ความจริงและการค้นพบความจริง
การวิจัย หมายถึง “การค้นหาความรู้ความจริงด้วยวิธีการที่เป็นระบบ มีเหตุมีผลเชื่อถือได้”
อะไรคือความจริง
เป็นคำถามเชิงปรัชญาที่ว่า อภิปรัชญา (Metaphysics) หรือภวัตวิทยา (Ontology) คำตอบของนักปรัชญาก็แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มพหุนิยม (Pluralism) เชื่อว่าความจริงสรรพสิ่งมีมากกว่าสองกลุ่ม ความจริงคือ ธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ
กลุ่มแรก นักปรัชญานำคำว่า จิตและกาย มาใช้อธิบายความจริงเกี่ยวกับมนุษย์ คือ
พวกหนึ่งเชื่อว่า......ความจริงของมนุษย์คือจิต จิตจะอยู่นิรันดร์ กายมาใช่ความจริงกายเน่าสลายไปได้
อีกพวกหนึ่งเชื่อว่า......ความจริงของมนุษย์คือกาย ร่างกายที่มองเห็นสัมผัสจับต้องได้ จิตไม่ใช่ความจริงเพราะจับต้องไม่ได้ (เอกนิยม (Monism) แบบจิตนิยม (Idealism) )
เมื่อกล่าวถึงความจริงของสรรพสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ ความจริงของสรรพสิ่งนั้นคือ “แบบ” ที่ว่านี้ก็มีลักษณะเดียวกับจิต คือ ไม่สูญหาย มีอยู่นิจนิรันดร์
เช่น เราเห็นสุนัขว่าเป็นสุนัข พวกนี้บอกว่าสุนัขที่เราเห็นว่าไม่ใช่ความจริง แต่ความจริงก็คือ “แบบความเป็นสุนัข” แม้ว่าสุนัขที่เราเห็นจะตายไปแต่ “แบบความเป็นสุนัข” จะคงอยู่ และเมื่อสรรพสิ่งมาสวมเข้ากับแบบความเป็นสุนัข เราก็จะมองเห็นสุนัขได้
อีกพวกหนึ่งจะบอกว่าความจริงของสรรพสิ่งคือสสาร หรือคุณสมบัติความเป็นสสารอยู่นั้นเอง สุนัขที่ตายแล้วแม้ว่าตายไปแล้วจะเน่าเปื่อยก็ยังมีคุณสมบัติของสสาร (เอกนิยม (Monism) สสารนิยม (Materialism))
แต่กลุ่มที่สองบอกว่า ความจริงของมนุษย์ คือ ทั้งกายและจิต ทั้งสองส่วนต่างพึงพาและอาศัยกัน กายเป็นที่อยู่ของจิต ถ้าไม่มีจิต กายก็ไม่เคลื่อนไหว นั่นคือ จิตบังคับกาย กลับกันหากกายเสื่อมสลายจิตก็ดับสูญไปด้วย
ความจริงของสรรพสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ ก็จะบอกว่าความจริงของสรรพสิ่งประกอบด้วยสองส่วน คือ สสารและแบบ (หรือพลังงาน) ทั้งสองส่วนมีความสัมพันธ์พึงพาอาศัยกัน เช่นเดียวกับ กายและจิตนั้นเอง กล่าวคือ ความเป็นจริงของสรรพสิ่งเป็นทั้งพลังงานและสสาร เช่น ก้อนหินเป็นสสารแต่ในก้อนหินก็มีพลังงานอยู่ด้วย หรือน้ำมีสถานภาพเป็นสสารแต่ก็มีพลังงานอยู่ด้วยเช่นกัน การอธิบายแบบนี้เรียก พวกทวินิยม (Dualism)
กลุ่มที่สาม บอกว่าความจริงของมนุษย์มีมากกว่าจิตและกาย เช่น ความจริงของมนุษย์ประกอบด้วยธาตุทั้ง 4 หรือประกอบด้วยขันธ์ห้า ในทำนองเดียวกันก็บอกว่า ความจริงของสรรพสิ่งมิใช่เป็นเพียงสสารและพลังงานเท่านั้น เช่น ก้อนหินมิใช่เป็นเพียงสสารและพลังงาน หากแต่ยังมีแง่มุมอื่นๆ ที่มีคุณลักษณะเฉพาะตัวของหิน ซึ่งสิ่งอื่นไม่มี อาทิ ความแข็งแรง ความอดทน ความงาม พวกนี้เรียกว่า พวกพหุนิยม (Pluralism)
สรุป
คำถามที่ว่าอะไรคือความจริง ตอบได้หลายแง่มุมขึ้นอยู่กับความเชื่อ หรือสำนักคิด (School of thought) ของนักปรัชญา ด้วยเหตุนี้คำตอบว่าอะไรคือความจริงก็คือ “ความจริงคือสิ่งที่เชื่อว่าจริง”
ไม่มีความเห็น