เรื่องฝากจากพี่อ้อจากการไป เยี่ยมเชื่อมโยงงานกับเครือข่าย ณ รพ.สต. ลองอ่านดูนะคะว่า "ทีมงานเป็นเนื้อเดียวกันกับพื้นที่ได้อย่างไร"
ศุภลักษณ์ พริ้งเพราะ...............ผู้เขียน
นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชำนาญการ
กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสาธารณสุข
น้องนีซึ่งเป็นแพทย์แผนไทยได้โทรมาแจ้งว่าจะมีการลงแขกเกลี่ยดินเพื่อปลูกสมุนไพรที่ รพ.สต.บ้าน เมืองใหม่ วันที่ 13 มกราคม 2554 ทางศูนย์ฯ ขอนแก่นจึงได้เข้าไปร่วมงานด้วย เมื่อเดินทางไปถึงวันนี้ก็คงเหมือนกับทุกครั้งที่มาคนไข้เยอะเหมือนเดิม แต่จะแปลกกว่าทุกครั้งก็คือ วันนี้มีแต่เด็ก ๆ มารอตรวจก็งง ๆ เหมือนกันว่าทำไมเด็กที่นี่ป่วยกันเยอะมาก มากจริง ๆ พอไปถึงก็ได้เจอกับพี่แดงและพี่สุภาพ ซึ่งชาวบ้านที่นี่ก็จะเรียกว่าหมอแดงกับหมอภาพ เจอกันปุ๊ปพี่แดงก็ปล่อยมุกปั๊ป “เอ๊า ! มาพอดีเลยมารับวัคซีนหน่อย” อ้อก็ได้แต่ทำหน้างงและยกมือไหว้ค้างอ้าปากหว๋ออีกต่างหาก เท่าที่จำได้คงจะได้รับวัคซีนครบอยู่มั๊ง แต่ก็ได้ตอบพี่แดงไปว่า “เอางั้นเลยเหรอพี่” พี่แดงก็เลยหัวเราะ ก็เลยบอกกับที่แดงว่า “ ถ้าตรวจเสร็จแล้วน้องขอเรียนปรึก ษาเรื่องงานหน่อยนะพี่ ” จากนั้นอ้อกับติ๋วก็ออกประตูหลังเดินไปยังพื้นที่ที่จะปลูกสมุนไพร อสม.มาเยอะมาก ไม่หน้าเชื่อเลยว่าจะเจอขุมพลังอันยิ่งใหญ่ขนาดนี้
ไปถึงก็เห็นทีม อสม. ร่วมแรงเเข็งขัน
ท่านผอ.รพ.สต. ก็ลงมาช่วยสั่งการ ดูแล้ว กลมกลืนมาเลยค่ะท่าน
งานนี้ไม่มีแยกรุ่นไม่จำกัดอายุ เห็น คุณยายอสม.แล้ว ชื่นใจค่ะ
ทั้งเกลี่ยดินเดินสายท่อปะปา ของเขาพร้อมจริง ๆ
ก็เดินทักทายยกมือไหว้กันให้ทั่วงานกันหน่อย แล้วก็เจอกับน้องนีบอกว่าจะพาไปพบกับท่าน ผอ. เราก็มองหาใหญ่เลยว่าท่านอยู่ตรงไหน มองเท่าไรก็หาไม่เจอ จนกระ ทั่งน้องนีพาไป ที่ไหนได้ท่านกำลังเดินกวาดใบไม้เก็บกิ่งไม้ไปเผาอยู่ (ไม่อยากจะบอกเลยว่ามองเห็นอยู่แต่ไม่คิดว่าเป็นท่าน ผอ.) ทักทายกันเล็กน้อยต่างก็แยกย้ายกันไปทำงาน มีทางให้อ้อเลือกสองทางระหว่างเกลี่ยดินกับงานที่ครัว อ้อจะต้องใช้การพิจารณาว่าจะอยู่ตรงไหนดี เพราะ เรื่องใช้แรงไม่ต้องพูดถึงไม่ถนัดอยู่แล้ว (ออกแรงมาก ๆ มีหวังหอบขึ้นแน่ ๆ สำหรับบรรยากาศแบบนี้ หนาว ๆ และร้อน ๆ) แต่จะให้ไปเป็นแม่ครัวเหรอยิ่งแล้วใหญ่ ขนาดพ่อยังบอกว่า “อย่าทำกับข้าวนะลูก เพราะทำแล้วสุนัขยังเมินเลย” เป็นที่รู้กันภายในครอบ ครัวว่า อย่า..........โดยเด็ดขาด (แต่ลูกกับบอกว่าแม่อ้อทำกับข้าวอร่อยที่สุดในจักรวาล แล้วความจริงเป็นอย่างไรกันแน่ ชักสงสัยตัวเองเหมือนกัน แต่ไม่ต้องมาพิสูจน์นะคะ)
แผนกแม่ครัวดู
สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าโรงครัวไปช่วยเขาสับมะละกอดีกว่า น่าจะทำได้ (จริง ๆ แล้วเห็นเขาสับมะละกอสุกแล้วอยากจะกินมาก คงจะหวานน่าดู จึงตัดสินใจเข้าไปช่วยงานนะจุดนั้น ก็คือเห็นแก่กิน) ในโรงครัวก็กำลังทำน้ำยาขนมจีน กลิ่นกำลังหอมเลย และข้าง ๆ ก็กำลังซอยเนื้อหมูเพื่อไปทำอ่อมหมู (อ่อมหมูก็เป็นการเอาเนื้อหมูไปแกงหรือว่าต้มก็ไม่แน่ใจ ใส่ผักหลาย ๆ อย่าง แต่ที่แน่ ๆใส่ผักชีลาวด้วย ก็หอมดี) จากนั้นแม่ครัวรุ่นเก๋าอายุก็อยู่ระหว่าง 50 - 60 ปี ประสบการณ์เพียบก็หมุนเวียนมาตำส้มตำ (ทำไมเป็นส้มตำไปได้ เพราะตอนสับไม่ได้สับส้มแต่สับมะละกอต่างหาก สงสัยจัง.......แต่ก็ช่างเถอะ) ในที่สุดอ้อก็ได้รับตำแหน่งเป็นหน่วยกล้าตายชิม ๆ ทุกครกที่ตำ อร่อยมาก ๆ อร่อยจริง ๆ อร่อยไม่เหมือนใครเลยแต่ละคนอร่อยกันคนละแบบ (เล่าไปก็น้ำลายหก ขอพักยกไปทานน้ำก่อน ) เจอกันตอน 2 นะคะ
ติดตามตอนต่อไปได้เลยนะคะ (^_^)
ไม่มีความเห็น