เป็นการอธิบายธรรมที่ยอดเยี่ยมและลึกซึ้งแบบ Postmodern มากครับ
ว่าไปแล้วสมบัติ ๔ ก็เหมือนกับว่าให้เรารู้จักใช้ปัญญา มีกุศโลบายในการดำเนินชีวิต แล้วเข้าใจชีวิต
ไม่งั้นการกระทำก็เป็นแบบทื่อๆ ตรงๆ แข็งๆ ไม่เข้ากับสังคมเหตุการณ์ รู้แต่ไม่ทั่วไม่รอบ
แล้วพอเป็นอย่างนี้ เรามาไม่ถูกจังหวะ เราจึงชี้โบ้ชี้เบ้โทษไปเรื่อยเลย
ก็ทำแล้ว แต่ไม่ดี... อะไรแบบนี้ใช่มั้ยคะ
อย่างเช่น อ่านหนังสือได้เกรดบี ก็เราเป็นนักศึกษาที่ยึดกรอบความคิดของตน เพียงการอ่านหนังสือชีวิตการเรียนรู้ยังมีอีกมาก และเรียนไปเพื่ออะไร เกรดนั้นจึงได้มาบนพื้นฐานความรู้ไม่รอบตอบได้แต่ตำรา (พูดเฉพาะครูที่ดีให้เกรดแบบไม่มีอคตินะคะ) เมื่อนั้นเรามองแต่ตำราครูก็เลยว่า ไอ้นี่ขาดๆเกินๆ ยังไม่พร้อม
ส่วนเทศบาลขยันขันแข็ง กวาดถนนหนทาง เธอมักเป็นคนที่ดีเสมอ แต่ไม่ทันที่จะได้คิด ทำสิ่งตรงหน้า สมมติว่าเจ้านายมีเรื่องที่เขาให้ความสำคัญมากกว่า เช่น ขณะนี้ปัญหาของเทศบาลอยู่ที่การรณรงค์รักษาแหล่งน้ำ เมื่อเธอดูๆอยู่แต่ถนน ถ้ามีสองคนทำเหมือนกัน แต่ว่าอีกคนไปทำงานเข้ากับแคมเปน เข้าก็ได้ไปตรงใจกรรมการ ดังนั้นการกระทำของเธอเจ้านายเห็น แต่มีรางวัลเดียว จึงต้องรอไว้ก่อน
กรณีสุดท้ายสมมติว่าเราเป็นพวกชอบมองไปที่แต่คนอื่น แน่นอนว่าการทำงานของเราดีตามหน้าที่ แต่เราเห็นอีกคนหนึ่ง อยู่กับเจ้านายตลอดเวลา แน่นอนว่ามีหลายกรณีที่เป็นไปได้ งานที่เราไม่รู้ว่าเขาทำอะไร จึงมองว่าเขาประจบ เข้าหาผู้ใหญ่ แล้วที่สำคัญ ทำไมเราไปเข้าหาด้วยเล่า ไม่มีการประจบ แต่หากว่า ถ้าเจ้านายคนนั้นมีลูกน้องเยอะแยะ งานก็มาก คนทำงานเยอะ การทำงานของเราก็เป็นส่วนหนึ่งเราคิดว่าเราดีเราเจ๋ง แต่ก็เป็นการกระทำในส่วนน้อยๆ ของงานภาพรวมใหญ่นั้น คิดไม่รอบ...
เราไม่รู้ว่าเราเข็มขัดสั้น(มีเรื่องคาดไม่ถึงและเราเองก็ไม่รู้อีกสิเนี่ย) เราเลยทุกข์ พอทุกข์ก็ต้องหาทางระบาย อย่างน้อยสุดเลยทำให้กรรม มีความหมายอันน่าเป็นห่วงอย่างที่เป็นอยู่หรือปล่าวนะ ก็มันไม่ได้ดั่งใจ เลยโทษผลของกรรมซะเลย... ฮ่าๆๆๆ
กราบนมัสการค่ะ
ถึงคุณ BuddhaLogos ขอชมว่าเป็นคนที่มีความคิดเชิงวิเคราะห์ดี เรื่องกฎแห่งกรรมมีความสลับซับซ้อนมาก การที่คนทำดีแล้วรู้สึกว่าไม่ได้ดีอาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น
๑. กรรมที่ทำ กับ ผลที่อยากได้ไม่สัมพันธ์กัน กรณีนี้กรรมอาจให้ผลเรียบร้อยแต่ผู้ทำคิดว่าตัวเองไม่ได้ เพราะสิ่งที่ตนอยากได้ไม่สัมพันธ์กับกรรมที่ทำ เช่น คนทำบุญเพราะอยากถูกรางวัลที่หนึ่ง พอไม่ถูกหวยก็คิดว่าทำดีแล้วไม่ได้ดี กรณีนี้คือเขาได้บุญเรียบแล้ว แต่คิดว่าตนไม่ได้ดี (ถูกหวย) เพราะความสับสนระหว่างกรรม กับ ผลของกรรม
๒. สร้างเหตุปัจจัยที่จะให้เกิดผลดีไม่ครบถ้วน เช่น อยากบรรลุนิพพานแต่รักษาศีลอย่างเดียว ถึงจะเคร่งครัดในศีลอย่างไรก็บรรลุไม่ได้ เพราะการรักษาศีลอย่างเดียวยังไม่เพียงพอต่อการบรรลุนิพพาน ต้องเจริญสมาธิ และพัฒนาปัญญาควบคู่กันไปด้วย
๓. ทำเหตุปัจจัยครบแต่ทำไม่ถึงที่สุด เช่น คนที่รักษาศีล เจริญสมาธิ และพัฒนาปัญญา ครบทุกอย่าง แต่ยังทำไม่ถึงที่สุด ทำครึ่งๆ กลางๆ หรือทำแล้วหยุดกลางครัน เป็นต้น
๔. ทำเหตุปัจจัยครบแล้วและพยายามถึงที่สุดแล้ว แต่มีเหตุปัจจัยแทรกซ้อน เช่น คนปลูกพืชถูกต้องตามหลักวิชาการทุกอย่าง ขยันหมั่นเพียร เอาใจใส่ดูแล้วอย่างดี แต่พอพืชกำลังจะออกผล กลับมีพายุฝนพัดเข้ามาพอดี ทำให้น้ำท่วมพืชตายเสียหายหมด อย่างนี้เรียกว่าเหตุสุดวิสัย
อาจารย์มหาสี สยาดอว์ ปราชญ์ใหญ่ทางพระพุทธศาสนา ชาวพม่า ได้อธิบายเรื่องกรรมไว้อย่างสนใจว่า "ตามหลักพระพุทธศาสนา คนเราเกิดมาไม่เท่ากัน ไม่ใช่เพียงเพราะพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม หรือธรรมชาติและการเลี้ยงดู (nature and nurture) หากมาจากกรรมด้วย นั่นก็คือกรรมในอดีตและกรรมปัจจุบันของเรานั่นเอง เราเองเป็นผู้รับผิดชอบต่อความสุขและความทุกข์ของเรา เราสร้างสวรรค์และสร้างนรกของตัวเอง เราเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบชตาชีวิตของเราเอง"
According to Buddhism, this inequality is due not only to heredity, environment, "nature and nurture", but also to Karma. In other words, it is the result of our own past actions and our own present doings. We ourselves are responsible for our own happiness and misery. We create our own Heaven. We create our own Hell. We are the architects of our own fate.
กราบนมัสการค่ะ
มาฝึกใช้สมองซีกซ้ายให้คิดตาม เป็นการวิเคาะห์ที่สมเหตุสมผลมากค่ะ หากวันหนึ่งตื่นขึ้นมาเจอต้นส้มในกระถางออกผลเป็นลูกฝรั่งเมื่อไหร่ จะรีบแจ้นไปขอเจ้านายเลื่อนตำแหน่งค่ะ แต่หากวันไหนตื่นขึ้นมาทุกอย่างยังเหมือนเดิม ต้นส้มยังไม่ออกลูก ก็จะออกไปทำงานเพื่อความหมายและความสุขที่ได้จากงานและเพื่อนร่วมงาน ขอบพระคุณค่ะ..
P.S. ลูกหมาน่ารักมากค่ะ
นมัสการเจ้าค่ะ
ขวัญอยากรู้ชื่อของบุคคล จริต ต่าง ๆ ค่ะ เช่น พระสารีบุตรมีสัทธิวิหาริกเป็นคนราคะ องค์คุลีมารเป็นคนโทสะแต่ขวัญไม่รู้ว่าเอามาจาไหนพระอาจารย์กรุณาตอบขวัญทั้ง ๖ จริตนะเจ้าคะ
ที่พระอาจารย์ฬห้อ่าน พรรณณา ของพระอาจารย์ด้าน ซ้ายมือ มีประโยชน์มากค่ะ โดยเฉาะการกำหนดอารมณ์ไม่ทันก็จะขาดเหตผล
นมัสการขอบพระคุณ
khwan
มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับพระคุณเจ้า
กราบนมัสการพระคุณเจ้าค่ะ
เจริญพร โยมปริม ทัดบุปผา และทุกคนที่เข้ามาทักทาย อาตมาหายไปนาน เนื่องจากมีช่วงหนึ่งเดินทางไปต่างประเทศ ก็เลยทั้งช่วงไปนานเลย
พระมหาสมบูรณ์
นมัสการเจ้าค่ะ
มานมัสการเนื่องในวันมาฆะบูชา
นมัสการลา