งอนุญาตให้นำรายรับสมทบไว้ใช้จ่ายได้
การจ่ายเงินเป็นทุนหรือทุนหมุนเวียนเพื่อการใดๆ
ให้กระทำได้แต่โดยกฎหมาย
การจัดตั้งเงินทุนหมุนเวียน
1. โดยกำหนดในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ได้แก่
เงินทุน ฯ ผลิตเหรียญกษาปณ์
2. โดยกฎหมายพิเศษกำหนด (พระราชบัญญัติเฉพาะ) ได้แก่
เงินทุนหมุนเวียนเพื่อการชลประทาน (พระราชบัญญัติชลประทานหลวง พ.ศ.
2518)
ประเภทของเงินทุน ฯ ในปัจจุบัน
- กลุ่ม A เงินทุนหมุนเวียนที่ดำเนินงานให้กู้ยืมแก่กลุ่มเป้าหมายต่าง
ๆ เช่น เงินทุนหมุนเวียนเพื่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู
- กลุ่ม B
เงินทุนหมุนเวียนเพื่อการผลิตสินค้าหรือบริการจำหน่ายให้แก่กลุ่มเป้าหมาย
ซึ่งอาจจะเป็นส่วนราชการหรือประชาชนทั่วไป
- กลุ่ม C เงินทุนหมุนเวียนประเภทต่าง ๆ
การรวมหรือยุบเลิกทุนหมุนเวียน
ตามพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังรวมหรือยุบเลิกทุนหมุนเวียน
พ.ศ. 2543
บัญญัติให้กระทรวงการคลังโดยอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีมีอำนาจรวมหรือยุบเลิกทุนหมุนเวียนได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในพระราชบัญญัติ
ซึ่งสรุปได้ดังนี้
1. การยุบรวมทุนหมุนเวียน
การรวมทุนหมุนเวียนให้กระทำได้เมื่อทุนหมุนเวียนที่จะรวมกัน
มีวัตถุประสงค์เหมือนกันหรือสามารถดำเนินการร่วมกันได้
และต้องไม่มีผลที่เป็นการขยายวัตถุประสงค์เกินกว่าวัตถุประสงค์เดิมของทุนหมุนเวียนที่นำมารวมกัน
ซึ่งการรวมทุนหมุนเวียนอาจเป็นการรวมโดยการจัดตั้งเป็นทุนหมุนเวียนขึ้นใหม่หรือโดยการรวมทุนหมุนเวียนเดิมเข้าด้วยกันก็ได้
2. การยุบเลิกทุนหมุนเวียน
การยุบเลิกทุนหมุนเวียน ให้กระทำได้เมื่อปรากฏว่า
หมดความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งทุนหมุนเวียนนั้นแล้ว
หรือทุนหมุนเวียนได้หยุดดำเนินการโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
และไม่ปฏิบัติตามวัตถุประสงค์และระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด
3.
แนวทางการการดำเนินการรวมหรือยุบเลิกทุนหมุนเวียน
ให้กระทรวงการคลังกระทรวงการคลังโดยปรึกษาร่วมกับสำนักงบประมาณเสนอ
ขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเพื่อรวม หรือยุบเลิกทุนหมุนเวียน
โดยเสนอความเห็นของหน่ายงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบทุนหมุนเวียนประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วย
และเมื่อคณะรัฐมนตรีให้รวมทุนหมุนเวียนใด
ให้โอนสินทรัพย์และหนี้สินของทุนหมุนเวียนเดิมไปเป็นของทุนหมุนเวียนที่จัดตั้งขึ้นใหม่หรือที่รวมเข้าด้วยกัน
ทั้งนี้ เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติให้ยุบเลิกทุนหมุนเวียนใด
ให้ถือว่าเป็นการยุบเลิกทุนหมุนเวียนนั้นตามกฎหมาย
เงินบริจาค
หมายถึง เงินซึ่งมีผู้มอบให้ส่วนราชการโดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อให้ส่วนราชการนั้นใช้จ่ายในกิจกรรมของส่วนราชการนั้น
หรือเป็นเงินที่เกิดจากทรัพย์สินซึ่งมีผู้มอบให้เพื่อหาดอกผลใช้จ่ายในกิจการของส่วนราชการนั้น
การรับบริจาคให้พิจารณาตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
1. คำนึงถึงผลดีผลเสีย ประโยชน์
และค่าตอบแทน
2. ถ้ามีเงื่อนไขต้องไม่ให้ประโยชน์แก่ผู้ใดโดยเฉพาะ
3.
พิจารณาผลตอบแทนคุ้มกับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียหรือไม่
4. กรณีรับบริจาคทรัพย์สิน
ให้ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ด้วย
5. รับบริจาคเงิน
หรือทรัพย์สินไม่ตรงกับอำนาจหน้าที่
ให้ส่งมอบแก่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
การเก็บรักษาเงินบริจาค
1.
เก็บรักษาเงินสดเพื่อสำรองจ่ายในวงเงินที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง
นอกนั้นให้นำฝากกระทรวงการคลัง สำนักงานคลังจังหวัด
หรือสำนักงานคลังจังหวัด ณ อำเภอ
2. หากต้องการนำฝากธนาคาร
ให้ขอความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง
การจ่ายเงินบริจาค
1. จ่ายตามที่บริจาคระบุวัตถุประสงค์ไว้
หากวัตถุประสงค์ไม่ชัดแจ้ง
ให้นำไปจ่ายเพื่อเป็นประโยชน์แก่ทางราชการโดยส่วนรวม
2.
ให้หัวหน้าส่วนราชการมีอำนาจสั่งจ่ายเงินบริจาค
3. การปฏิบัติเกี่ยวกับบัญชี
วิธีการจ่าย และหลักฐานการจ่ายเงินบริจาค การพัสดุ
ให้เป็นไปตามระเบียบทางราชการ โดยอนุโลม
เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้ปฏิบัติเป็นอย่างอื่น
เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ หมายถึง
เงินที่ได้รับจากรัฐบาลต่างประเทศ องค์การสหประชาชาติ
ทบวงการชำนัญพิเศษฯ องค์การระหว่างประเทศ หรือบุคคลใด
ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้ หรือเงินให้เปล่า
การบริหารเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้กำหนดระเบียบการควบคุมการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศไว้
ดังนี้
1. เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
ที่ส่วนราชการได้รับผ่านกรมวิเทศสหการ
ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกรมวิเทศสหการ
2. เงินช่วยเหลือที่ส่วนราชการได้รับโดยตรง
ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการโดยอนุโลม เช่น
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง
ระเบียบการเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลังของส่วนราชการ
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ เป็นต้น
หรือกำหนดระเบียบขึ้นใหม่ให้เหมาะสมโดยขอความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง
ไม่มีความเห็น