นปส.55 (54): ชีวิตสัมพันธ์


นโปเลียน ฮิลล์ กล่าวว่า “แม้เปลี่ยนแปลงจุดเริ่มต้นไม่ได้ แต่คุณเปลี่ยนแปลงทิศทางที่กำลังมุ่งหน้าไปได้ คุณจะทำอะไรในอนาคตนั้นไม่สำคัญ ความสำคัญอยู่ที่คุณกำลังทำสิ่งใดอยู่ในปัจจุบัน”

(54): ชีวิตสัมพันธ์

เข้าสู่สัปดาห์ที่ 17 สัปดาห์สุดท้ายของการฝึกอบรมแล้ว เพื่อนๆในรุ่นมีชื่อซ้ำกันหลายคน มี 4เล็ก 3แดง 2 ตึ๋ง 2 หนู และ 2 นิวัฒน์ การมาอยู่ร่วมกันแบบโรงเรียนกินนอนทำให้มีเวลาเรียนรู้กันและกันได้มากและเร็ว มิตรภาพเกิดได้ง่าย เวลาอยู่ด้วยกัน คนเราย่อมมีความแตกต่างกัน จึงต้อง “แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง” มีพี่ๆอีกหลายคนที่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันแต่ก็ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในวงอาหารหรือช่วงไปทำกิจกรรมต่างๆ เช่น พี่อุ๋ย พี่เลือด พี่บอย แต่พี่ฤทธิ์อยู่กลุ่มเดียวกันก็ยังได้พูดคุยกันบ่อยกว่า

พี่อุ๋ยหรือภคพงศ์ ทวิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระนอง ดูเหมือนไม่ค่อยคุย แต่ก็คุยเก่ง สนุกสนานดี เป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือเพื่อนฝูง

พี่เลือดหรือเลือดไท วงศ์ใหญ่ ท้องถิ่นจังหวัดแพร่ เป็นคนคุยสนุก เป็นกันเอง มีอัธยาศัยใจคอดี เวลาพูดคุยจะเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและความเป็นกันเอง

พี่บอยหรือวรพล จันทร์งาม ผู้อำนวยงานสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยได้มีโอกาสพูดคุยกันมากนัก แต่ก็ทักทายกันด้วยรอยยิ้มและความเป็นมิตร

พี่ฤทธิ์หรือสมฤทธิ์ วิไลพรรัตนา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 กรมทรัพยากรน้ำ เป็นคนน่ารักมาก โอบอ้อมอารี มีน้ำใจกับเพื่อนฝูง ใจกว้าง คุยสนุก เป็นกันเอง เป็นคนกว้างขวาง จริงใจ

เฮนรี ฟอร์ด กล่าวว่า “เพื่อนที่ดีที่สุดของคุณคือผู้ดึงสิ่งดีที่สุดของคุณออกมา” ผมคิดว่าผมได้เพื่อนที่ดีที่สุดจากหลักสูตรนี้หลายคน มีคำกล่าวอีกว่า “ผู้ยิ่งใหญ่พูดถึงความคิดต่างๆ บุคคลธรรมดาพูดถึงตนเอง ขณะที่ผู้ต่ำต้อยพูดถึงผู้อื่น” และจอห์น แม๊กซ์เวลล์ กล่าวว่า “ผู้คนมักหันเข้าหาบุคคลที่เพิ่มพูนสิ่งต่างๆให้ และมักตีตนออกห่างจากบุคคลที่ลดทอนสิ่งต่างๆไป

ผมได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดทำหลักสูตรพัฒนาผู้นำแนวใหม่ ดำเนินการในลักษณะเครือข่ายร่วมพัฒนาศักยภาพผู้นำการสร้างสุขภาวะแนวใหม่ (Leadership Network for the New Health Movement) เพื่อพัฒนาผู้นำให้มีปัญญา มีจิตตื่นรู้ มีความลึกซึ้งในมิติทางจิตวิญญาณ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับตนเองและผู้อื่น (Wisdom, Awakening, Spirituality, Inspiration) หรือเป็น “ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน” ซึ่งเป็นเป้าหมายในการพัฒนาไปสู่ศักยภาพสูงสุดของความเป็นมนุษย์

เป็นผู้นำแนวใหม่ที่สามารถขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาและปฏิรูปสังคมปัจจุบันสู่สังคมสุขภาวะ ต้องอาศัย “ผู้นำ” ในลักษณะใหม่ ที่ไม่ได้มีเพียงความรู้ความสามารถในขอบเขตความถนัดหรือความสนใจเฉพาะเท่านั้น แต่ยังต้องมีกระบวนทัศน์ใหม่ เข้าใจตนและเข้าใจโลกอย่างรอบด้าน มีทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงานในสังคมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีภาวะผู้นำใหม่ที่ไม่ได้นำเพียงคนเดียวแต่เชื่อมประสานกับคนอื่น ๆ เป็นภาวะผู้นำร่วม (Collective Leadership) ที่มีผู้นำที่มี “กระบวนทัศน์ใหม่ ทักษะใหม่ และภาวะผู้นำใหม่” (New Paradigms, New Skills, New Leadership) ศึกษารายละเอียดได้ที่ http://www.wasi.or.th

หลักสูตรนักปกครองระดับสูง เน้นให้เราเป็นผู้นำ (เน้นคน) และผู้จัดการ (เน้นกระบวนการ) ทำให้นึกถึงการเป็น “ผู้นำ 360 องศา” จากหนังสือ“มองโลก 360 องศา “The 360 Leader” สร้างอิทธิพลรอบทิศไม่ยึดติดตำแหน่งหน้าที่” คือ "ผู้ที่เต็มทำสิ่งที่ผู้อื่นไม่เต็มใจ" มีลักษณะต่อไปนี้

  1. อาสาทำงานยาก
  2. ยอมออดทนเพื่อความสำเร็จ
  3. ยอมทำงานโดยไม่ค่อยมีใครรู้จัก
  4. สามารถเข้ากับผู้ที่มีปัญหาได้
  5. เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย
  6. ยอมรับข้อผิดพลาดแต่ไม่แก้ตัวเด็ดขาด
  7. ทำงานให้เกินกว่าที่ถูกคาดหวังไว้
  8. เป็นบุคคลแรกที่ให้ความช่วยเหลือผู้อื่น
  9. ยอมทำงานที่ไม่ใช่งานของตน
  10. รับผิดชอบงานของตนเอง

เพื่อนหลายๆคนมาแซวว่าผมน่าจะได้รางวัลเรียนดี แต่ผมเองก็ไม่ได้คิดหวังเรื่องนี้เพราะไม่อยากกดดันตัวเองและคิดว่าเป็นสิ่งที่คาดการได้ยากเพราะวิธีการประเมินผล แบ่งออกเป็น 2 ส่วนๆละ 50%คือ การวัดผลด้านวิชาการ 50% (การสอบประมวลความรู้รวม 25% การจัดทำรายงานกลุ่ม 10% การจัดทำรายงานส่วนบุคคล 15%) และการวัดผลด้านพฤติกรรม 50% (คณะอาจารย์ 10% วิทยาลัยมหาดไทย 20% เพื่อนร่วมรุ่น 20%) คะแนนจึงไม่ได้มาจากฝีมือตัวเองอย่างเดียว จะมาจากเพื่อนๆในรุ่นด้วย อีกทั้งผมเองก็ไม่ใช่คนพิถีพิถันจริงจังในเชิงวิชาการมากนัก และไม่ชอบอ่านหนังสือเพื่อสอบ แต่ชอบอ่านหนังสือตามใจตนเองมากกว่า

จอห์น เฮนรี คาร์ดินัล นิวแมน เคยกล่าวว่า “จะไม่มีสิ่งใดลุล่วง หากคนเรารอคอยจนกว่าจะทำบางสิ่งได้ดี จนไม่มีผู้ใดหาข้อผิดพลาดได้” ในขณะที่นโปเลียน ฮิลล์ กล่าวว่า “แม้เปลี่ยนแปลงจุดเริ่มต้นไม่ได้ แต่คุณเปลี่ยนแปลงทิศทางที่กำลังมุ่งหน้าไปได้ คุณจะทำอะไรในอนาคตนั้นไม่สำคัญ ความสำคัญอยู่ที่คุณกำลังทำสิ่งใดอยู่ในปัจจุบัน

