โลกกว้างคือห้องสมุด การท่องเที่ยวคือการอ่านหนังสือ : ตอนที่ 1


คำกล่าวที่ว่า "โลกกว้างคือห้องสมุด การท่องเที่ยวคือการอ่านหนังสือคงจะจริง การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆในชีวิตที่เราไม่เคยเห็นหรือพบเจอ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ สถานที่และบรรยากาศใหม่ๆ ได้เรียนรู้และสัมผัสกับวัฒนธรรม ประเพณี ผู้คน ภาษา ศาสนา ที่เราไม่เคยรู้จักและสัมผัสมาก่อน ข้าพเจ้าคิดว่าชีวิตคนเรามีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ เช่นกันกับการท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะในประเทศของเราเองหรือต่างประเทศก็ตาม การบันทึกครั้งนี้ข้าพเจ้าขอเชิญชวนเพื่อนๆอ่านหนังสือเรื่องสาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) หรือ เกาหลีใต้ (South Korea)กันค่ะ

ข้อมูลเกาหลีโดยย่อ

 
ภูมิประเทศ
   คาบสมุทรเกาหลีทอดตัวไปทางทิศใต้ทางบด้านตะวันออกของทวีปเอเชีย มีความยาว 1,020 กิโลเมตร (612 ไมล์) และกว้าง 175 กิโลเมตร (105 ไมล์) ณ จุดที่แคบที่สุดของคาบสมุทร พื้นที่ 70% ของประเทศเป็นเทือกเขา จึงจัดเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของแผ่นดินที่เป็นหินแกรนิตและหินปูนทำให้เกิดภูมิประเทศที่สวยงามอย่างมหัศจรรย์ ประกอบด้วยเทือกเขาและหุบเขา เทือกเขา ตลอดชายฝั่งด้านตะวันออกสูงชันและทอดตัวลงสู่ทะเลตะวันออก ในขณะที่ชายฝั่งทางด้านใต้ และตะวันตก เทือกเขาค่อย ๆ ลาดลงต่ำสู่ที่ราบชายฝั่ง ซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลีโดยเฉพาะในด้านการผลิตข้าว  คาบสมุทรเกาหลีถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ที่บริเวณเหนือเส้นขนานที่ 38 คือ ประเทศระบอบประชาธิปไตย สาธารณรัฐเกาหลีอยู่ทางใต้ และประเทศระบอบคอมมิวนิสต์ เกาหลีเหนือ โดยถูกคั่นกลางโดยเขตปลอดทหาร

   ประเทศเกาหลีใต้มีพื้นที่ 99,500 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 47.9 ล้านคน (ค.ศ.2003)ประกอบด้วย 9 จังหวัด (โด) กรุงโซลเป็นเมืองหลวงของประเทศ และประกอบด้วยเมืองใหญ่ ๆ 6 เมือง คือพูนซาน แทกู อินชน ควางจู แทจอน และ อุลซาน รวมมีเมืองทั้งหมด 77 เมือง (ซี) 88 มณฑล (กุน) ใน 9 จังหวัด

ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์
ระหว่างเส้นละติจูดที่ 33 และ 43 องศาเหนือ และเส้นลองจิจูดที่ 124 และ 131 องศาตะวันออก (รวมเกาหลีเหนือ)

ยอดเขาสูงสุด
ยอดเขาฮัลลาซานบนเกาะเชจู 1,950 เมตร ยอดเขาชีรีซาน 1,915 เมตร และยอดเขาซอรักซาน 1,708 เมตร

แม่น้ำ
แม่น้ำนักตงคัง 522 กิโลเมตร แม่ฮันคัง 482 กิโลเมตร และแม่น้ำคึมคัง 396 กิโลเมตร

สภาพเศรษฐกิจ (ปี 2002)
มีรายได้รวมทั้งประเทศ 477 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีรายได้เฉลี่ยต่อบุคคลต่อปี 10,013 เหรียญสหรัฐ

ธงประจำชาติ


ธงประจำชาติเกาหลีมีชื่อเรียกว่า แทกึกกี้ลวดลายของธงบอกถึงสัญลักษณ์หยินหยางตามหลักปรัชญาตะวันออก รูปวงกลมตรงกลางธงแบ่งออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน คือ ส่วนบนที่เป็นสีแดงหมายถึง พลังในเชิงบวกหรือหยาง และส่วนล่างสีน้ำเงินหมายถึง พลังในเชิงลบหรือ หยิน พลังทั้งสองอย่างรวมกันเป็นหลักแห่งความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง สมดุลยภาพ และการสมานสามัคคีอันไม่รู้จบ วงกลมนี้ล้อมรอบด้วยสัญลักษณ์สี่อย่าง อยู่ที่แต่ละมุมคือสวรรค์ () โลก () ไฟ () และ น้ำ (

ดอกไม้ประจำชาติ


ดอกมูกุงฮวา หรือ โรส ออฟ ชารอน เป็นดอกไม้ประจำชาติเกาหลี ซึ่งจะบานสะพรั่งทั่วประเทศระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม สิ่งที่ทำให้ดอกไม้ชนิดนี้ไม่เหมือนดอกไม้ชนิดอื่นคือสามารถทนสภาพอากาศที่เลวร้ายและศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี ความหมายของคำว่า มูกุงฮวา มาจากรากศัพท์ มูกุง ซึ่งหมายถึงความเป็นอมตะ คำ ๆ นี้สะท้อนความเป็นอมตะของประวัติศาสตร์เกาหลี ความมุ่งมั่นและความอดทนของชาวเกาหลี

ภูมิอากาศ

ประเทศเกาหลีมีสภาพอากาศอยู่ในเขตอบอุ่น และมีสี่ฤดูที่แตกต่างกันคือ ในปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน ต้นไม้จะผลิใบสะพรั่งเต็มต้น เป็นสัญญาณว่าฤดูใบไม้ผลิได้เริ่มขึ้นแล้ว ระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมจะมีหลาย ๆ วันที่แสงแดดสดใสตลอดทั้งวัน

ในฤดูร้อนซึ่งอากาศร้อนและมีฝนตกบ้าง ต้นไม้จะเขียวชะอุ่มทั่วไป ในเดือนมิถุนายนอุณหภูมิเฉลี่ยจะสูงกว่า 20 องศาเซลเซียสเล็กน้อย ฤดูมรสุมปกติจะเริ่มขึ้นในปลายเดือนมิถุนายน จนถึงช่วงกลางหรือปลายเดือนกรกฎาคมและในเดือนสิงหาคมอากาศจะร้อนจัดและชื้นมาก

ฤดูใบไม้ร่วงจะเริ่มขึ้นตอนปลายเดือนกันยายน ลมที่พัดมาจากแผ่นดินใหญ่นั้นทำให้อากาศแห้งและท้องฟ้าโปร่ง จึงเป็นช่วงที่อากาศเหมาะกับการท่องเที่ยวมากที่สุดในเดือนตุลาคม ทิวทัศน์ทั่วทั้งประเทศจะมีสีสันสดใสด้วยใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีทองและสีแดงเต็มต้น

ในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์อากาศจะหนาวเย็นและแห้ง บางครั้งมีฝนหรือหิมะ ในช่วงนี้มักจะมีวันที่อากาศหนาวจัดประมาณ 3-4 วัน สลับกับวันที่อากาศอุ่นสบาย

ศาสนา


   ประเทศเกาหลีให้ความเคารพต่อเสรีภาพในการนับถือศาสนาโดยมีลัทธิประเภททรงเจ้า บูชาผี ศาสนาพุทธ และลัทธิขงจื้อ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหลักปรัชญาในการพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรมของประเทศก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีศาสนาย่อย ๆ ที่เกิดขึ้นใหม่จากการผสมผสานแนวความคิดบางอย่างในศาสนาดั้งเดิม และยังมีผู้หันไปนับถือศาสนาคริสต์เป็นจำนวนมาก นับตั้งแต่เริ่มเข้ามาเผยแพร่เมื่อปลายศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา

ภาษา
   ภาษาเกาหลีจัดอยู่ในกลุ่มยูราล-อัลเตอิค เช่นเดียวกับภาษาฮังกาเรียน ตุรกี มองโกเลียน และฟินนิช ตัวอักษรของเกาหลีเรียกว่า ฮันกึล และประกอบด้วยสระ 10 ตัว และพยัญชนะ 14 ตัว ภาษาพูดได้แปลงมาเป็นภาษาเขียน ในสมัยกษัตริย์เซจง โดยนักการศึกษากลุ่มหนึ่ง ในปี ค.ศ. 1443 ผลงานของนักการศึกษากลุ่มนี้ถูกกล่าวขวัญว่าเป็นการสร้างสรรค์ที่อัจฉริยะอย่างแท้จริง  ตารางด้านล่างแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงตัวอักษร ฮันกึล 24 ตัว ออกมาเป็นภาษาโรมันและไทย รัฐบาลเกาหลีได้มีนโยบายแปลงตัวอักษรนี้ในปี ค.ศ. 2000 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากป้ายชื่อถนนและป้ายข้อมูลต่าง ๆ มีพื้นฐานอยู่ที่ระบบของแมคคูนไรซเชาเวอร์ ทำให้การเปลี่ยนตัวอักษรโรมันแบบโบราณมาเป็นแบบสมัยใหม่ในปี ค.ศ. 2005

ประวัติศาสตร์


   มนุษย์เริ่มเข้าไปตั้งรกรากในบริเวณที่เป็นประเทศเกาหลีในปัจจุบันเมื่อประมาณ 500,000 ปี ก่อนอาณาจักรแรกได้แก่ โคโชซอน (โชซอนโบราณ) ตั้งขึ้นเมื่อ 2,333 ปี ก่อนคริสตศักราช และในช่วงหนึ่งศตวรรษก่อนคริสตศักราช คาบสมุทรเกาหลีทั้งหมดและดินแดนส่วนใหญ่ของประเทศแมนจูเรียอยู่ภายใต้การปกครองของสามอาณาจักร คือ โคกูเรียว แพ็กเจ และชิลลา นับเป็นอาณาจักรที่มีอำนาจสูงสุดในแถบนั้น เป็นที่รู้จักกันว่า ยุคแห่งสามอาณาจักร ระหว่าง 57 ปีก่อน คริสตศักราช ถึงปี ค.ศ. 668  ในปี ค.ศ.668 และ 660 ตามลำดับ อาณาจักร โคกูเรียว และแพ็กเจ ได้พ่ายแพ้ต่ออาณาจักรชิลลา จึบงเป็นการรวมเอาดินแดนในคาบสมุทรเข้าด้วยกันในปี ค.ศ. 676 ยุคชิลลารวมอาณาจักร (ปี ค.ศ. 676-935) นับเป็นยุคทองของวัฒนธรรมเกาหลี โดยเฉพาะทางด้านพุทธศิลป์ ต่อมาในยุคอาณาจักรโคเรียว (ปี ค.ศ.918-1392) มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชนชั้นปกครองขึ้น พุทธศาสนาได้กลายเป็นศาสนาประจำชาติ และมีอิทธิพลต่อระบบการเมืองการปกครองเป็นอย่างมาก ชื่อประเทศเกาหลีก็มาจากคำว่า โคเรียว นั่นเอง  ปี ค.ศ.1392-1910 อยู่ในสมัยราชวงศ์ โชซอน อันเป็นราชวงศ์สุดท้ายของประเทศเกาหลี มีการปฏิรูปการเมืองการปกครองอย่างเอาจริงเอาจัง ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดคือ การยกย่องให้ลัทธิขงจื้อกลายเป็นคติธรรมประจำชาติ การสร้างสรรค์งานด้านวรรณศิลป์ และการประดิษฐ์ตัวอักษร ฮันกึล ในปี ค.ศ.1443 ทำให้ยุคนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวัฒนธรรมเกาหลี มีเมืองฮันยาง ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อโซล เป็นเมืองหลวงในปี ค.ศ.1394 ปราสาทและกำแพงเมืองจากในยุคนี้ยังคงมีให้เห็นจนกระทั่งปัจจุบัน

   ราชวงศ์โชซอนได้สิ้นสุดลงในปี ค.ศ.1910 ภายหลังการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีได้ตกเป็นอาณานิคมของประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 35 ปี จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองได้สิ้นสุดลงในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ.1945 กองทัพญี่ปุ่นยอมแพ้สงคราม และถอนกำลังออกจากประเทศเกาหลีซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสองประเทศ คือประเทศเสรีทางใต้และประเทศคอมมิวนิสต์ทางเหนือ สามปีต่อมาประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งอยู่ทางใต้จึงจัดตั้งรัฐบาลอิสระได้สำเร็จ

   สงครามเกาหลีได้ระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ.1950 เมื่อเกาหลีเหนือบุกเกาหลีใต้ และในที่สุดก็มีการลงนามในสัญญาสงบศึกในปี ค.ศ.1953 หลังสงครามดังกล่าว เกาหลีใต้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการฟื้นฟูประเทศให้มั่นคงและมั่งคั่งอีกครั้งหนึ่ง

ดันกุนและพงศาวดารแห่งต้นกำเนิดของเกาหลี


   ในราวพันปีมาแล้ว ในยุคที่วานึง บุตรแห่งสวรรค์ปกครองโลกอยู่นั้น มีหมีและเสืออย่างละหนึ่งตัวอยากเป็นมนุษย์มาก ๆ มันจึงสวดมนต์ขอพรต่อวานึงเพื่อประสิทธิ์ประสาทพรนี้ให้แก่มัน วานึงประทับใจ และสงสารสัตว์สองตัวนี้ยิ่งนักที่มันมีความมั่นคงในสิ่งที่มันต้องการ และวานึงก็สัญญาจะแปลงร่างของมันทั้งสอง แต่มีข้อแม้ว่ามันต้องเข้าไปอยู่ในถ้ำมืดเป็นเวลา 100 วัน และดำรงชีพด้วยกระเทียมและผักขมเกาหลีเท่านั้น เมื่อเสือเข้าไปอยู่ในถ้ำ และออกล่าสัตว์ไม่ได้ ความอดทนของมันหมดไปและมันก็เลิกล้มความคิดที่อยากเป็นมนุษย์ ส่วนหมีทนอยู่ในถ้ำได้ถึง 21 วัน และวานึงก็แปลงร่างมันให้เป็นหญิงสาว เมื่อ หมีกลายเป็นหญิงสาวแล้ว มันก็ขอให้วานึงให้หาคู่ครองกับมัน วานึงเห็นว่าหญิงสาวผู้นี้มีความงดงามมาก จึงเข้าพิธีวิวาห์เสียเอง หลังจากนั้นทั้งสองได้ให้กำเนิด บุตรชายชื่อว่า ดันกุน ผู้ซึ่งในภายหลังได้ก่อตั้งอาณาจักรนามว่า โคโชซอน ในปี 2333 ก่อนคริสต์กาล และนี่ก็คืออาณาจักรแรกเริ่มในคาบสมุทรเกาหลี

ข้อมูลจาก : http://www.kto.or.th

คำสำคัญ (Tags): #เกาหลีใต้
หมายเลขบันทึก: 413723เขียนเมื่อ 14 ธันวาคม 2010 15:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

คุณอุมาภรณ์   ดีมากๆ ครับ คุณให้ความรู้เรื่องเกาหลีดีมาก อ่านหนังสือ เหมือนได้ท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง   อ่านแล้ว  ได้เรื่องราว ได้ความรู้ใหม่ๆ เช่น ดอกไม้ประจำชาติเกาหลี  คน กศน.  ทำหน้าที่แบบนี้  ทำได้ดี ถือว่า  ช่วยเผยแพร่ความรู้ที่มีต่อเนื่องไม่สิ้นสุด ให้ผู้อ่านได้รับทราบ ขอบคุณแทนพวกเขาด้วยยครับ  คุณเรียบจบโทแล้วใช่ไหม หากยังมิได้เรียน เชิญที่รามฯ สาขาวิทยบริการฯ ลพบุรี  ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท