ห้องเช่าแห่งใหม่ที่ดิฉันใช้ชีวิตต่อมาอีกเกือบ 2 ปีในอินเดียจนเรียนจบปริญญาโท คือ ห้องชั้นล่างของบ้าน Mr. Jogsie เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินที่คณะศิลปกรรมของมหาวิทยาลัยบาโรดาซึ่งเป็นคณะที่ดิฉันเรียน เป็นห้องเล็กๆ ขนาดประมาณ 3 x 4 เมตร และมีห้องครัวขนาดเดียวกันอีก 1 ห้อง มีห้องน้ำอยู่ตรงกลาง ที่ตอนกลางวันจะมีผู้เช่าอีกห้องหนึ่งมาใช้ด้วย ถ้าจะพูดกันตามตรงต้องบอกว่าห้องเช่าที่นี่ไม่ได้ดีมากนักและอยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากกว่าห้องเช่าเก่า แต่ด้วยความที่ผู้เช่าสามารถออกใบเสร็จค่าเช่าให้ได้และช่วยดูแลเรื่องเงินทุนที่ส่งมาทางมหาวิทยาลัยให้ ประกอบกับที่ดิฉันต้องการยุติปัญหาการหาที่พักและเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆเสียที จึงตัดสินใจเลือกที่นี่ โดยในตอนแรกก็ปลอบใจตัวเองว่า คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก แต่พออยู่ไปนาน วันเข้า ก็ได้พบสัจธรรมที่ว่า ถ้าเราไม่เอาใจไปขังไว้ในความคับแคบใด ๆ ความสุขก็มาหาเราได้ไม่ยาก ยิ่งเมื่อต่อมาดิฉันได้รับทราบถึงคำพูดหนึ่งของมหาตมะ คานธี มหาบุรุษชาวกุจราติของอินเดียที่ว่า simple living, high thinking ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้คิดได้ว่า การเรียนรู้ความสุขจากการมีชีวิตเรียบง่ายนั้น น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการเลือกมาเรียนรู้อินเดียด้วยมิใช่หรือ ด้วยความคิดนี้เอง ที่ทำให้จากที่ตอนแรกดิฉันคิดว่าจะย้ายเข้าบ้านใหม่และลงหลักปักฐานชีวิตนักเรียนในอินเดีย ด้วยการดิ้นรนไขว่คว้าหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น ทีวี หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ที่คิดว่าจำเป็นตามแบบการใช้ชีวิตตอนอยู่เมืองไทย แต่เมื่อเอาเข้าจริงก็พบว่าความไม่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอินเดียประกอบกับกำแพงภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยในขณะนั้น ทำให้เมื่อไปดูราคาสินค้ากับคุณภาพที่ไม่ไปด้วยกันแล้ว ตัดสินใจว่าจะขออยู่โดยไม่มีข้าวของเหล่านี้
เมื่อเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบเดิมๆเข้าจริง ๆ ดิฉันก็ได้เรียนรู้ว่าการปรับเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิตเป็นเรื่องที่ท้าทายและสนุกอยู่ไม่น้อย เพราะส่วนหนึ่งมันทำให้เรากลับไปทำอะไร ๆ แบบที่เราเคยเห็นหรือเคยรู้ว่าคนเราก็อยู่กันแบบนั้นมาก่อน เริ่มต้นจากการซื้อหม้อดินมาใส่น้ำดื่ม ซื้ออ่างดินเผามาแช่น้ำให้ชุ่มแล้วใส่ผักสดลงไปคลุมด้วยผ้าชุบน้ำเปียก ๆ ( แบบที่เคยเห็นยายทำตอนเด็ก ๆ สมัยที่ยังไม่มีตู้เย็น ) ก็ทำให้ผักสดอยู่ได้นานพอจนถึงเวลาไปจ่ายตลาดครั้งต่อไป การหุงข้าวด้วยหม้อแสตนเลสแบบไม่เช็ดน้ำที่เพื่อนสาวมณีปุรีเคยสอนให้ตอนอยู่ด้วยกัน คือ ใส่น้ำพอสมควร หุงจนเม็ดขาวพองตัวแล้วค่อย ๆ ลดไฟลงจนน้ำระเหยไปหมดก็จะได้ข้าวที่สวยเหมือนหุงด้วยหม้อไฟฟ้า การปรุงอาหารด้วยเตาน้ำมันก๊าซซึ่งรูปร่างคล้ายตะเกียงน้ำมันแบบเก่าแต่ไม่มีโคมแก้วด้านบน มีแต่ส่วนรองรับภาชนะก็ไม่ได้ทำให้อาหารอร่อยน้อยลงกว่าเตาแก๊ส และเมื่อไม่มีทีวี ดิฉันก็ซื้อวิทยุคลื่นสั้นมาฟังรายการข่าวของ VOA ( Voice of America ) ที่มีทั้งภาคปกติและภาค Special English ที่ช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษตามคำแนะนำของเพื่อนเวียดนาม ทั้งยังได้ฟังข่าวคราวจากเมืองไทยที่ออกอากาศมาถึงอินเดียด้วย แม้เสียงจะไม่ค่อยชัดนัก ก็พยายามเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ เพราะความกระหายใคร่รู้ว่าตอนนี้บ้านเราเป็นยังไงบ้าง ยิ่งตอนมีข่าวพระยันตระกับคดีฆาตกรรมคุณแสงชัย สุนทรวัฒน์ที่ดิฉันนับถือเป็นครูสอนภาษาอังกฤษผ่านคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ด้วยแล้ว ความกระหายในข่าวก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้น จนต้องรอฟังทุกคืน ที่สำคัญเสียงเพลงปิดท้ายรายการ บ้านเราแสนสุขใจ ถึงจะอยู่ที่ไหน ก็ไม่สุขใจเหมือนบ้านเรา ...นั้น เป็นอะไรที่ทำให้คนไกลบ้านอย่างเราต้องร้องตามออกมาดัง ๆทุกครั้ง แม้มันจะทำให้คิดถึงบ้าน จนบางครั้งเผลอร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่มันก็เป็นแรงพลังให้เราอยากทำอะไรให้สำเร็จ เพื่อจะได้กลับไปอยู่ บ้านเรา ในเร็ววัน
ไม่มีความเห็น