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2553 เป็นการสอบปลายภาค ข้อสอบที่ออกมายากมาก ผมใช้เวลาทบทวน นั่งนึก วิเคราะห์อยู่เป็นชั่วโมงกว่าจะเริ่มตอบข้อสอบได้ ในขณะที่เพื่อนๆหลายคนเริ่มทยอยออกนอกห้องแล้ว พอสอบเสร็จก็จะเป็นการประเมินผลหลักสูตร มีการให้คะแนนเพื่อนๆที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี และให้คะแนนพฤติกรรมเพื่อนๆในห้องทั้ง 104 คน ซึ่งยากพอควร ตอนเย็นทางกลุ่ม กป. 4 นัดกันไปเลี้ยงฉลองสิ้นสุดการฝึกอบรมที่ร้านสุดทางรัก แหลมฉบัง จนสี่ทุ่มก็กลับที่พัก

วันอังคารที่ 10 สิงหาคม 2553 ตอนเช้ามีพิธีอำลาต่อหน้าพระรูปสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และกราบลาศาลเจ้าแม่เรไร หลังจากนั้นเป็นการทดสอบสมรรถภาพร่างกายและตรวจสุขภาพโดย ผศ. อเนก สูตรมงคล มหาวิทยาลัยบูรพา เสร็จแล้วก็ว่าง พี่แดง พี่เสิด พี่จงพาผมไปฝึกออกรอบตีกอล์ฟ เพื่อนๆหลายคนลาเพราะต้องกลับไปร่วมงานวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน และอีกส่วนหนึ่งไปเที่ยวสังสรรค์ปิดการฝึกอบรมที่เกาะล้าน

ผมคิดว่า ผมคงเล่นกอล์ฟไม่รุ่ง เพราะต้องใช้เวลาเยอะ ใช้เงินมาก ทนร้อนกลางแดด และต้องมีเพื่อนรู้ใจร่วมก๊วน หลังออกรอบแล้วแวะทานก๋วยเตี๋ยว กลับไปที่พักเปลี่ยนชุดเตรียมกระเป๋า เพื่อไปสมทบกับเพื่อนๆที่เกาะล้านต่อ โดยพี่แดงขับรถไปส่งแต่พี่แดงมีประชุมที่สระแก้ว จึงต้องกลับก่อน ผม พี่จง พี่เสิด ไปถึงท่าเรือพัทยาช้าไปนิดนึง เรือโดยสารเที่ยว 5 โมงเพิ่งออกไป ต้องนั่งรออยู่ท่าเรือจนถึง 6 โมงครึ่งเพื่อนั่งเรือเที่ยวสุดท้ายเข้าไป พี่จงบอกว่า “สภาพเราสามคนเหมือนคนตกรถ นั่งๆนอนๆรอรถอยู่ที่ขนส่ง”

เรือโดยสารลำใหญ่สองชั้น วิ่งโต้คลื่นไปเรื่อยๆ คลื่นซัดน้ำทะเลกระเซ็นกระเด็นมากระทบผู้โดยสารเป็นระยะๆ ใช้เวลา 45 นาทีก็ถึงท่าเรือเกาะล้าน ทางโรงแรมส่งรถมอเตอร์ไซด์มารับเราสองคัน ผมกับพี่เสิดนั่งคันเดียวกัน รถวิ่งตะบึงไปสักพักก็ถึง "ลมทะเลรีสอร์ท" มีคุณธนิต ขวัญเมืองเป็นเจ้าของดูแลอยู่ และมีร้านอาหารชื่อครัวลมทะเลมีคุณสมาพร ขวัญเมือง ดูแลอยู่ ใครสนใจติดต่อได้ที่เบอร์โทร 081-7628488 หรือดูรายละเอียดที่ www.lomtalayresort.com  รีสอร์ทริมหาดทรายขาวที่สวยงาม น่ารัก บรรยากาศดีและบริการดี

โต้โผของงานนี้คือพี่ทิ พี่แบนและพี่อุ๋ย โดยการสนับสนุนของพี่โต้ง เก็บเงินคนละ 2,000 บาท ไม่ได้ใช้เงินรุ่นเพราะเป็นความสมัครใจของเพื่อนๆกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่ทำไปทำมามีสมาชิกเข้าไปสมทบถึง 27 คน มีพี่แบน พี่เสิด พี่วิโรจน์ พี่หมาย พี่แดง (มณฑา) พี่ไก่ พี่นี พี่รัด พี่ทิ พี่โส่ย พี่ก๊อด พี่อุ๋ย พี่เล็ก (ศุภวัชร) พี่โอม พี่ชู พี่จง พี่ปี๊ด พี่หมู พี่ต๋อม พี่หน่อง พี่มน พี่อ้อย พี่เอื้อง พี่หรัด พี่เหนอ พี่ตึ๋ง (ปรมินทร์) และผม มีอาจารย์วีระ ผู้ดูแลหลักสูตร ไปร่วมด้วย ตอนแรกผมจะไม่ไป แต่พี่เสิดกับพี่จง ชวนไป และถ้าผมไม่ได้ไปร่วมก็จะเสียดายมาก

พวกเราทั้ง 27 คน ทานอาหารทะเล ริมทะเล ภายใต้ความเย็นของลมทะเลและเสียงกระซิบจากคลื่นซัดผ่านมาเป็นระลอก เป็นระยะๆ บรรยากาศในงานเลี้ยงแบบสบายๆ เป็นกันเอง ทุกคนไปร่วมด้วยใจอยากไป ไม่มีใครบังคับ เสียงร้องรำทำเพลงบนเส้นทางแห่งมิตรภาพและความผูกพันฉันเพื่อนพ้องน้องพี่ ความไพเราะของบทเพลงจากนักร้องสมัครเล่นของพวกเรา พาใจให้สนุกสนานกันเต็มที่ จนค่อนคืนจึงได้แยกย้ายกันพักผ่อน

บทเพลงก่อนส่งท้ายงาน ก็ยังคงเป็น 2 เพลงที่เราเคยร่วมกันร้องเมื่อคราวไปเที่ยวเวียดนามด้วยกัน นั่นคือ ชีวิตสัมพันธ์ของวงคาราบาว เพลงชอบของพี่ตึ๋ง (ปอ) แต่กลายเป็นเพลงร้อยใจร้อยสายสัมพันธ์ของพวกเราไปด้วย

เจ้านกเอย ก่อนเคยอยู่บนกอไผ่ ส่งเสียงสำเนียงจับใจ ชมไพรชมพฤกษ์พนา ส่งสำเนียงเสียงธรรมชาติสร้างมา ประสานเสียงหมู่พฤกษาที่มาของเสียงดนตรี กู่เรื่องราวบอกกล่าวถึงความรู้สึก เป็นเพียงสามัญสำนึกและความห่วงหาอาทร...ความแห้งแล้ง ความชุ่มชื้น อย่างไหนที่คนชอบกัน ความร่ำรวย ความยากจน อย่างไหนที่คนชอบกัน มันอยู่ที่ความสมบูรณ์ของหมู่แมกไม้ ต้นสายต้นน้ำลำธาร มาจากป่าสู่เมือง จากเขาทะมึน หล่อเลี้ยง ผู้คนในแท่งคอนกรีต

ยามนี้เราจึ่งมาร้องเพลง ร่วมกันบรรเลงเสียงเพลงจากใจ เมืองนี้มีความศิวิไลซ์ ก็ต้องมีต้นไม้ต้นน้ำลำธาร มีนกกาหากินบินว่อน เนื้อแม่ลูกอ่อนมีนมให้ลูกกิน คนหากิน สัตว์ก็หากิน เราไม่เบียดเบียนกันและกัน ต้นไม้งาม คนก็งดงาม งามน้ำใจไหลเป็นสายธาร ชุบชีวิตทุกฝ่ายเบิกบาน มีคนมีต้นไม้ มีสัตว์ป่า

ต่อด้วยเพลง คำสัญญาของวงอินโดจีน “ก่อนจากกัน ขอสัญญา ฝากประทับตรึงตรา จนกว่าจะพบกันใหม่ โบกมืออำลา สัญญาด้วยหัวใจ เพราะความรักติดตรึงห่วงใย ด้วยใจผูกพันมั่นคง ด้วยความดี นี้ฝังตรึง จากไปแล้วคำนึง ตรึงประทับดวงใจ อย่าได้ลืมเลือน สัญญากันไว้อย่างไร ขอให้เรามั่นคงจิตใจ ก้าวไป สรรสร้างความดี โอ้เพื่อนเอ๋ย เยร่วมสนุกกันมา แต่เวลาต้องพาให้เราจากกัน ไม่นานหรอกหนา เราคงได้มาพบกัน ไม่มีสิ่งใดขวางกั้น เพราะเรามั่นในสัญญา หากแผ่นดิน...นี่คือสัญญาของเรา

