คุณค่าในการส่งเสริมสุขภาพตามแนวจิตวิถี
(Spiritual Approach)
ผู้เขียนได้เข้าร่วมประชุมการสรุปผลการดำเนินงานโครงการคุณค่าในการส่งเสริมสุขภาพตามแนวจิตวิถี โดยกองออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และได้รับแจกเอกสารฉบับนี้ ทำให้มีความรู้สึกว่าน่าจะเผยแพร่ให้เพื่อน ๆ ได้รับรู้ เพื่อเป็นแนวคิดในการปฏิบัติต่อไป ซึ่งต้องขอขอบคุณ คุณรุ่งรัศมี ศรีวงศ์พันธ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการจาก ศูนย์พัฒนาอนามัยพื้นที่สูง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่ได้สรุปบทเรียนดี ๆ มาเผยแพร่
การเรียนรู้การทำงานของจิตใจ
แนวคิดสำคัญจากการเรียนรู้ : วิทยากรได้กล่าวถึงสุขภาวะได้น่าสนใจ คือ สุขภาวะทางกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ ประเด็นสุดท้ายนี้ ต้องใช้สัมมาทิฐิในการมองมิติทางจิตวิญญาณ (Spiritual) ซึ่งเป็นการเดินทางกลับสู่ภายใน เพื่อส่งออกภายนอก คุณค่าของตัวเองอยู่ที่ “ ความสงบภายในของจิตใจ” สภาวะจิตอันเดิมแท้ของเรา คือ การกลับสู่ตัวตนที่แท้จริงของตัวเรา (peace of mind by yourself) เราไม่จัดการกับภายนอก เราจัดการกับตัวเองก่อน เราไม่เปลี่ยนโลก แต่เราจะเปลี่ยนภายในตัวเอง “ การจัดการจิตใจ ” ต้องฝึกฝน
“ การตระหนักรู้ในตัวเอง ” กำหนดพฤติกรรมและชีวิตของผู้คน การจัดการกับสภาพจิตใจของตนเอง เป็นความรับผิดชอบของเราในการเข้าใจกลไกทางจิตของตนเอง โดยเฉพาะประเด็นของ “ จิตใต้สำนึก ” เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ และสะสมประสบการณ์มาตั้งแต่วัยเด็ก มีคำกล่าวว่า “ จิตสำนึก สร้างความคิด ความคิด มาจากจิตใต้สำนึก ” การจัดการกับอารมณ์ ต้องมาจากการสร้างความคิด คือ การตั้งคำถามกับตัวเองให้ถูกต้อง คือ การสร้างรูปแบบความคิดให้กับตนเอง เช่น สร้างความคิดเชิงบวก / จินตนาการเห็นภาพ / เห็นภาพ และรู้สึกด้วย หากความรู้สึกยาวนานพอ จะสร้างอารมณ์และก่อให้เกิดการกระทำ สรุปในประเด็นนี้คือ คำสั่ง “ ห้าม หรือ อย่า ” จะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ต้องสั่งให้เป็นภาพ ป้อนข้อมูลที่พึงปรารถนาในจิตใจ นั่นคือต้องคิด + รู้สึก จึงจะเปลี่ยนแปลง (Thinking + feeling = changing)
วิธีคิดที่ดี จะสร้างประสบการณ์ และการกระทำที่ดีเกิดขึ้น นั่นคือต้องมีการเตรียมการ ขณะที่ยังไม่เกิดอะไรขึ้น ต้องฝึกฝนจิตใจในรูปแบบต่าง ๆ เช่น mediation เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดี การควบคุมคุณภาพของความคิดขึ้นอยู่กับจิตใจ จิตใต้สำนึก และสติปัญญา วิทยากรยกตัวอย่าง “ การคิดก่อนพูด ” หากความคิดที่หนึ่งเกิดขึ้นแล้ว ในจิตใจของเรา พอไตร่ตรองแล้ว ความคิดที่หนึ่งจะไม่เกิดเป็นการกระทำ เป็นการพูด ที่เป็นโทษหรือมีประโยชน์ ต้องใช้ inner voice (เสียงแห่งคุณธรรมภายใน) ของตนเองจัดการ หากจะเปลี่ยนแปลงความคิด ต้องสร้างรูปแบบความคิด (ทางบวก) และมีอำนาจเหนือกว่า ด้วยอำนาจแห่งสติปัญญา (สติปัญญา เป็นตัวควบคุมจิตใจ) วิทยากรเปรียบเทียบจิตใจเสมือนห้องมืด ต้องใช้แสงสว่างแห่งสติปัญญาในการเปิดจิตใจให้สว่าง
วิธีการง่าย ๆ ในการจัดการความคิด คือ “ การสร้างความคิดที่ดี ” เข้าไปแทนที่ หากไม่เกิด กลับไปดูที่ “ จิตใต้สำนึก ” การทำซ้ำ จะสร้างนิสัยจากการเติบโต จนมีอิทธิพลต่อจิตใจและการกระทำ
ด้วยความปรารถนาดี
มันทนา ศิลปเวชกุล
ก.ค. 53
ขอบคุณคะพี่ ที่สำคัญ ถ้ารู้แล้วไม่ฝึกปฏิบัติ ก็จะทุกข์กับสิ่งที่ตนเองคิดเองเออเองในทางลบ น่าสงสารคนที่ไม่พัฒนานะคะ