เป็นเด็กวัดได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด (1)
เมื่อวันจันทร์ ที่ 17 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา ผมได้ไปทำบุญในงานพระราชทานเพลิงศพของหลวงพ่อพระครูบริหารกิจโกศล (หลวงพ่อก้อนทอง อินทวฺโส วัดโคน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์) ซึ่งผมเคยพึ่งใบบุญของท่านในระหว่างที่เป็นนักเรียนระดับชั้น ม.ปลาย ในงานทำบุญหลวงพ่อครั้งนี้ผมได้พบเพื่อนหลายคนที่เคยเป็นเด็กวัดด้วยกัน และพบเด็กวัดรุ่นพี่ (บางคนน่าจะเรียกว่าเด็กวัดรุ่นพ่อมากกว่า) เด็กวัดโคนที่มาร่วมงานในครั้งนี้นั้นมักจะรับราชการเป็นส่วนใหญ่(รวมทั้งผมด้วย) หลายท่านมีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต ผมในฐานะศิษย์ผู้น้องก็พลอยยินดีและได้หน้าไปด้วย
ประสบการณ์ที่มีค่าหลาย ๆ อย่างที่ผมได้รับ ทำให้ผมมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่จะบอกใครๆ ว่าผมเป็นเด็กวัด และความเป็นเด็กวัดจะอยู่ในตัวผมตลอดไป ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจหากผมจะบอกว่า ตลอดระยะเวลา ตั้งแต่วันแรกที่เป็นเด็กวัด จนถึงวันนี้ ไม่มีเหตุผลอันใด ที่จะทำให้ผมรู้สึกอายที่จะบอกใครอย่างนั้น
มูลเหตุของการเป็นเด็กวัดของผมนั้น เริ่มจากในระหว่างที่ผมเรียนชั้น ป.6 ผมได้อ่านหนังสืออ่านนอกเวลาของพี่ ๆ ที่เรียนอยู่ ม.ต้น เรื่อง “คนอยู่วัด” ของ คุณไมตรี ลิมปิชาติ ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กต่างจังหวัดที่มาอาศัยอยู่ในวัดเพื่อเรียนต่อระดับอุดมศึกษาที่กรุงเทพ ด้วยลีลาการเขียนที่สนุกสนาน ใช้ภาษาง่าย ๆ หยิกแกมหยอก อ่านไปยิ้มไป ตัวละครในเรื่องล้วนแต่เป็นคนดี และเจือปนไปด้วยความใส ซื่อ บริสุทธิ์ ทำให้ผมอ่านหนังสือเล่มนั้นรวดเดียวจบโดยที่ไม่ลุกไปไหน และบอกกับตัวเองในวันนั้นเลยว่า ผมจะต้องเป็น “เด็กวัด” ให้ได้
สามสี่ปีต่อมาผมต้องเข้าไปเรียนต่อ ม.ปลาย ที่ตัวอำเภอ ด้วยเหตุที่บ้านอยู่ไกลจากโรงเรียน เพื่อนหลายคนจึงเลือกที่จะนั่งรถโดยสารสองแถวไปกลับทุกวัน เพื่อนบางคนพักอยู่กับญาติ โอกาสทองของผมที่จะได้เป็นเด็กวัดมาถึงแล้ว พ่อกับแม่ดีใจมากที่ผมบอกว่าอยากอยู่วัดโคน เพราะว่าเป็นวัดที่เป็นศูนย์รวมการศึกษาของพระเณร และเด็กวัดนี้ส่วนใหญ่มักจะได้ดี ในวันที่พ่อและแม่ได้มาส่งและมอบหมายให้หลวงพ่อดูแลนั้น ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานภาพที่เรียกว่า ถูก “ตัดหางปล่อยวัด” อย่างที่ใครๆชอบแซวเวลามีใครบางคนถูกพ่อแม่หรือคนรอบข้าง ตัดความสัมพันธ์ ปล่อยปละละเลย แต่ผมคิดว่าการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ในคราบของ “อารามบอย” เริ่มขึ้นแล้ว
สิ่งที่ควรมีและไม่ควรมี
หลวงพ่อได้ยกกุฎิไม้เก่า ๆหลังกุฏิของท่านหนึ่งหลัง ให้เด็กวัดได้อยู่ด้วยกัน โดยมีศิษย์วัดรุ่นพี่ที่เรียนอยู่ ม.6 ดูแลน้อง ๆ วันแรกของการอยู่วัด หลังจากผมเก็บข้าวของในห้องเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อได้ให้เณรเรียกผมไปหาที่กุฏิของท่าน ท่านได้ซักถามเกี่ยวกับตัวผมเล็กน้อย เรื่องครอบครัว และการเรียน จากนั้นอบรมเรื่องการอยู่วัดว่าเป็นการอยู่กับทั้งพระ เณร แม่ชี เด็กวัดด้วยกัน และญาติโยมชาวคุ้มวัด จำเป็นอย่างยิ่งที่เด็กวัดต้องรู้ว่าสิ่งไหนควร และสิ่งไหนไม่ควร ท้ายสุดท่านบอกว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ถ้าหากอยากจะอยู่กับคนอื่นอย่างมีความสุข อย่างน้อยที่สุดแล้ว มีหนึ่งอย่างที่พึงมีคือ “ความมีน้ำใจ” และมีหนึ่งอย่างที่ไม่พึงมีเป็นอย่างยิ่งคือ “ความเห็นแก่ตัว” ผมกราบท่านและเตรียมตัวเพื่อ”ไปโรงเรียนใหม่ในวันรุ่งขึ้น
ไม่มีความเห็น