4. LAB
เป็นระบบสีที่ไม่ขึ้นกับอุปกรณ์ใด ๆ (Device Independent)
โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
"L"
หรือ Luminance เป็นการกำหนดความสว่าง ซึ่งมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100
ถ้ากำหนดที่ 0 จะกลายเป็นสีดำ แต่ถ้ากำหนดที่ 100 จะเป็นสีขาว
"A"
เป็นค่าของสีที่ไล่จากสีเขียวไปสีแดง
"B"
เป็นค่าของสีที่ไล่จากสีน้ำเงินไปเหลือง
2.1 ภาพกราฟิกแบบ Raster
ภาพกราฟิกแบบ Raster หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แบบ Bitmap
เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการเรียงตัวของจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หลากหลายสี
ที่เรียกว่า พิกเซล ในการสร้างภาพ
กราฟิกแบบ Raster
จะต้องกำหนดจำนวนพิกเซลให้กับภาพที่ต้องการสร้าง
ถ้ากำหนดจำนวนพิกเซลน้อย เมื่อขยายภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
จะทำให้มองเห็นภาพเป็นจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ
หรือถ้ากำหนดจำนวนพิกเซลมากก็จะทำให้แฟ้มภาพมีขนาดใหญ่
ดังนั้น การกำหนดจำนวนพิกเซลจึงควรกำหนดให้เหมาะสมกับงานที่จะสร้าง
เช่น งานที่มีความละเอียดน้อย หรือภาพสำหรับเว็บไซต์
ควรกำหนดจำนวนพิกเซล ประมาณ 72 ppi
(pixel / inch คือ จำนวนพิกเซลใน 1
ตารางนิ้ว) แต่ถ้าเป็นงานแบบพิมพ์ เช่น นิตยสาร ปกหนังสือ
โปสเตอร์ขนาดใหญ่ จะกำหนดประมาณ 300 - 350 ppi เป็นต้น
ข้อดีของภาพกราฟิกแบบ
Raster คือ สามารถปรับแต่งสี ตกแต่งภาพได้ง่ายและสวยงาม
ซึ่งโปรแกรมที่นิยมใช้สร้างภาพกราฟิกแบบ Raster คือ Photoshop, Paint
เป็นต้น
2.2 ภาพกราฟิกแบบ Vector
เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์
หรือการคำนวณ ซึ่งภาพจะมีความเป็นอิสระต่อกัน
โดยแยกชิ้นส่วนของภาพทั้งหมดออกเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง
รูปทรง
เมื่อมีการขยายภาพความละเอียดของภาพจะไม่ลดลง แฟ้มมีขนาดเล็กกว่าแบบ
Raster
ภาพกราฟิกแบบ
Vector นิยมใช้เพื่องานสถาปัตยกรรมตกแต่งภายใน และการออกแบบต่าง ๆ
เช่น การออกแบบรถยนต์ การออกแบบอาคาร การสร้างการ์ตูน เป็นต้น
ซึ่งโปรแกรมที่นิยมใช้สร้างภาพแบบ Vector คือ
โปรแกรม Illustrator, CorrelDraw, 3Ds Max แต่อุปกรณ์ที่ใช้แสดงผลภาพ
เช่น จอคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องพิมพ์
จะเป็นการแสดงผลภาพแบบ Raster
กราฟิกไฟล์สำหรับอินเทอร์เน็ต
ไฟล์กราฟิกที่สนับสนุนระบบอินเทอร์เน็ต
ปัจจุบันมี 3 ไฟล์หลัก ๆ คือ
1.
ไฟล์สกุล GIF ( Graphics Interlace File)
2.
ไฟล์สกุล JPG ( Joint Photographer's Experts Group)
3.
ไฟล์สกุล PNG ( Portable Network Graphics)
|
|
1. ไฟล์สกุล GIF (Graphics Interlace File)
เป็นไฟล์กราฟิกมาตรฐานที่ทำงานบนอินเทอร์เน็ต
มักจะใช้เมื่อ
-
ต้องการไฟล์ที่มีขนาดเล็ก
-
จำนวนสีและความละเอียดของภาพไม่สูงมากนัก
-
ต้องการพื้นแบบโปร่งใส
-
ต้องการแสดงผลแบบโครงร่างก่อน แล้วค่อยแสดงผลแบบละเอียด
-
ต้องการนำเสนอภาพแบบภาพเคลื่อนไหว
จุดเด่น
-
มีขนาดไฟล์ต่ำ
- สามารถทำพื้นของภาพให้เป็นพื้นแบบโปร่งใสได้ (
Transparent)
- มีระบบแสดงผลแบบหยาบและค่อยๆ
ขยายไปสู่ละเอียดในระบบ Interlace
- มีโปรแกรมสนับการสร้างจำนวนมาก
- เรียกดูได้กับ
Graphics Browser ทุกตัว
- ความสามารถด้านการนำเสนอแบบภาพเคลื่อนไหว ( Gif
Animation)
จุดด้อย
- แสดงสีได้เพียง 256 สี
|
|
|
2. ไฟล์สกุล JPG (Joint Photographer’s Experts Group)
เป็นอีกไฟล์หนึ่งที่นิยมใช้บน Internet
มักใช้กรณี
1.
ภาพที่ต้องการนำเสนอมีความละเอียดสูง และใช้สีจำนวนมาก (สนับสนุนถึง
24 bit color)
2.
ต้องการบีบไฟล์ตามความต้องการของผู้ใช้
3.
ไฟล์ชนิดนี้มักจะใช้กับภาพถ่ายที่นำมาสแกน
และต้องการนำไปใช้บนอินเทอร์เน็ต
เพราะให้ความคมชัดและความละเอียดของภาพสูง
จุดเด่น
-
สนับสนุนสีได้ถึง 24 bit
-
สามารถกำหนดค่าการบีบไฟล์ได้ตามที่ต้องการ
-
มีระบบแสดงผลแบบหยาบและค่อยๆ ขยายไปสู่ละเอียดในระบบ Progressive
-
มีโปรแกรมสนับสนุนการสร้างจำนวนมาก
-
เรียกดูได้กับ Graphics Browser ทุกตัว
-
ตั้งค่าการบีบไฟล์ได้ ( compress files)
จุดด้อย
-
ทำให้พื้นของรูปโปร่งใสไม่ได้
ข้อเสียของการบีบไฟล์ ( Compress File)
กำหนดค่าการบีบไฟล์ไว้สูง ( 1 - 10)
แม้ว่าจะช่วยให้ขนาดของไฟล์มีขนาดต่ำ แต่ก็มีข้อเสีย คือ
เมื่อมีการส่งภาพจาก Server ไปแสดงผลที่
Client จะทำให้การแสดงผลช้ามาก เพราะต้องเสียเวลาในการคลายไฟล์
ดังนั้นการเลือกค่าการบีบไฟล์
ควรกำหนดให้เหมาะสมกับภาพแต่ละภาพ
|
ตัวอย่างภาพที่มีนามสกุล .jpeg
|
|
3. ไฟล์สกุล PNG (Portable Network Graphics)
จุดเด่น
- สนับสนุนสีได้ถึงตามค่า True color (16 bit, 32 bit หรือ 64
bit)
- สามารถกำหนดค่าการบีบไฟล์ได้ตามที่ต้องการ
- มีระบบแสดงผลแบบหยาบและค่อยๆ ขยายไปสู่ละเอียด (
Interlace)
- สามารถทำพื้นโปร่งใสได้
จุดด้อย
- หากกำหนดค่าการบีบไฟล์ไว้สูง
จะใช้เวลาในการคลายไฟล์สูงตามไปด้วย แต่ขนาดของไฟล์จะมีขนาดต่ำ
- ไม่สนับสนุนกับ Graphic Browser รุ่นเก่า สนับสนุนเฉพาะ IE 4
และ Netscape 4
- ความละเอียดของภาพและจำนวนสีขึ้นอยู่กับ Video Card
- โปรแกรมสนับสนุนในการสร้างมีน้อย
|
|
|
|
|
|
|