saknarin sirburom


เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้

สาเหตุ

  1. การได้รับบาดเจ็บทางสมองเนื่องจากระบบประสาทส่วนกลางได้รับบาดเจ็บไม่สามารถทำงานได้เต็มที่
  2. กรรมพันธุ์ เนื่องจากงานวิจัยจำนวนมากระบุว่า ถ้าหากพ่อแม่ ญาติ พี่น้องที่ใกล้ชิดเป็นจะมีดอกาส ถ่ายทอดทางพันธุ์กรรม
  3. สิ่งแวดล้อม เป็นสาเหตุอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การได้รับบาดเจ็บทางสมอง หรือกรรมพันธุ์ เช่น การพัฒนาการช้า เนื่องจากการได้รับสารอาหารไม่ครบ ขาดสารอาหาร มลพิษ การเลี้ยงดู 

ความบกพร่อง

บกพร่องทางการอ่าน
  • จำตัวอักษรไม่ได้ จำตัวอักษรได้แต่อ่านเป็นคำไม่ได้
  • ความสามารถในการอ่านต่ำกว่านักเรียนอื่นในชั้นเดียวกัน
  • ระดับสติปัญญาอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยหรือสูงกว่าเกณฑ์
  • เข้าใจภาษาได้ดีหากได้ฟังหรือมีคนอ่านให้ฟัง
  • อ่านคำโดยสลับตัวอักษร
  • ไม่สามารถแยกเสียงสระในคำได้
  • ไม่เข้าใจว่าตัวอักษรใดมาก่อน – หลัง
  • พูดไม่เป็นประโยค
  • เด็กบางคนมีความไวในการฟัง
  • เด็กบางคนอาจมีความไวในการใช้สายตา
บกพร่องทางการเขียน
  • ไม่สามารถลอกคำที่ครูเขียนบนกระดานลงบนสมุดได้
  • เขียนประโยคตามครูไม่ได้
  • ไม่สามารถแยกรูปทรงทางเรขาคณิตได้
  • บางรายอาจมีปัญหาในการผูกเชือกรองเท้าหรือใช้มือหยิบจับสิ่งของ
  • ใช้สายตาในการจดจำสิ่งของไม่ได้ หรือได้ไม่ดี
  • เขียนไม่เป็นคำ อาจเป็นสายเส้น แต่อ่านไม่ได้
  • เขียนเป็นประโยคไม่ได้
  • เรียงคำไม่ถูกต้อง
  • รูปของตัวอักษรที่เขียนไม่แน่นอน
บกพร่องทางคณิตศาสตร์
  • มีปัญหาในการบอกความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง
  • ไม่เข้าใจความหมายของจำนวน
  • ไม่เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่ได้ยินกับสิ่งที่มองเห็น
  • ไม่เข้าใจปริมาณ เมื่อขนาดเปลี่ยนไป
  • ทำเลขไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นบวก ลบ คูณ หาร เพียงอย่างเดียวหรือทั้ง 4 อย่าง
  • ไม่เข้าใจความหมายของตัวเลขที่นำมาเรียงกันทางคณิตศาสตร์
  • ไม่สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนในการคำนวณได้
  • ไม่เข้าใจในการอ่านแผนและกราฟ
  • มีปัญหาในการทำเลขโจทย์ปัญหา
บกพร่องทางกระบวนการคิด
  • ไม่สามารถบอกความแตกต่างของสิ่งที่มองเห็นได้
  • ไม่สามารถบอกความแตกต่างของเสียงที่ได้ยิน
  • ไม่เห็นความสัมพันธ์ระหว่างส่วนย่อยกับส่วนใหญ่
  • มีความจำไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นความจำระยะสั้นหรือระยะยาว
  • ไม่มีความมานะอดทนในการประกอบกิจกรรม
  • จำสิ่งที่มองเห็นได้ แต่หากนำสิ่งนั้นให้พ้นสายตาแล้ว ก็ตามจะจำสิ่งนั้นไม่ได้เลย
  • ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
  • มีพฤติกรรมเหมือนถูกควบคุมโดยสิ่งอื่นที่อยู่ภายนอก
  • ไม่สนใจสิ่งรอบตัว ไม่อยู่นิ่ง
บกพร่องทางการฟังและการพูด
  • มีพัฒนาการทางการพูดล่าช้า
  • ไม่เข้าใจสัญลักษณ์ทางภาษา
  • รู้คำศัพท์น้อย
  • จำแนกเสียงพูดไม่ได้
  • ใช้อวัยวะในการพูดไม่ถูกต้องทำให้พูดไม่ชัด
  • รู้ว่าจะพูดอะไร แต่พูดออกเป็นคำพูดไม่ได้
  • ไม่เข้าใจคำพูดของผู้อื่น
  • พูดไม่เป็นประโยค พูดแล้วคนอื่นฟังไม่รู้เรื่อง
  • พูดไม่ถูกหลักภาษา ไม่เข้าใจโครงสร้างทางภาษา
  • ใช้คำศัพท์ไม่ตรงกับความหมายที่จะพูด

 

 เกณฑ์การตัดสินว่าเป็นเด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้หลักฐานที่ใช้ประกอบ

  • การทดสอบทางสติปัญญา
  • การทดสอบเกี่ยวกับขบวนการเบื้องต้นทางจิตวิทยา
  • การทดสอบเกี่ยวกับการรับรู้
  • การสังเกตอย่างเป็นระบบ
  • การทำงานของนักเรียน
  • ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
  • หลักฐานเกี่ยวกับความบกพร่องทางร่างกาย

 

เทคนิคการสอนเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้

  1. ให้โอกาสเด็กได้มีบทบาทในการวางแผนการเรียน
  2. ใช้เทคนิคการเสริมแรง
  3. อธิบายให้เด็กเข้าใจว่าพฤติกรรมใดเป็นพฤติกรรมที่ดี ที่ควรแสดงออก พฤติกรรมใดที่ไม่ดีไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม เด็กไม่ควรแสดงออก ครูและเพื่อนๆไม่ชอบ
  4. ครูควรนำเทคนิคในการปรับพฤติกรรมาใช้อย่างเป็นระบบ
  5. ครูควรขอคำแนะนำและปรึกษาหารือกับผู้ปกครอง หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้เด็กได้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น
หมายเลขบันทึก: 417691เขียนเมื่อ 2 มกราคม 2011 10:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท