งานศิลป์ศิลปินเวียดนาม "same same but different"



           "เวียดนาม" ดินแดนเขียวชอุ่มหลังม่านหมอกภูเขา สมรภูมิที่เคยผ่านมรสุมสงครามทั้งภายในและภายนอก ประวัติศาสตร์ความทารุณโหดร้ายที่มนุษย์โลกพึงกระทำต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ช่วยหล่อหลอมให้คนในชาติรู้คุณค่าของการมีชีวิตและรู้จักใช้มันอย่างถูกต้องเหมาะสม "Tran Thanh Son" หรือ "เซิน" หรือในชื่อไทยซึ่งออกเสียงง่ายๆ คือ "สน" ช่างภาพผู้มีอัธยาสัยและใผ่รู้อยู่เสมอ เพื่อนชาวเวียดนามคนแรกของผม วิสัยทัศน์ในการมองโลกและสังคมของเค้าดูจะเกินวัย 26 ถึงแม้ว่าหน้าตาจะดูแก่กว่านั้น สนพูดได้หลายภาษายกเว้นภาษาไทย เวลาเจอหน้าชอบชวนกินเบียร์ สะพายเป้ใบใหญ่เดินไปไหนต่อไหน จีบสาวไทยเป็นภาษาอังกฤษทั้งๆที่ผู้หญิงฟังไม่รู้เรื่อง และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจในตัวเค้าคือ สนมีเมียสวย

.

.

.


เหยี่ยว: วงการศิลปะที่เวียดนามเป็นยังไงบ้าง

สน: +*+๙๙9i?><M&%$#@!

ล่ามช่วยแปล: แต่ก่อนกับเดี๋ยวนี้ ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ปัจจุบันอาจดีกว่าเพราะประเทศเปิดกว้างขึ้น ชาวต่างชาติสามารถรับรู้วัฒนธรรมเวียดนามได้+มากขึ้น พอเปิดประเทศ คนต่างชาติก็เข้าไปทำงานศิลปะได้ จึงเกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมขึ้นและศิลปินเวียดนามเองก็ออกไปศึกษาที่ต่างประเทศด้วยเช่นกัน ศิลปินที่เก่าๆส่วนใหญ่ทำงานประเภทวาดเส้นและลงสีทั่วไป แต่ศิลปินรุ่นใหม่จะทำงานร่วมสมัยซะมากกว่า

เหยี่ยว: เกิดการต่อต้านกันบ้างไหม๊ระหว่างศิลปินรุ่นเก่ากับใหม่

สน: @%^&T^(*(&*-*(%%*&*)+^%^*GK&^%*&^#

ล่ามช่วยแปล: ไม่นะ… ศิลปินส่วนใหญ่ต่างก็เข้าใจและเปิดกว้างในการรับรู้สิ่งใหม่ๆ คนรุ่นเก่ายอมรับรุ่นใหม่เพราะเทคโนโลยีและแนวความคิดซึ่งสมัยก่อนนั้นการรับรู้ข่าวสารใหม่ๆเพื่อนำมาสร้างสรรค์งานนั้นทำได้ยากมาก

เหยี่ยว: ผมได้ข่าวมาว่ารัฐบาลในประเทศของคุณต้องการให้มีการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรโดยให้การสนับสนุนในการศึกษาต่อต่างประเทศ คุณเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่?

สน: )*(++_+*(_&*%$#$#$^&_&*)%%*&/JF%&*GHK^HO&^^$^

ล่ามช่วยแปล: ส่วนใหญ่ของคนที่มาศึกษาต่อนั้นมาด้วยทุนทรัพย์ของตัวเองโดยสมัครใจ รัฐบาลก็มีทุนให้นิดหน่อยแต่ต้องมีผลงานเพื่อคัดเลือกสำหรับศึกษาต่อ

เหยี่ยว: งานส่วนใหญ่ที่ผ่านมาของคุณเป็นแบบไหน

สน: *(&&77%$#%&+)_(*&^%$#@!

