สำหรับเครื่องพิมพ์สกรีนเสื้อดิจิตอล DTG ที่จำหน่ายอยู่หลากหลายแบรนด์ในท้องตลาดทั้งที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีด้านฮารด์แวร์เองและนำเทคโนโลยีหัวพิมพ์มาประยุกต์ดัดแปลงเครื่องพิมพ์ของตนเองโดยรวมแล้วมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 10 แบรนด์ เช่น Brothers , Mimaki ,Kornit , Anajet, Fast T-Jet, Dream-Jet,Veloci-Jet ซึ่งนอกเหนือจากปัจจัยทางด้านฮารด์แวร์แล้ว ในเรื่องของหมึกพิมพ์ และ ซอฟต์แวร์ก็ถือเป็นส่วนสำคัญเทียบเท่ากัน หากเปรียบฮารด์แวร์เป็นเครื่องจักร หมึกพิมพ์คือวัตถุดิบที่ป้อนให้กับเครื่องจักร โดยมีซอฟต์แวร์ช่วยควบคุมเป็นแบล็คกราวน์โพสเซสให้น้ำหมึกถูกฉีดในปริมาณที่เหมาะสมอิงหลักการของการสกรีนเสื้อแบบซิลค์สกรีน(โดยเฉพาะการสกรีนเสื้อลงบนเนื้อผ้าสีเข้ม ที่ต้องมีการรองพื้นด้วยหมึกสีขาว ) หากหมึกพิมพ์มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ผลลัพธ์หรือเอ้าพุทที่ได้ก็ด้อยคุณภาพ กล่าวคือ สีที่พิมพ์ลงบนผ้าเพี้ยนไปจากต้นฉบับ หรือ ซีดกว่าต้นฉบับ การยึดเกาะบนเส้นใยผ้าไม่คงทน เมื่อนำไปซักล้างจะซีดจางหรือหลุดลอก และหมึกพิมพ์ที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมหรือไม่สนับสนุนกลไกของหัวพิมพ์อาจส่งผลเสียต่อหัวพิมพ์ คือเกิดการอุดตันไม่สามารถใช้งานได้ สำหรับซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับเครื่องสกรีนเสื้อ DTG การสกรีนลงบนเสื้อสีอ่อนอาจไม่มีความจำเป็นมากนัก แต่สำหรับการสกรีนเสื้อสีเข้ม RIP software (Raster image processing) เป็นสิ่งที่ผู้ผลิตให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหมึกพิมพ์ เนื่องจากกระบวนการสกรีนเสื้อสีเข้มจำเป็นต้องมีการพิมพ์หมึกสีขาวรองพื้นเพื่อช่วยให้หมึกพิมพ์ไม่ถูกสีผ้าดูดกลืนจนเกิดการซีดจางจนมองแทบไม่เห็น เมื่อมีกระบวนการพิมพ์สีขาวรองพื้นเข้ามาเกี่ยวข้อง ทางผู้ผลิตจึงต้องคิดค้นโปรแกรมที่จะนำมาควบคุมการฉีดหมึกขาว สำหรับหัวพิมพ์ที่แยกขึ้นมาต่างหากจากชุดหัวพิมพ์หมึกปกติอีกหนึ่งชุด และสำหรับจุดเด่นของซอฟแวรต์ในงานพิมพ์บนเนื้อผ้าสีเข้มยังมีเป็นส่วนช่วยในการเตรียมอาร์ตเวิคร์(แยกเลเยอร์ รองพื้น) ก่อนพิมพ์ เพื่อลดขึ้นตอนที่ซับซ้อนในการทำงานบนโปรแกรมออกแบบกราฟิก
ดังที่กล่าวถึงความสำคัญของหมึกพิมพ์และ RIP ซอฟต์แวร์ข้างต้น
ผู้ผลิตที่อยู่ในวงการพิมพ์สกรีน เช่นผู้จัดจำหน่าย หมึกพิมพ์
อุปกรณ์พิมพ์สกรีนได้มองเห็นช่องทางการเติบโตในอนาคตของเครื่องพิมพ์
จึงได้มีผู้ผลิตหมึกพิมพ์รวมถึง RIP Software
