การพัฒนาแนวพุทธ ความเสมอภาค และความยุติธรรม
โดย ดร.ปรีชา เปี่ยมพงศ์สานต์
จุดยืนของเศรษฐศาสตร์แนวพุทธ
เมื่อวัฒนธรรมตะวันตก เริ่มมีบทบาทในการในการดำเนินชีวิตของคนส่วนใหญ่ในสังคม ทำให้ความเจริญทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีได้นำวัตถุและปัจจัยการดำรงชีวิตมาสู่คนกลุ่มหนึ่งที่ยึดติดกับความสะดวกสบาย วัฒนธรรมตะวันตก มาเยือนพร้อมกับวิถีการพัฒนาแบบ “อุตสาหกรรมนิยม” ซึ่งเกิดช่องว่างมากมาย คนจนมีมากขึ้น ความว่างเปล่าทางวัตถุมีมาก และเกิดความทุกข์ยากทางจิตใจ
ในสถานการณ์ชีวิตและสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย การคิดคำนึงถึงวิถีทางใหม่ เพื่อให้หลุดพ้นจากวิกฤตที่ดำรงอยู่ ทำให้ “เศรษฐศาสตร์ของชาวพุทธ” ที่หวนกลับไปยังปรัชญาและสัจธรรมพื้นฐานดั้งเดิมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสังคม โลก ธรรมชาติ และมนุษย์ โดยมี
จุดยืน 2 ข้อ คือ ด้านหนึ่ง ต้องการให้ความสำคัญสูงแก่เรื่องความรัก ความห่วงใยและความเข้าใจในหมู่มนุษย์ด้วยกัน อีกด้านหนึ่ง ต้องการให้การดำเนินการปกป้องคุ้มครองธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาความหลากหลายของชีวิต ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการพัฒนาวัตถุและการพัฒนาจิตใจพร้อม ๆ กับการส่งเสริมทางด้านการแสวงหาภูมิปัญญาที่อยู่บนพื้นฐานของสังคมวัฒนธรรมท้องถิ่นและนิเวศวิทยาพื้นบ้าน
โลกทรรศนะของพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้ามองโลกและมองสังคมบนพื้นฐานที่มีอยู่ 3 ข้อ คือ
พระพุทธเจ้ามองโลกและสังคมแบบไดนามิค สังคมและโลกมิได้หยุดนิ่ง
พระพุทธเจ้าย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นสิ่งจำเป็น ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงเราก็ไม่อาจแก้ไขปัญหาชีวิตได้
คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นมีหลายมิติด้วยกัน คือ เน้นเรื่องจริยธรรม จิตวิญญาณของมนุษย์ เรื่องของธรรม ศีลธรรม และการเสนอแนวคิดมนุษย์ควรจะจัดระบบเศรษฐกิจของตน
มนุษย์และความเสมอภาคแบบพุทธ
พระพุทธเจ้าให้ความสำคัญสูงมากแก่หลักการ ความเสมอภาค ซึ่งจะสรุปมาได้ 5 ข้อ คือ
1. มนุษย์รับรู้เรื่องทุกข์ยากและปัญหาของผู้อื่น
2. มนุษย์ทุกคนเป็นเพื่อนเกิด เพื่อนแก่ เพื่อนตาย ทุกคนอยู่ใน กฎแห่งวัฎจักรสงสาร….…..เดียวกันหมด
3.มนุษย์ไม่ว่าจะเกิดที่ไหน มีฐานะ มีตำแหน่งอะไรก็ตาม ทุกคนมีศักดิ์ศรีเหมือนกันหมด
4. มนุษย์ทุกคนย่อมมีโอกาสเท่าเทียมกันในการพัฒนาตนเองอย่างมีอิสระ
5. ทุกคนมีความรักต่อเพื่อนมนุษย์และมีหน้าที่ที่จะต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
เมื่อมองความเสมอภาคแบบชาวพุทธแล้วไม่ใช่เป็นเรื่องของลัทธิ แต่เป็นเรื่องของหน้าที่ เรื่องของจิตสำนึก และจะเน้นในเรื่องการเจริญเติบโตของรายได้ประชาชาติอย่างเดียว โดยไม่มีมิติทางจริยธรรมเลย เราได้ละเลยมิติของความเสมอภาคในแนวพุทธ ปัญหาต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นปัญหาสังคม ปัญหาสิ่งแวดล้อม จนถึงปัญหาความไม่เป็นธรรม วันนี้เรายังคงถามอยู่เหมือนเดิมว่า ปีนี้เศรษฐกิจจะโตกี่เปอร์เซ็นต์ แต่จะไม่ถามเลยว่าคนจนจะเป็นอย่างไร
หลักธรรมสำหรับผู้ปกครองแผ่นดิน
พระพุทธเจ้าให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองแผ่นดินว่า จะต้องดูแลให้ระบบธรรมมะเกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจทางสังคม และเศรษฐกิจสังคมจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเน้นความเสมอภาคและความยุติธรรม นโยบายเศรษฐกิจใหม่จะต้องไม่แฝงด้วย ความโน้มเอียงต่อชนชั้นใดชนชั้นหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
พระพุทธเจ้าได้เน้นหลักประชาธิปไตยในการบริหารแผ่นดิน หลักการที่บอกว่า เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม หมายความว่า ต้องมีการใช้หลักธรรมเป็นการนำ ในการวางเป้าหมายสูงสุด นั้นคือ สังคมจะต้องมีเสถียรภาพ มีสันติธรรม และประชาชาติมีความรุ่งเรือง ประชาชนมีความสุข ผู้ปกครองในอุดมคติของพุทธปรัชญา คือ ธรรมราชา
การจัดระบบเศรษฐกิจสังคมแบบพุทธ
การสร้างระบบเศรษฐกิจสังคมที่มีเสถียรภาพ และส่งเสริมฐานะความเป็นอยู่ของประชาชน ขึ้นอยู่กับ 4 ประการ คือ
มีผลผลิตความมั่นคง โดยใช้ความรู้ความเพียรพยายามและเน้นเรื่องประสิทธิภาพ
มีการรักษาความมั่นคงนี้เอาไว้ โดยการออมทรัพย์
มีการจ่ายอย่างระมัดระวังเพื่อการบริโภค
การผลิตต้องสนองความต้องการของสังคมเป็นหลัก
การจัดระบบเศรษฐกิจในแนวพุทธ เป็นการจัดระบบเพื่อก่อให้เกิดวิธีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่มีการสะสม และที่สำคัญก็คือ ในระบบเศรษฐกิจแบบนี้คนยากจนควรได้รับความช่วยเหลืออย่างใครเพื่อน คนมั่งมีควรจะกระจายทรัพย์สมบัติไปให้ผู้ยากไร้
ทฤษฎีว่าด้วยความยุติธรรมสมัยใหม่ กฎของ Rawls บ่งว่าผู้ที่ยากไร้ที่สุดในสังคมควรที่จะได้รับการจัดสรรทรัพยากรเป็นพิเศษนับว่าสอดคล้องกับคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างยิ่ง
ความสำเร็จของการพัฒนา มิได้วัดกันด้วยการมีวัตถุ มีการผลิต มีการบริการหรือรายได้ประชาชาติที่ขยายตัวในอัตราที่สูงเราควรจะพึ่งวัดด้วยความไม่มีคนอดยากยากไร้ มากกว่า นโยบายเศรษฐกิจของชาติต้องยึดคนเป็นหลัก ไม่ใช่ยึดวัตถุการผลิตหรือรายได้ส่วนรวมของชาติเป็นหลัก คนต้องหลุดพ้นจากความทุกข์ยากทั้งทางร่างกายละจิตใจ
รัฐสวัสดิการของชาวพุทธ
หลักการของการปกครองแผ่นดินหรือการวางนโยบายเศรษฐกิจชาวพุทธ สรุปได้ 5 ข้อใหญ่ด้วยกัน คือ
ผู้ปกครองแผ่นดินต้องยึดหลัก ธรรมาธิปไตย
ต้องมีการจัดระบบการคุ้มครองทางสังคมแก่ชนทุกหมู่เหล่าในแผ่นดินอย่างเสมอภาค
ต้องป้องกันไม่ให้มีความไม่เป็นธรรมใด ๆ เกิดขึ้นในแผ่นดิน
ต้องส่งเสริมให้มีการโยกย้ายทรัพยากร และแบ่งปันให้แก่ผู้ไร้ทรัพย์
ผู้ปกครองแผ่นดินต้องปรึกษาเรื่อง ความดี ความชั่ว กับสถาบันสงฆ์อยู่เสมอ
การปกครองแผ่นดินและการวางนโยบายต่างๆ ต้องให้หลักธรรมและก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่มวลชนทุกกลุ่มทุกส่วนของสังคม เราเรียกได้ว่า นี้คือแบบจำลอง รัฐสวัสดิการแบบพุทธ
วิถีชีวิตแห่งมนุษยนิยม
พระพุทธเจ้าสอนให้เราไม่ล้มเหลวในการแสวงหาวัตถุเงินทอง
สอนให้ประหยัดเพื่ออนาคต ไม่ส่งเสริมให้มีการสะสมทรัพย์สินเกินความจำเป็น สอนให้
คนมีใจกว้าง ให้บริจาค หรือให้ทานแก่ผู้ยากไร้ตลอดเวลา
ไม่มีความเห็น