ขั้นตอนการจัดเตรียมคำขอรับสิทธิบัตร
ก่อนที่ท่านจะกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มแสดงความจำนงขอให้จดทะเบียนสิทธิบัตร (Invention Disclosure Form) ขอให้ท่านดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 สืบค้นข้อมูลสิทธิบัตรจากเว็บไซต์ ดังต่อไปนี้
1. www.ipthailand.org ประเทศไทย
2. www.uspto.gov สหรัฐอเมริกา
3. www.jpo.go.jp ญี่ปุ่น
4. http://ep.espacenet.com ยุโรป
เพื่อเป็นการตรวจค้นข้อมูลของงานที่ปรากฏอยู่แล้วที่เหมือนหรือคล้ายกับงานของท่าน สำหรับใช้ประกอบในการจดทะเบียนสิทธิบัตร
ขั้นตอนที่ 2 จัดเตรียมคำขอรับสิทธิบัตร ซึ่งประกอบด้วยหัวข้อต่างๆ ดังนี้
(1) ชื่อที่แสดงถึงการประดิษฐ์ จะต้องระบุว่าการประดิษฐ์นั้นคืออะไร โดยระบุถึงลักษณะสำคัญของการประดิษฐ์นั้นด้วย เช่น รถยนต์ไฟฟ้า เก้าอี้ไฟฟ้า เป็นต้น จะต้องไม่ใช้ชื่อที่ตั้งขึ้นเองหรือเครื่องหมายการค้า เช่น รถยนต์ไฟฟ้าสมภพ และจะต้องไม่ใช้ชื่อที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณ เช่น รถยนต์ไฟฟ้าวิเศษ
(2) ลักษณะและความมุ่งหมายของการประดิษฐ์ จะต้องระบุถึงลักษณะที่สำคัญของการประดิษฐ์โดยย่อ รวมทั้งวัตถุประสงค์ของการประดิษฐ์ดังกล่าว
(3) สาขาวิทยาการที่เกี่ยวข้องกับการประดิษฐ์ จะต้องระบุว่าการประดิษฐ์ที่ขอรับ สิทธิบัตรจัดอยู่ในสาขาวิชาการหรือเทคโนโลยีด้านใด เช่น วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมไฟฟ้า เคมี ฟิสิกส์ เป็นต้น
(4) ภูมิหลังของศิลปะหรือวิทยาการที่เกี่ยวข้อง จะต้องระบุลักษณะของการประดิษฐ์ที่มีอยู่ก่อนแล้ว พร้อมทั้งข้อบกพร่องต่างๆ หรือปัญหาของการประดิษฐ์ดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าการประดิษฐ์ที่ขอรับสิทธิบัตรนั้นแตกต่างกับการประดิษฐ์ที่มีอยู่ก่อนแล้วอย่างไรและเพียงใด
(5) คำอธิบายรูปเขียนโดยย่อ (ในกรณีที่การประดิษฐ์ที่ยื่นขอรับสิทธิบัตรมีรูปเขียน) ให้อธิบายว่ารูปเขียนแต่ละรูปนั้นแสดงให้เห็นถึงส่วนใดของการประดิษฐ์ ทั้งนี้ไม่ใช่เป็นการอธิบายว่ารูปเขียนนั้นมีส่วนประกอบหรือมีรายละเอียดและการใช้งานอย่างไร เช่น รูปที่ 1 แสดงถึงส่วนประกอบทั้งหมดของเครื่องจักร รูปที่ 2 แสดงถึงส่วนประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งของเครื่องจักร เป็นต้น
(6) การเปิดเผยการประดิษฐ์โดยสมบูรณ์ จะต้องระบุรายละเอียดของการประดิษฐ์ ที่ขอรับสิทธิบัตรว่ามีลักษณะโครงสร้าง ส่วนประกอบ องค์ประกอบ หรือขั้นตอนอย่างไรบ้าง การบรรยายในหัวข้อนี้จะต้องละเอียดสมบูรณ์ และชัดเจนพอที่จะทำให้ผู้มีความชำนาญในระดับสามัญในสาขา วิทยาการนั้นๆ สามารถอ่านแล้วเข้าใจการประดิษฐ์นั้นได้ และสามารถนำไปใช้และปฏิบัติตามการประดิษฐ์นั้นได้ด้วย
(7) วิธีการในการประดิษฐ์ที่ดีที่สุด ในกรณีที่มีการระบุในหัวข้อการเปิดเผย การประดิษฐ์โดยสมบูรณ์ ถึงวิธีการประดิษฐ์หลายวิธี ผู้ขอจะต้องระบุถึงวิธีการประดิษฐ์ที่ดีที่สุด แต่ถ้ามีการเปิดเผยวิธีการประดิษฐ์เพียงวิธีเดียวในหัวข้อการเปิดเผยการประดิษฐ์โดยสมบูรณ์ ผู้ขอก็สามารถระบุว่า "วิธีการในการประดิษฐ์ที่ดีที่สุด ได้แก่ วิธีการดังที่ได้บรรยายไว้ในหัวข้อการเปิดเผย การประดิษฐ์โดยสมบูรณ์"