เพื่อป้อนให้กับผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ที่ขาดโนฮาวทางด้านหมึกพิมพ์และซอฟต์แวร์
ซึ่งมีอยู่หลากหลายแบรนด์ในท้องตลาด
มุมมองเปรียบเทียบระหว่างการสกรีนเสื้อด้วยเครื่องพิมพ์สกรีนดิจิตอล
กับการสกรีนด้วยวิธีดั้งเดิมแบบซิลค์สกรีน
ในอนาคตอันใกล้ผู้เขียนคาดว่าเมื่อเทคโนโลยีด้านการสกรีนเสื้อดิจิตอลถูกพัฒนาต่อยอดไปถึงจุดที่
หมึกพิมพ์ ซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์
มีคุณภาพที่ยอมรับได้ในช่วงราคาต่ำกว่า 200,000 บาท
ซึ่งปกติเครื่องพิมพ์แบรนด์ยุโรป
หรืออเมริกาที่ให้คุณภาพงานพิมพ์ที่ดี กล่าวคือ
สีที่ถูกพิมพ์ลงบนเนื้อผ้ามีความสดใกล้เคียงต้นฉบับ
ความคงทนของหมึกบนเส้นใยผ้าเมื่อนำไปซักล้างไม่ซีดจาง
เทคโนโลยีหัวพิมพ์ที่ออกแบบมามีความเข้ากันได้เพื่อช่วยลดการอุดตันของหัวพิมพ์
ซึ่งมีส่วนช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านอะไหล่และการค่าบำรุงรักษา
ในคุณสมบัติที่กล่าวมาราคาจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 700,00-2,000,000
บาท
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มีความใกล้เคียงงานพิมพ์ซิลค์สกรีนประเภทสีจมกล่าวคือเนื้อสีซึมลงสู่เส้นใยของเนื้อผ้าให้ผิวสัมผัสที่เป็นเนื้อเดียวกับผ้า
แม้ว่าในเรื่องความคมชัดและความสดยังไม่สามารถเทียบได้กับงานซิลค์สกรีน
ความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะได้เห็นคือร้านรับสกรีนเสื้อประเภท Heat Transfer ที่รับพิมพ์ภาพถ่ายจะค่อยถูกแทนที่ด้วยเครื่องพิมพ์ดิจิตอล DTG ที่สามารถรับออเดอร์จำนวนน้อยไม่จำกัดสีในงานพิมพ์ และพิมพ์เสร็จในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งเป็นจุดเด่นของงานสกรีนแบบดิจิตอล สำหรับการเข้ามากินตลาดของเครื่องสกรีนเสื้อ DTG ในงานซิลค์สกรีนผู้เขียนยังเชื่อว่า ด้านคุณภาพของงานซิลค์สกรีนทั้งในด้านความคมชัด ผิวสัมผัสที่สามารถควบคุมด้วยเทคนิคในการสกรีนแบบต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผิวสัมผัสเป็นเนื้อเดียวกับผ้า เป็นเนื้อยาง ผิวนูนหนา และเอฟเฟ็คอื่นๆ (ขึ้นกับเทคนิคการสกรีน) และสิ่งที่สำคัญคือการผลิตในปริมาณมากที่มีค่าใช้จ่ายคือค่าแรงงานในการสกรีนต่อตัวที่ต่ำมาก(ต่ำกว่า 10 บาท) ทำให้ผู้เขียนมองว่าตลาดการสกรีนเสื้อแบบซิลค์สกรีนจะยังคงอยู่คู่กับอุตสหกรรมการสกรีนเสื้อต่อไปอีกยาวนาน
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับ การสกรีนเสื้อ DTG (บางส่วน) จากเว็บไซต์ www.pandascreen.com
ไม่มีความเห็น