วันพุธที่ 11 สิงหาคม 2553 ตื่นเช้า ทานอาหารที่รีสอร์ท ชมความงามของชายหาดขาวสะอาด ท้องฟ้าสดใส น้ำทะเลสดสวย ราวเก้าโมงเช้าก็นั่งเรือเร็วกลับเข้าฝั่งพัทยา และนั่งรถตู้กลับวิทยาลัยมหาดไทย รีบเก็บเสื้อผ้าข้าวของใส่รถ ก่อนกลับพวกเราร่วมรับประทานอาหารกลางวันกันเป็นมื้อส่งท้ายหลักสูตร พร้อมเอ่ยคำล่ำลากัน ความรู้สึกดีๆที่มีให้กันอย่างล้นเหลือ

หลังจากนั้นผมก็ขับรถยนต์กลับตาก เป็นอันสิ้นสุดการฝึกอบรมหลักสูตรนักปกครองระดับสูง ยังเหลือเพียงการรอฟังผลการฝึกอบรมและรับประกาศนียบัตรเท่านั้น น้องขลุ่ยลูกชายคนเล็กถามย้ำหลายครั้งที่กลับถึงบ้านว่า “พ่อไม่ต้องกลับไปอบรมอีกแล้วใช่ไหม ไชโย” พร้อมอาการดีใจอย่างลิงโลด ออกหน้าออกตา

ความรู้เรื่องผู้นำจากหนังสือ “มองโลก 360 องศา “The 360 Leader” สร้างอิทธิพลรอบทิศไม่ยึดติดตำแหน่งหน้าที่” เขียนโดย John C. Maxwell แปลโดยจิรายุทธ์ ประเจิดหล้า และเรียบเรียงโดย ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ของสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี มีคุณค่ามาก ได้เขียนเกี่ยวกับคุณสมบัติ 10 ประการของพญาอินทรี (ผู้มีศักยภาพเป็นผู้นำ) ซึ่งใช้มองตัวเราเองและมองคนรอบข้างได้ว่า ใครเป็นผู้มีศักยภาพผู้นำ ดังนี้

  1. พญาอินทรีสร้างสิ่งต่างๆขึ้น
  2. พญาอินทรีมองเห็นโอกาส
  3. พญาอินทรีจูงใจผู้อื่นให้แสดงความคิดเห็นและทำสิ่งต่างๆ
  4. พญาอินทรีเพิ่มคุณค่าให้แก่คุณ
  5. พญาอินทรีดึงผู้ชนะเข้าหา
  6. พญาอินทรีมอบสิ่งต่างๆให้พญาอินทรีตัวอื่นเป็นผู้นำ
  7. พญาอินทรีเสนอความคิดเห็นที่ช่วยเหลือองค์กร
  8. พญาอินทรีเป็นเจ้าของทัศนคติอันยิ่งใหญ่เป็นพิเศษ
  9. พญาอินทรีปฏิบัติตามคำสัญญา

10.  พญาอินทรีแสดงความจงรักภักดีอันเต็มปี่ยมต่อองค์กรและผู้นำ

ขณะขับรถกลับตาก ผมนึกไปถึงช่วงที่ผมเข้าอบรมหลักสูตร “ผู้บริหารการแพทย์และสาธารณสุขระดับกลาง” หรือ “ผบก” ของสถาบันพระบรมราชชนก จัดที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธรพิษณุโลก รุ่นที่ 18 เมื่อปี 2547 เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขสนุกสนานมากอีกช่วงหนึ่ง ได้รู้จักเพื่อนหลากวัยหลากวิชาชีพในกระทรวงสาธารณสุขด้วยกัน ใช้เวลาอบรมเดือนครึ่ง อาจารย์แต่ละท่านที่มาสอนและดูแลพวกเราให้ความเป็นกันเองมาก การอบรมเปิดโอกาสให้พักหยุดเสาร์-อาทิตย์ ให้สามารถกลับบ้านได้ แต่ช่วงวันธรรมดาก็ต้องนอนพักในวิทยาลัย ตื่นมาออกกำลังกายตอนเช้าทุกวันและมีลงพื้นที่ศึกษาที่จังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย

เพื่อนร่วมรุ่น 47 คน มีพี่สิงห์เปรม อาวุโสสูงสุดเป็นประธานรุ่น (ตอนนั้นเป็นสาธารณสุขอำเภอพิชัย ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว) มีผมที่อายุน้อยที่สุดเป็นเลขานุการรุ่น ตอนเรียนผมไม่ทราบเลยว่ามีการให้รางวัลคะแนนสูงสุดและมีการลงมติขวัญใจรุ่นด้วย ผมก็ทำไปตามปกติของผม เป็นตัวของตัวเอง เป็นอย่างที่ผมเป็นและเป็นธรรมชาติ มีน้ำใจต่อเพื่อนๆ ไม่บ้าคะแนนหรือหวงวิชา เข้ากับทุกๆคนได้ดี ตรงกับคติพจน์ส่วนตัวของผม “ฉันเป็นฉันเอง” อ่านได้ที่ http://gotoknow.org/blog/practicallykm/4844

วันรับประกาศนียบัตร ผบก. ผมได้รับรางวัลคะแนนรวมอันดับ 1 และได้รับรางวัลขวัญใจรุ่นฝ่ายชาย ส่วนฝ่ายหญิงคือพี่แมว (สินีนาฏ จิตต์ภักดี) ปัจจุบันเป็นหัวหน้าพยาบาลอยู่ที่สถาบันราชานุกูล ตอนฝึกอบรมพวกเราต้องบันทึกการเรียนรู้ทุกวัน (เรียก portfolio แต่ที่วิทยาลัยมหาดไทยเรียก Learning log) ผมเขียนเป็นกลอนสุภาพทุกวันเลย

ตอนที่เรียนโทนิด้า รุ่น 5 พิษณุโลก ผมก็ได้รางวัลเรียนดี (เกรดเฉลี่ยสูงที่สุดในรุ่น) และได้รางวัลขวัญใจรุ่นฝ่ายชาย (ฝ่ายหญิงคือน้องบุ๋ม) การที่เราเป็นธรรมชาติของเรา เป็นฉันแบบที่ฉันเป็น เข้าใจคนอื่น ยอมรับคนอื่นอย่างที่เขาเป็น ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนๆได้เอง โดยไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำและการจะได้หรือไม่ได้รางวัลเป็นแค่ผลพลอยได้เท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องสำคัญอะไรนัก

สิ่งสำคัญคือความเป็นเพื่อน มิตรภาพและการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อนและทีมงานจึงมีความสำคัญ เราควรได้ทั้ง “Connection” คือความสัมพันธ์ที่ดี และ “Network” คือเครือข่ายการทำงานที่ดี ทั้งสองประการไปด้วยกัน หนังสือภาษิตฝรั่งเขียนไว้ว่า “เหล็กลับเหล็กให้คมกริบได้ฉันใด บุคคลหนึ่งย่อมทำให้อีกคนหนึ่งฉลาดหลักแหลม” ในขณะที่

จอห์น แม๊กซ์เวลล์ กล่าวว่า “ยอมรับความจริงกันดีกว่าว่า ไม่มีใครทำทุกอย่างได้ดีหมด เราจึงต้องการความช่วยเหลือ ต้องพัฒนาทีมงานของผู้นำขึ้น ซึ่งเป็นทีมงานของบุคคลที่เติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปให้แก่กันและกัน” อย่างคำฝรั่งที่ว่า “Nobody’s perfect, but Team can be

ชีวิตสี่เดือนกว่าๆในวิทยาลัยมหาดไทย บางละมุง ที่ดูเหมือนยาวนานเมื่อเริ่มสมัครเข้าอบรม และรู้สึกเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในช่วงเดือนแรกของการฝึกอบรม และรู้สึกผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อเข้าสู่เดือนที่สาม และรู้สึกว่าเร็วมากเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 17 นี้ ให้สิ่งดีๆมากมายแก่ชีวิต เพื่อน ความสัมพันธ์และมิตรภาพบนเส้นทางแห่งการเรียนรู้ร่วมกันในหลักสูตรนักปกครองระดับสูงรุ่นที่ 55 นี้เป็นรางวัลชีวิตที่ล้ำค่ายิ่ง

หมายเลขบันทึก: 398480เขียนเมื่อ 26 กันยายน 2010 13:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2019 18:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท