KMCafe ครั้งที่ 1


KMCafe1-การจัดการความหลากหลาย
สรุป KM Café ครั้งที่ 1วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2549เวลา 13.00 -14.30 น. ห้อง 1114

โครงการหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการความรู้(Knowledge Management : KM) ได้จัดให้มีกิจกรรม KM Café ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะจัดให้มีขึ้นเดือนละครั้ง(ประมาณสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน) โดยมุ่งหวังที่จะให้บุคลากรที่สนใจในประเด็นหัวข้อที่กำหนดได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้(Show and Share) และหากมีการนำสิ่งที่ได้รับไปปรับใช้เพื่อพัฒนาตนเองหรือองค์กรก็จะเป็นอานิสงค์ยิ่งขึ้นไปอีก ในครั้งปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2549 ได้จัดในหัวข้อ การจัดการความหลากหลาย (Divergent Management)” มีผู้สนใจเข้าร่วม(Community of Interest : COI) รวม 12 คน(เต็มห้อง 1114 ซึ่งเป็นห้องโครงการฯพอดี) โดยมีรายนามผู้เข้าร่วมดังต่อไปนี้

1.       รศ. เทื้อน                                ทองแก้ว

2.       รศ. ดร. ธำรงค์                       อุดมไพจิตรกุล

3.       ดร. พรรณี                              สวนเพลง

4.       ผศ. อุทิศ                                 เชาวลิต

5.       . วีระ                                     พุ่มกลัด

6.       . วิทยา                                  ศิริพันธ์วัฒนา

7.       . แจ่มใส                                รัตนมาลี

8.       . รุ่งเกียรติ                            แก้วเพชร

9.       . ไพรัช                                   บุบผาชาติ

10.    . อธิดล                                  เดชะไกศยะ

11.    . ธันยาภรณ์                         อุ่นมาก

12.    . ศัชชญาส์                           ดวงจันทร์

  สาระความรู้ที่สกัดได้จาก KM Café ครั้งที่ 1 มีดังนี้ ความหลากหลาย(Divergence) ทางความคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ในหลายๆ กรณีนำไปสู่ความขัดแย้ง(Conflict) ถึงขั้นแตกแยกได้(มีเหตุการณ์ร่วมสมัยให้ได้เห็นมากมาย) ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วความสมดุล(Balance) จะก่อให้เกิดความดีความงามได้เสมอ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการจัดการความหลากหลายสู่ความสมดุลเพื่อความดีและความงามตามหลักธรรมชาติการจัดการความหลากหลาย(Divergence Management)ให้ได้ผลดี ต้องให้เกียรติตนเอง ลดอัตตา ให้เกียรติคนอื่นที่คิดต่างจากตน อ่อนน้อมเหมือนรวงข้าวเต็มเมล็ดที่จะน้อมต่ำลงเสมอ เปิดใจ(Open Mind)ให้มากขึ้นทุกขณะ เรียนรู้เพื่อเติมเต็ม(full fill)ความรู้เดิมให้งอกงามขึ้น และที่สำคัญที่สุดต้องให้เกิดลักษณะนิสัยแห่งการใฝ่รู้(Insight Habit) เพื่อจัดการความหลากหลายที่เกิดขึ้นตลอดเวลาให้เกิดความสมดุลได้อย่างจีรังยั่งยืน 

ประเภทของความหลากหลาย           

1. ธรรมชาติเป็นความหลากหลายที่จัดการได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นอาจไม่จำเป็นต้องเข้าไปจัดการ           

2.วัฒนธรรม เป็นความหลากหลายที่เกิดจากมนุษย์ เป็นความหลากหลายที่เข้าไปจัดการได้

นวทางการจัดการความหลากหลาย           

1. มองภาพรวมทั้งระบบ           

2. เลือกสรรสิ่งที่มีคุณค่า           

3. ตัดขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน           

โดยทั้งสามขั้นตอนนั้นจะทำให้ได้ ความรู้ใหม่ จากความหลากหลายที่นำ (Percieve) ไปทำปฎิสัมพันธ์กับ ความรู้เดิม ในคนหรือในองค์กร (Self-interaction) ก่อให้เกิดการ พัฒนา                      

วิธีการจัดการความหลากหลาย

ความสามารถในการจัดการตนเอง (Self - Management)  โดย           

1. การจัดการโดยความสามารถในการชี้นำตนเอง (Self Directed)  ตามหลักครองตน ครองคน ครองงานและครองเงิน           

2.  ระเบิดออกไปจากภายใน (Intrinsic explosion) โดยอาศัยอิทธิบาท4

3. ฝึกความยืดหยุ่นโดย 

         3.1. เปิดใจและเปิดรับผ่านการฝึกไว้ใจ  วางใจ  เกรงใจ มั่นใจ                       

         3.2. การให้เกียรติผู้อื่น โดยผ่านการฝึกกาลเทศะ การฟังเป็นและพูดเป็น การให้คุณค่าต่อเพื่อนร่วมงาน             

4. เทคนิคการสร้างความร่วมมือ                       

         4.1. หาจุดร่วมที่ต้องใจของผู้ร่วมงาน เพื่อจะได้กำหนดจุดหมายปลายทางร่วมกัน                       

         4.2. มั่นใจว่ายังมีความรู้มากมายที่คนอื่นรู้แต่เราไม่รู้           

5. ต้องมีความรักต่อสถาบัน หัวหน้างานละเพื่อร่วมงานวิธีการจัดการความหลากหลาย เริ่มที่ตนเองและขยายไปสู่เพื่อนร่วมงานเพื่อทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นำไปสู่การให้คุณค่าในความเป็นมนุษย์ ทำให้รู้สึกมีศักดิ์ศรี เป็นที่ยอมรับ เกิดความร่วมมือ เกิดพลัง และที่สำคัญความสามารถในการจัดการความหลากหลาย ทำให้เกิด มูลค่าและคุณค่าเพิ่มอย่างน่าสนใจ ตัวอย่าง โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนำเอาสินค้าที่หลากหลายสายพันธุ์มาใช้ร่วมกัน (Convergence Product) หรือนาฬิกาข้อมือที่บันทึกเพลงได้ถึง 40 เพลง  เป็นต้น คำถามสำหรับนักวิชาการ คือ ทำอย่างไรที่จะสร้างผลงานที่เป็น Convergence Product ออกมาบ้าง เพื่อจะทำให้บัณฑิตที่จบออกไปนั้นมีคุณภาพที่ตอบสนองการทำงานที่ทั้งประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด     

 

คำสำคัญ (Tags): #kmcafe
หมายเลขบันทึก: 41282เขียนเมื่อ 28 กรกฎาคม 2006 11:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 17:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท