ประเด็นยอดนิยม เวลาวิเคราะห์ว่า ทำไมงานจึงเป็นไปอย่างจำกัดในเกือบทุกวงการ คือ ขาดคน ขาดของ ขาดเงิน
มีคำถามต่อว่า ถ้าแกล้งลืม “ความขาดแคลน” เหล่านี้ ยังมีทางแก้ปัญหาหรือพัฒนางานได้มั๊ย
โชคดีครับ มีคนตอบด้วยการพิสูจน์อย่างจะแจ้งว่า “ได้เลย” ต่อไปนี้เป็นเรื่องย่อว่าเขาตอบอย่างไรครับ
1. โจทย์ คือ ทำอย่างไร จึงจะป้องกันการติดเชื้อของสายสวนหลอดเลือดดำเพื่อให้อาหารและยาผ่านเข้าไปทางหลอดเลือดำเส้นโตใกล้หัวใจ (มักต้องแทงเข็มผ่านบริเวณร่องเหนือกระดูกไหปลาร้า) ในคนไข้นอนไอซียู ซึ่งในสหรัฐ แต่ละปี พบการติดเชื้อ 80000 รายเข้ากระแสเลือด จนปลิดชีวิตคนไข้ 28000 ราย และเปลืองค่าใช้จ่ายเพื่อเยียวยาเฉพาะเรื่องนี้รายละ 1,350,000 บาท รวมๆกันปีหนึ่งก็หมดเงินมากถึง 69พันล้านบาท
2. แนวคิด CCM คือ
a. ทำให้มาตรฐานการดูแลรักษาที่อยู่ในตำราหรือคู่มือจำนวนหลายหน้ากระดาษ(แปลว่า น้อยคนที่อยากอ่าน) กลายเป็นข้อเตือนความจำเพียงหน้ากระดาษเดียวหรือ2-3 หน้า โดยให้ทุกคนในทีมดูแลคนไข้ที่ต้องสวนหลอดเลือดดำเห็นชอบร่วมกัน เรียกขั้นนี้ว่า checklist
b. แล้วให้พยาบาลเล่นบท ผู้กำกับการแสดง คอยเช็คว่า หมอ พยาบาล ที่กำลังจะสวนหลอดเลือด ทำตามขั้นตอนในข้อเตือนความจำอย่างถูกต้องโดยลำดับ หรือไม่ ถ้าพบความคลาดเคลื่อนก็ให้ทักทันที จะได้แก้ไขทันที เรียกขั้นนี้ว่า culture change
c. บันทึกผลการปฎิบัติและติดตามว่ามีการติดเชื้อตามมาหรือไม่ เพื่อแจ้งให้ทุกคนในทีมได้รับทราบเป็นระยะตามที่ตกลงกันไว้ เรียกขั้นนี้ว่า measure
3. ผลปรากฎว่า ภายใน 3 เดือนแรก จากเดิมทุก 1000 วันที่คาสายสวนไว้ คนไข้ติดเชื้อ 2.7ราย ลดเหลือศูนย์ โดยรวมเหลือ 1.6 ตลอดช่วงเวลา 18 เดือน ที่ปรากฎรายงานการติดตามผลการปรับปรุงวิธีสวนหลอดเลือดดำนี้
รายละเอียดการทดลองนี้ ปรากฎใน An Intervention to Decrease Catheter-Related Bloodstream
Infections in the ICU N Engl J Med 2006;355:2725-32 ครับ
ฟังแนวคิดดูคล้ายง่ายๆ แต่ผมว่า ก็คงจริงครึ่ง ไม่จริงครึ่ง แหละครับ
ครึ่งที่ไม่จริง(ไม่ง่าย) ถ้าให้ผมเดา ก็คือ การทำให้หมอยอมฟังพยาบาลตักเตือน นี่แหละ
โดยทั่วไป ในรพ. หมอคือ “นายใหญ่” แม้แต่ผู้อำนวยการรพ.(ส่วนใหญ่เป็นหมอด้วยกัน)ก็ยังสั่งหมอไม่ได้ วัฒนธรรมนี้มีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ข้อดีคือ ทำให้เกิดการถ่วงดุลอำนาจในวงการแพทย์ จนเป็นเอกลักษณ์ของกระทรวงสาธารณสุข ที่รัฐมนตรีเคยถูกปลดและสุดท้ายติดตาราง ก็เพราะเสียโวยของแพทย์จำนวนหนึ่ง (ก็คดีทุจริตยา 1400 ล้านที่เคยโด่งดังนั่นไง ครับ)
ข้อจำกัดคือ ทำให้แพทย์ฟังไม่ค่อยเป็น โดยเฉพาะจากคนที่แพทย์เห็นว่า ด้อยความรู้กว่าตน หรือไม่ใช่พวกเดียวกัน แพทย์จึงไม่ชอบทำงานเป็นทีม เพราะการทำงานเป็นทีมแต่ละคนต้องพร้อมเล่นบททั้งผู้นำและผู้ตามในจังหวะที่เหมาะสม โดยยึดถือเป้าหมายร่วมกัน เคารพศักดิ์ศรีของสมาชิกทีมอย่างเท่าเทียม เห็นความสำคัญและพยายามสื่อสารกับคนอื่นเพื่อให้การรับรู้ทัดเทียมกันในเรื่องที่มีความจำเป็นแก่การดูแลคนไข้เป็นทีม
อย่างไรก็ตาม ผมก็เคยเห็นตัวอย่างที่ดีในการทำงานเป็นทีมระหว่างแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสายอื่น เช่น
- ที่รพ.มวกเหล็ก การทำงานเป็นทีมอันประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล เภสัชกร บุคลากรประจำสถานีอนามัย ผู้แทนอบต. โภชนากร ทำให้การดูแลคนไข้เบาหวานเป็นไปอย่างราบรื่น และอำนวยประโยชน์แก่คนไข้ทั่วทั้งอำเภอ
- ที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดอยุธยา การทำงานเป็นทีมระหว่างสถานีอนามัยกับรพ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้คนไข้ที่ถูกส่งตัวจากสถานีอนามัยไปรักษาต่อที่รพ. เอ่ยปากว่า ได้รับการเอาใจใส่ดีทัดเทียมกันเสมือนสถานีอนามัยและรพ.เป็นพวกเดียวกัน
การปรับวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันจนบรรลุการเป็นทีม จึงไม่ใช่เรื่องเกินวิสัย ภาวะผู้นำ นับเป็นจุดตั้งต้นสำคัญยิ่งเมื่อพิจารณาจากสามตัวอย่างที่เล่ามาแต่ต้น (นพ.Peter Pronovostในตัวอย่างแรก พญ.ศิรดา ภูริวัฒนพงศ์ ในตัวอย่างที่สอง นพ.วีระพล ธีระพันธุ์เจริญ ในตัวอย่างที่สาม)
ภาวะผู้นำ อาจจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งหน้าที่เสมอไป ในสามตัวอย่างนี้ สองท่านหลังคือผู้อำนวยการรพ. และ ท่านแรกไม่ใช่ ในแง่มุมหนึ่งภาวะผู้นำ ประกอบด้วย ความสามารถในการคิด และสื่อสาร ผ่านหลายช่องทาง หลายจังหวะโอกาส การดำรงตนเป็นแบบอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ก็ถือเป็นการสื่อสารชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญในระยะยาว
ผมยังจำได้ว่า นพ.ไพโรจน์ นิงสานนท์ อดีต รัฐมนตรีและปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นบุคคลตัวอย่างของการสื่อสารอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ว่า ความรับผิดชอบต่องานในหน้าที่สำคัญกว่าการเอาใจนาย เคยได้ยินเรื่องเล่าว่า ท่านมักกล่าวแก่ บรรดาผู้มาต้อนรับท่านเวลาไปเยี่ยมพื้นที่ต่างๆว่า “วันนี้ พวกหนูว่างงาน รึอย่างไร” และท่านจะปฎิเสธการอาสาถือกระเป๋าเอกสารให้ท่านเสมอ สมัยท่านจึงไม่เห็นขบวนต้อนรับ/ส่ง ”นาย” น่าเสียดายที่วัฒนธรรมเช่นนี้ ไม่ได้รับการสืบสานในยุคหลัง
ภาวะผู้นำที่ดี อาจเป็นหนทางแก้ปัญหา หรือพัฒนางาน ด้วยต้นทุนต่ำ ตรงกันข้ามภาวะผู้นำพร่อง อาจสร้างต้นทุนมหาศาลให้กับงาน
อรุณสวัสดิ์ค่ะอาจารย์หมอ
สะพานไทย-ลาว หรือที่ไหนกันครับ