(8) การใช้ประโยชน์ของการประดิษฐ์ในการผลิตทางอุตสาหกรรม หัตถกรรม เกษตรกรรมหรือพาณิชยกรรม ในกรณีที่ลักษณะของการประดิษฐ์เองไม่สามารถแสดงได้ว่าจะนำไปใช้ในการผลิตในด้านต่างๆ ได้หรือไม่อย่างไร เช่น การประดิษฐ์สารประกอบทางเคมีขึ้นใหม่ ผู้ขอจะต้องอธิบายให้เห็นว่า สามารถนำเอาการประดิษฐ์นั้นไปใช้ในทางใดบ้าง และมีประโยชน์อย่างไร แต่ถ้าโดยลักษณะของการประดิษฐ์นั้นเองแสดงให้เห็นได้อยู่แล้วว่าสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการผลิตได้ ก็ไม่จำเป็นต้องมีหัวข้อนี้
¨ ข้อถือสิทธิ (Claims)
เป็นส่วนที่ผู้ขอรับสิทธิบัตรระบุถึงขอบเขตของการประดิษฐ์ที่ประสงค์จะให้กฎหมายคุ้มครอง โดยผู้ขอรับสิทธิบัตรจะต้องระบุลักษณะของการประดิษฐ์ที่ผู้ขอประสงค์จะรับความคุ้มครองโดยชัดแจ้ง รัดกุม และสอดคล้องกับรายละเอียดการประดิษฐ์ กล่าวคือ ไม่เกินขอบเขตที่ได้เปิดเผยไว้ใน รายละเอียดการประดิษฐ์ หมายความว่า สิ่งใดที่ไม่ได้ปรากฏในรายละเอียดการประดิษฐ์ จะนำมาระบุในข้อถือสิทธิมิได้
ข้อถือสิทธิจะต้องกำหนดเป็นข้อๆ และเรียงลำดับในลักษณะรับกับลักษณะของการประดิษฐ์ ที่ต้องการคุ้มครองด้วย โดยข้อถือสิทธิจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. ข้อถือสิทธิหลัก คือ ข้อถือสิทธิที่อ้างถึงลักษณะสาระสำคัญของการประดิษฐ์ โดยมิได้อ้างถึงสาระสำคัญในข้อถือสิทธิอื่น ซึ่งอาจมีหลายข้อได้
2. ข้อถือสิทธิรอง คือ ข้อถือสิทธิที่อ้างถึงลักษณะสาระสำคัญของการประดิษฐ์ในข้อถือสิทธิหลักหรือข้อถือสิทธิอื่น โดยระบุข้อถือสิทธิรองถัดจากข้อถือสิทธิหลัก ซึ่งต้องอ้างถึงลักษณะของการประดิษฐ์เพิ่มเติมด้วย และการอ้างถึงข้อถือสิทธิหลักหรือข้อถือสิทธิอื่นๆ นี้ ต้องอ้างในลักษณะที่เป็นทางเลือกเท่านั้น
นอกจากนั้น ในข้อถือสิทธิ จะต้องไม่อ้างถึงรายละเอียดการประดิษฐ์ หรือรูปเขียนในส่วนของลักษณะทางเทคนิคของการประดิษฐ์ เว้นแต่จะทำให้เข้าใจการประดิษฐ์ได้ชัดแจ้งขึ้น หรือเพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ
¨ บทสรุปการประดิษฐ์ (Abstract)
บทสรุปการประดิษฐ์ ต้องสรุปสาระสำคัญของการประดิษฐ์ที่ได้เปิดเผยหรือแสดงไว้ใน รายละเอียดการประดิษฐ์ ข้อถือสิทธิและรูปเขียน (ถ้ามี) โดยจะต้องระบุลักษณะทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการประดิษฐ์โดยย่อ แต่ต้องเป็นไปในลักษณะที่จะทำให้เข้าใจได้ดีขึ้นถึงปัญหาทางเทคนิค ตลอดจนการแก้ไขปัญหาโดยการประดิษฐ์ และการใช้การประดิษฐ์นั้น โดยจะต้องรัดกุม และชัดแจ้ง
¨ รูปเขียน (Drawing)
รูปเขียนจะต้องแสดงให้ชัดเจน สอดคล้องกับรายละเอียดการประดิษฐ์และเป็นไปตาม หลักวิชาการเขียนแบบ โดยใช้เครื่องมือในการวาดเขียน เช่น การลากเส้นตรงต้องใช้ไม้บรรทัด การวาดรูปวงกลมต้องใช้วงเวียนหรือเครื่องเขียนแบบอื่นๆ ไม่ต้องมีถ้อยคำบรรยายใดๆ (รูปถ่ายไม่สามารถใช้ประกอบการพิจารณาได้) เพื่อให้เข้าใจการประดิษฐ์นั้นได้ดียิ่งขึ้น และควรใช้หมายเลขชี้แสดงชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อประกอบการอธิบาย หมายเลขเหล่านี้ต้องไม่อยู่ภายในวงกลม วงเล็บ หรือเครื่องหมายใดๆ และหมายเลขเดียวกันให้ชี้แสดงชิ้นส่วนเดียวกัน ทั้งนี้ให้สอดคล้องกับรายละเอียดการประดิษฐ์
นอกจากนั้น รูปเขียนยังหมายความรวมถึงแผนภูมิและแผนผังด้วย
ไม่มีความเห็น