ล่ามช่วยแปล: ผมเป็นอาจารย์สอนทางด้าน Graphic Design ที่มหาวิทยาลัยเว้ และผมชอบถ่ายรูปมากบางครั้งผมก็ถ่ายภาพนู้ด ซึ่งมันก็นามมาแล้ว เวลาผมทำงานศิลปะผมจะรู้สึกผ่อนคลาย งานของผมไม่ได้มีไว้ขายแต่ที่เวียดนามก็มีตลาดสำหรับขายผลงานศิลปะเหมือนๆกับที่ประเทศไทยนั่นแหละ

เหยี่ยว: ตอนนี้คุณกำลังคิดอะไรอยู่?

สน: +)(*&^%^!@#$%^&*(()))++*(^%$###

ล่ามช่วยแปล: อยากให้ผู้คนที่ดูผลงานของผมรู้สึกมีความสุขและสนุกสนานไปกับมัน

เหยี่ยว: มองวงการศิลปะของไทยเป็นยังไง

สน: !#$%&*()__+!@#$%^&*(@$^&*)+&**($$#$@#

ล่ามช่วยแปล: ดีน่ะฮ์ มีความหลากหลายและเปิดกว้างทางวัฒนธรรมไม่ต่างไปจากที่เวียดนาม นักศึกษาคนไทยส่วนใหญ่แล้วผมมองว่าใส่ใจกับเรื่องคะแนนมากจนลืมความเป็นตัวตนของตัวเองจนไม่สามารถกลั่นงานที่ออกมาจาตัวตนจริงๆได้เท่าไหร่นัก ส่วนผมไม่ค่อยจะใส่ใจกับเรื่องคะแนนเท่าไหร่นักผมทำเพราะมีความอยากและความสุขเป็นตัวกระตุ้น ที่เวียดนามเค้าไม่สนใจว่าคุณจะจบมาจากที่ไหน เค้าดูว่าคุณสร้างสรรค์อะไรเพื่อจรรโลงสังคมมากกว่า

เหยี่ยว: คุณหวังว่าจะได้อะไรกลับไป?

สน: &^&*(()@$%_$(@*#*$%*(^_%*(&$)^(@&*

ล่ามช่วยแปล: ทุกคนที่เวียดนามหวังกับการมาเรียนที่นี่ของผมมากและผมก็หวังกับมันด้วยเช่นกัน ผมอยากได้ความรู้กลับไป

เหยี่ยว: คุณได้เรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเพื่อนใหม่ อาจารย์ และผลงานที่มาพบเจอที่นี่

สน: #&**(()++_)*&&^%$#

ล่ามช่วยแปล: ดี!!!!!!.....กินเหล้าทุกวันเลย

“Lens Through Eyes” 2009

Red River 2009

"TIME"

            ผลงานของเค้านั้น ส่วนใหญ่จะขายขาดให้กับงานทางด้านสื่อสิ่งพิมพ์ จึงติดเรื่องลิขสิทธ์และไม่สามารถนำมาเผยแพร่ซ้ำได้ งานที่นำมาเสนอเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมพอจะนึกภาพและจินตนาการตามได้

 

CURRICULUM VITAE

I. PERSONAL INFORMATION

Full name: TRAN THANH SON                         

Gender: Male

Address: 69 Nguyen Cong Tru, Hue City, Thua Thien Hue, Viet Nam

Place of work: College of Arts, Hue University 10 To Ngoc Van, Hue City, Thua Thien Hue, Viet Nam

Date of Birth: May 25th,1984

Place of Birth: Thua Thien Hue

Phone number: 84. 54. 821680 Cell phone number: 0912992779

Email: [email protected]

II. EDUCATION

1999 - 2002: Quoc Hoc High School, Hue City

2003 - 2008: College of Arts, Hue University – Specialty: Graphics

III. EXPERIENCE

- 2008 to 2009:

- Designer for HereUare communications Viet Nam.

- Designer for community & environment arts project 2009 (lastholidays2009.hi5.com)

- Designer for New space arts foundation 2009 (newspacearts.com)

- Participating in designing such works for Hue Festival 2008 as : Quảng Trường Thi Ca (Poetry Square), Hoa phố (Street flowers), Lễ Vật Dòng Sông (Sacrificed River) painted by Painter Đinh Khac Thinh in 2008, Rồng (Dragon) of G.A.S. Group in 2007 …

- 2007:

- Designer for CREATION magazine, 36 Pham Viet Chanh, HCM city.

- Designer for G.A.S. (Graffiti in art school) (gashue.net)                      

IV. OUTDOORS ACTIVITIES

- Photo Exhibition “Lens Through Eyes” 2009.

- Photo Exhibition Red River 2009.

- Participant of arts activities at Hue Festival 2004, 2006, 2008.

- Exhibition Thailand – Viet Nam / artists and students 2008.

- Exhibition PM studio 2007.

- Participant of arts programs at Hue Festival of  Traditional Careers in 2007

- Member of Management Board of  G.A.S. group (Graffiti in art School).

- Participant of Sand Shaping Contest at Hoi An Festival in 2005.

คำสำคัญ (Tags): #ศิลปินเวียดนาม
หมายเลขบันทึก: 396332เขียนเมื่อ 21 กันยายน 2010 10:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 01:19 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

บทการสนทนาคุณอิศรากับศิลปินชาวเวียดนาม คุณสน ยังทำได้น่าประทับใจและน่าติดตามเช่นเคย

ผลงานยังไม่เห็นภาพมากเท่าไหร่เลยเดาไม่ค่อยออกว่าเป็นแนวไหน แต่บทสัมภาษณ์ที่กล่าวถึงการทำงานเรียนที่คนไทยเราจะมุ่งเน้นไปที่คะแนนการเรียนมากกว่าตัวตนของตนเองจึงไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ออกมาเป็นเฉพาะตนได้อย่างเต็มที่ ต่างจากที่เวียดนาม เขาทำอย่างมีความสุขและอยากทำ

จากการกล่าวถึงการเรียนเพื่อนคะแนนมันเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เคารพในตัวเอง ไม่เคารพในความรู้ความสามารถของตนเอง ไม่เคารพในกระบวนการเรียนการสอนของศิลปะเรา ที่ต้องการให้ผู้เรียนศิลปะนี้มีความรู้ความสามารถ สามารถพัฒนาตนเองค้นหาตนเองเพื่อสร้างสรรค์สิ่งบางสิ่งที่เรียกว่าศิลปะเพื่อจรรโลงแก่โลกใบนี้.............................

ผมจะกลับไปทบทวนกับกระบวนการคิดที่ผมต้องทำงานเพื่อเรียนให้ได้คะแนนเยอะๆเพื่อที่จะได้ไม่ตกและต้องจบเร็วๆ

" ผมทำศิลปะหรือผมกำลังทำงานส่งอาจารย์ "

ถึงจะเห็นผลงานของคุณสนไม่กี่ชิ้นแต่บทสัมภาษณ์ของคุณอิศรา ก็ทำได้น่าสนใจและได้ข้อมูลแนวความคิดทัศนคติของคุณสนไว้อย่างครบถ้วน ผมชอบมากที่คุณสนบอกว่า นักศึกษาไทยสนใจคะแนนมากกว่าความเป็นตัวของตัวเองในผลงาน ส่วนตัวเขาไม่สนใจคะแนนมากกว่าความรู้และความเป็นตัวของตัวเองในผลงาน ผมเคยเห็นผลงานการถ่ายภาพนู้ดของเขาสวยงามและมีแนวคิดที่ลึกซึ้งการที่เขาได้มาศึกษาในเมืองไทยคงได้ความรู้ใหม่ๆเพื่อเอาไปสอนนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเว้ ขอชื่นชมในความเป็นตัวเองและขอให้ประสบความสำเร็จในการศึกษาศิลปะในเมืองไทยครับ

ศิลปินชาวเวียดนาม คุณสนถึงแม้จะอยู่ต่างแดนแต่แนวความคิดก็ยังคงอยู่ในตัวตน และยังคงทำงานศิลปะเพื่อจรรโลงโลกให้งดงาม

เป็นศิลปินที่มาศึกษาต่อ เพื่อนำสิ่งที่ได้แรกเปลี่ยนกับศิลปินในเมืองไทย บทสัมภาษณ์ที่กล่าวถึงการทำงานเรียนที่คนไทยเราจะมุ่งเน้นไปที่คะแนนการเรียนมากกว่าตัวตนของตนเองจึงไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ออกมา

มันสะท้อนออกมาถึงการคิดและการกระทำของนักศึกษา ผมว่ามีแนวคิดอย่างนี้กันทั่วทุกที่ที่เกี่ยวกับการศึกษาทั่วโลกก็ว่าได้ เพียงแต่แนวคิดของคนทำงานนั้นจะมุ่งไปทาง

คนที่ทำงานศิลปะส่วนมากทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการและความรู้สึกของตนเองเป็นส่วนมาก การตรวจงานการให้คะแนนเป็นแค่การตรวจสอบจากผู้รู้หรือเสียงสะท้อนจากคนดูเท่านั้นเอง

son เป็นศิลปินที่มีประการณ์ ทางด้านศิลปะคนหนึ่ง เขามีมุมมองการนำเสนอผลงานภาพถ่ายของเขาอย่างน่าสนใจ แต่สำหรับแนวความคิด ของเขา ที่ว่าด้วย พื้นที่และัเวลา ผมอยากทราบถึงเป้าหมายจริงๆของเขาเอง ความหมายของพื้่นที่กับเวลามันสำคัญกับมนุษย์อย่างไร แต่จากที่มองตัวเขาผ่านผลงาน ศิลปินผู้นี้มีบางอย่างในจิตรใจ ที่รอเวลาที่จีะแสดงมันออกมาอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ขอชื่นชมทั้งตัวศิลปินเองและผู้ที่สัมภาษณ์ ที่นำความรู้แปลกๆใหม่มาสู่สาธารณชน ได้เรียนรู้ชื่นชม ขอขอบคุณ

เหมือนกันแต่ต่างกัน เอ.....ยังไง เรียกว่าคำเขียนก็เป็นศิลปะแล้วครับ ส่วนอันนี้นำมาฝากจากหัวหินครับ

สน เป็นคนอบอุ่นยิ้มง่าย เป็นเพื่อนที่มีความเป็นผู้ใหญ่เกินตัวมากๆหากเปรียบเทียบกับตัวผมเอง อาจเป็นเพราะความแตกตางทางส้งคมก็ได้ที่ทำให้ผมคิดไปแบบนั้น เพราะนักศึกษาเวียดนามเท่าที่เห็นอายุยังน้อยๆกันอยู่เลย แต่ก็แต่งงานมีครอบครัวกันหมดแล้ว (เหมือนกับบ้านเราในชนบท)สิ่งที่ตามมาก็คือความรับผิดชอบที่มากขึ้น ไม่แปลก เมื่อตอนนักศึกษาเวียดนามเข้ามาเรียนใหม่ๆผมคิดว่าเขาก็งงกับพฤติกรรมของเราเหมือนกันที่ดื่มดำ เฮฮา กันได้ทั้งวันทั้งคืน

แต่ปัจจุบันผมสังเกตุว่าเขาก็เริ่มเอาอย่างเราเข้าซะแล้ว..ฮาๆๆ เข้าเมืองตาหลิ่ว ก้ต้องหลิ่วตาตาม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท