seamless health care หรือ บริการสุขภาพไร้รอยต่อ เป็นภาพฝันหนึ่งที่เชื่อว่า ใครๆก็อยากเห็น เพราะ ในแง่มุมหนึ่ง บริการไร้รอยต่อคือการทำให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการระดับใด และผู้รับบริการ เข้าถึงข้อสนเทศชุดเดียวกัน นำไปสู่การรับรู้ตรงกัน อันเป็นบรรทัดฐานอย่างหนึ่งของการบรรลุการกระทำร่วมกันเพื่อในที่สุด คนไข้มีสุขภาพดี และ ทรัพยากรถูกใช้อย่างเหมาะสม
แล้ว ความจริงกับภาพฝันต่างกันแค่ไหน เป็นไปได้จริงหรือว่า ภาพฝันนั้นไม่ไกลเกินเอื้อม ถ้าจะไปให้ถึงภาพฝันควรมีแนวทางอย่างไร
ในความรับรู้อันจำกัด ผู้เขียนเชื่อว่า ความจริงกับภาพฝันต่างกันยังห่างไกลกันลิบลับ ถ้ามองภาพทั่วไปของระบบบริการสุขภาพไทยปัจจุบัน ดูอย่าง เช่น
อย่างไรก็ตาม ภาพฝันนั้นน่าจะไม่ไกลเกินเอื้อม เมื่อได้สัมผัสกับ"ของจริง" ในที่ที่มีกำลังคนและกำลังทรัพย์จำกัด เช่น ที่อำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี
ที่นี่ ผมได้เห็นตัวอย่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แพทย์/พยาบาลรพ.แก่งคอย พยาบาลประจำสถานีอนามัยบ้านป่าในเครือข่ายอำเภอแก่งคอย หรือแพทย์/พยาบาลรพ.สระบุรี อำเภอเมือง สามารถมองเห็นข้อมูลคนไข้รายเดียวกันที่ส่งต่อภายในเครือข่ายได้พร้อมๆกันตลอดเวลา ทุกคนจึงรู้ว่า คนไข้ป่วยเป็นอะไร กำลังได้รับยาอะไร จำนวนเท่าใด ผลการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะเป็นอย่างไร ล่าสุดความดันเลือด เป็นเท่าใด อย่างนี้เป็นต้น ในขณะเดียวกันก็มีระบบป้องกันการเข้าถึงข้อมูลคนไข้โดยผู้ไม่เกี่ยวข้อง ระบบสำรองข้อมูล ระบบไฟฟ้าสำรองเพื่อให้แน่ใจว่า ฐานข้อมูลกลางจะทำงานได้ไม่สะดุด มีโปรแกรมเมอร์คอยดูแลระบบข้อมูลให้ทันสมัยตรงใจผู้ใช้ และทำงานราบรื่นสม่ำเสมอ
ระบบสารสนเทศที่เล่ามานี้ ตั้งต้นที่รพ.แก่งคอย ซึ่งเป็นรพ. 60 เตียง แปลว่ามีเงินและคนจำกัดอย่างมากเมื่อเทียบกับรร.แพทย์หรือ รพ.ใหญ่ตามเมืองต่างๆ แต่ด้วยการมองการณ์ไกล ความมุ่งมั่น ความริเริ่มของนพ.ประสิทธิชัย ผู้อำนวยการรพ.แก่งคอย ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ทีมงานของรพ.และสถานพยาบาลเครือข่ายก็ค่อยๆพัฒนาระบบสารสนเทศ ที่ดูเหมือนไกลเกินเอื้อมให้ปรากฎเป็นจริง และจะสืบสานต่อไป
การได้เห็นข้อมูลคนไข้ร่วมกันทำให้แพทย์ รพ.แก่งคอยรู้ว่า คนไข้ที่ส่งไปรักษาต่อที่สถานีอนามัยได้รับยาเหมาะสม เพียงใด ผลการรักษาเป็นเช่นไร ควรจะเพิ่มพูนความรู้อะไรเพิ่มเติมให้สถานีอนามัย พยาบาลที่สถานีอนามัยที่ส่งคนไข้มารพ.แก่งคอยก็ได้รับรู้ว่าแพทย์ให้การวินิจฉัยว่าอย่างไร รักษาอย่างไร ย่อมช่วยให้พยาบาลได้เรียนรู้ไปในตัว
ไม่เพียงในระดับอำเภอที่ใช้ข้อมูลคนไข้ร่วมกัน การส่งคนไข้ไปมาระหว่างรพ.แก่งคอยกับรพ.สระบุรีก็มองเห็นข้อมูลร่วมกัน จึงช่วยลดความซ้ำซ้อนในการหาข้อมูลที่ไม่จำเป็นจากคนไข้อีก ไม่ต้องตรวจเลือด หรือเอกซเรยซ้ำ ที่สำคัญคือ ในกรณีฉุกเฉิน พอคนไข้ส่งต่อจากรพ.แก่งคอยมาถึงรพ.สระบุรีก็สามารถดูแลต่อได้อย่างรวดเร็ว
นพ.ประสิทธิ์ชัย เล่าให้ฟังว่า ที่ห้องฉุกเฉินรพ.สระบุรี มีกล้องเวปแคมที่ซูมภาพได้ ทำให้หมอที่รพ.แก่งคอยสามารถมองเห็นการดูแลคนไข้ที่ส่งต่อไปได้ เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ร่วมกันอย่างน่าสนใจ ทำนองเดียวกัน พยาบาลที่สถานีอนามัยก็สามารถติดต่อปรึกษาคนไข้ผ่านกล้องเวปแคมกับแพทย์ที่รพ.แก่งคอยได้ตลอดเวลา นอกเหนือจากการคุยกันทางโทรศัพท์หรืออีเมล
ไม่เพียงประโยชน์โดยตรงด้านการดูแลรักษาพยาบาล ระบบสารสนเทศที่เชื่อมโยงถึงกันนี้ยังช่วยให้แต่ละหน่วยงานย่อยในรพ.แก่งคอย และแต่ละสถานีอนามัยสามารถสกัดความรู้จากระบบไปใช้ในการวางแผน การพัฒนางาน การระดมความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอก เช่น ที่สถานีอนามัยบ้านป่าได้นำผลการให้บริการไปใช้ประกอบการนำเสนอขอทุนจากผู้บริหารโรงงานปูนซิเมนต์ และจากอบต. เป็นต้น
เรื่องราวข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสาระที่ผมได้รับรู้จากการฟังบรรยายประกอบสไลด์ของทีมงานรพ.แก่งคอยและสถานีอนามัยบ้านป่า ซึ่งนับเป็นแบบอย่างที่น่าสนใจติดตามเรียนรู้เพื่อนำไปประยุกต์ในอำเภอและจังหวัดอื่น
เชื่อว่า การวิจัยอย่างเป็นระบบจะยิ่งทำให้เห็นและเข้าใจที่มา ที่ไปในรายละเอียดที่ลึกซึ้ง จนได้ความรู้ที่มีน้ำหนักทางวิชาการมากยิ่งขึ้น อันจะเกิดประโยชน์ในทางขยายผลให้กว้างต่อไป ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ที่รพ.ศรีสะเกษมีระบบบริการไร้รอยต่อมาตั้งแต่ปี2550 เชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยในระบบส่งต่อในฐานข้อมูลเดียวกันทั้งเครือข่ายและเชื่อมโยงกันทั้งจังหวัดศรีสะเกษด้วย