ในวรรณกรรมล้านนาบางตอน บางเรื่องเราอ่านแล้วมักจะพบกับคำว่า เบ็งจร อ่านว่า "เบ็ง-จ๋อน" คนรุ่นใหม่อาจไม่เข้าใจว่ามีความหมายนว่าอย่างไร?
เพื่อให้ได้ใจความเร็วขึ้น จะนำเอาตัวอย่างของคำไหว้มนต์แคล้วคลาดภัยที่อาจารย์ศรีเลา เกษพรหม ได้กรุณาเขียนไว้ในหนังสือนพีสีเชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2547 สรุปความได้ดังนี้
เมื่อ พ.ศ. 1981 พระเถระชื่อ ชัยมังคละ จังหวัดลำพูนไปแสวงบุญที่ประเทศลังกาได้คาถาชินบัญชรจำนวน 14 บทเมื่อกลับมาถึงลำพูนจึงได้นำพระคาถานี้ถวายแด่พญาติโลกราช กษัตริย์เมืองเชียงใหม่เพื่อสวดภาวนาให้แคล้วคลาดภัยทั้งปวงตามเนื้อหาสรุป ดังนี่ครับ..
" พระคาถาชินเบ็งจร เกิดขึ้นในประเทศลังกา ประวัติในใบลานกล่าวว่า พระราชาพระองค์หนึ่งมีพระโอรสกำเนิดใหม่ ทรงให้หมอโหรมาทำนายดวงชะตาโอรสน้อย หมอโหรทำนายว่าหากโอรสอายุได้ 7 ปี 7 เดือนจะถูกฟ้าผ่า พระราชาทรงตกพระทัยจึงทรงนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับพระสงฆ์ หมู่สงฆ์จึงแนะนำว่าควรแต่งพระคาถาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เมื่อตกลงกันแล้วพระสงฆ์จำนวน 14 รูปจึงประชุมและแบ่งหน้าที่กันประกอบพิธีแต่งพระคาถารูปละ 1 บท โดยให้พระสงฆ์แต่ละรูป ไปนั่งแต่งพระคาถาที่หน้าต่างปล่องเบ็งจร หรือบัญชรในภาษาไทยกลาง เมื่อแต่งเสร็จพระคาถานี้จึงได้ชื่อว่า ชัยเบ็งจร (อ่านว่า ไจ-ยะ-เบ็ง-จ๋อน ) หมายถึงความมีชัยชนะ ได้ 14 บท ตามจำนวนของพระสงฆ์ที่นั่งริมเบ็งจรหรือริมหน้าต่างเพื่อให้มีแสงสว่างในการเขียนพระคาถานั่นเอง เมื่อโอรสมีพระชนมายุครบ 7ปี 7 เดือน ฟ้าผาลงจริง แต่พลาดไปถูกหินก้อนใหญ่ทางตะวันตกเมืองลังกา พระโอรสปลอดภัย ผู้คนจึงนิยมนำพระคาถานี้มาสวดกันต่อๆมา แม้กระทั่งในเมืองไทยปัจจุบัน"
จากเนื้อหาที่สรุปเป็นเรื่องราวกล่าวมานั้น สรุปได้ว่า คำว่า "เบ็งจร" ในภาษาล้านนาโบราณ หมายถึง คำว่า "ปล่อง" (อ่านว่า ป่อง)ในภาษาเมืองล้านนาในปัจจุบัน และตรงกับคำว่า "หน้าต่าง " ในภาษาไทยกลางนั่นเอง
หมายเหตุ เนื้อหาในพระคาถาชัยเบ็งจร สรุปว่า ได้ขอบารมีอานุภาพของพระพุทธเจ้า อานุภาพของพระอรหันต์ทั้งหลายมาคุ้มครอง หุ้มหัวผู้สวดมนต์ ขอให้มีชัยชนะข้าศึกศัตรูทั้งปวง ขออานุภาพพระพุทธเจ้าและอรหันต์ทั้งหลายมากั้นบังภัย อานุภาพแห่งพระรัตนตรัยมารักษายังตนตัวของผู้สวดตลอดไป...
สรุปคำว่า เบ็งจร ปล่อง บัญชร หน้าต่าง คือความหมายเดียวกันครับ..
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน......พรหมมา
อันเดียวกับ ชินบัญชร แม่นก่อ
สวัสดีครับคุณวัฒนา..
แม่นแล้วครับ...
เพียงแต่ผู้ที่นำไปใช้และเผยแพร่คือสมเด็จท่านหนึ่งในภาคกลาง ผู้คนส่วนมากก็เลยเข้าใจว่าพระท่านนี้คือผู้ประพันธ์และเป็นเจ้าของพระคาถาชินบัญชรไปครับ...
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา
อ่อเจ้า ......ความฮู้ใหม่ ขอบคุณเจ้า
สวัสดีเจ้าอิน้องผัดเวิ้ง....
กว่าลุงจะมาแว่อ่านก็เลยไปถึง 2 ปีแล้ว....
ก็บ่เมินครับ....
ขอบคุณที่เข้ามาแว่อ่าน...ครับ....
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา