พุทธศาสน์เชื่อว่าความเป็นจริงทุกอย่างสามารถพิสูจน์ได้ พระพุทธองค์ได้กล่าวสอนภิกษูว่าไม่ควรเชื่อสิ่้งใดๆโดยเหตุสิปประการคือ 1.ไม่ควรเชื่อด้วยการฟังตามกันมา 2. ไม่ควรเชื่อด้วยการถือปฏิบัติสืบๆกันมา 3. ไม่ควรเชื่อด้สยข้าวเล่าลือ 4. ไม่ควรเชื่อด้วยการอ้างตำรา 5. ไม่ควรเชื่อด้วยเพราะมีเหตุน่าเชื่อ 6. ไม่ควรเชื่อโดยการคาดคะเน 7. ไม่ควรเชื่อโดยการตรึกตามอาการ 8. ไม่ควรเชื่อโดยชอบใจว่าเหมือนกับความเห็นของตน 9. ไม่ควรเชื่อโดยการคำนวณความเป็นไปได้ 10.ไม่ควรเชื่อโดยถือว่าผู้พูดเป็นครูของเรา พระพุทธองค์ได้กล่าวแก่พระภัททิยะว่า ดูกรภัททิยะ เมื่อใดเธอพึงรู้ด้วยตนเอง สิ่งเหล่านี้ไม่ดี สิ่งเหล่านี้มีโทษ เธอพึงละเสียเถิด ดูกรภัททิยะ เมื่อใดเธอพึงรู้ด้วยตนเองว่า สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์เธอพึงน้อมมาใส่ตนเถิด(พระไตรปิำกฉบับสยามรัฐ 2501:32:314) จะเห็นได้ว่า พระพุทธเจ้าเน้นให้บุคคลเชื่อการประจักษ์แจ้งของตน แทนที่จะเชื่อสิ่งอื่น แต่ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนการฟังว่าเป็นองค์ประกอบแห่งความรอบรู้ ดังนั้น ลักษณะพื้นฐานของพุทธศาสน์ในประเด็นนี้คือ "ศึกษาให้มาก ฟังทุกคนแต่เชื่อตนเอง"
อ่านแล้วยังงงๆค่ะ แต่ก็ชอบอ่านทำให้สบายใจดีค่ะ ขอบคุณค่ะ
...กาลามสูตร...เคยถูกหลอกมาหลายครั้งแล้วเพราะเชื่อคนอื่น...รู้จักคนรู้จักหน้า...แต่ไม่รู้จักใจ อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจตัวเอง ....จะเชื่อใคร ก้ไตร่ตรองพิจารณาดูให้รอบคอบดีก่อนนะครับ ...ว่าควรเชื่อหรือไม่ ตรวจสอบข้อมูลให้ดีๆ...
ทำให้คนอยู่บ้านไม่เชื่อนะเนี่ย