วันหนึ่งนั่งคุยกับลูกศิษย์ที่เป็นผู้จัดการโรงงานแห่งหนึ่ง...ผมคุยเรื่องเนื้อหาใน The Tipping Point
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ผมใช้ประกอบการทำ AI Project ครับ...มีเนื้อหาตอนหนึ่งเขาพูดถึงเรื่อง..โรงงานแห่งหนึ่ง..ผมจำชื่อไม่ได้..เป็นโรงงานที่ผมเห็นปรากฏอยู่ในหนังสือบริหารชั้่นนำหลายเล่ม..เป็นโรงงานที่สามารถสร้างนวัตกรรมยอดเยี่ยม..จนเป็นที่กล่าวขวัญไปหลายวงการ...
........................................
CEO ที่นี่พูดไว้น่าสนใจว่าโรงงานเขาจะแตกตัวไปสร้างโรงงานใหม่ ถ้ามีคนเกิน 150 คน...เขาบอกว่า ถ้าคนเกิน 150 มักจะเริ่มมีปัญหา คือการสื่อสารไม่ทั่วถึง ทำให้การบริหารจัดการ ไม่ว่าคุณจะใช้แบบล้ำยุคแค่ไหน ก็ทำให้ดีได้ยาก...
....
ครับ ลูกศิษย์ผมถึงกับอึ้ง.."อาจารย์ครับ...ใช่เลย...โรงงานของผมก็เจอเรื่องนี้เลยครับ..ที่ผมอยู่เป็นโรงงานดั้งเดิมมีคนงาน 300 คน Productivity กับแย่..สู้โรงงานสาขาที่มีคนเพียง 150 คนไม่ได้...ผมก็แปลกใจว่าทำไม..เพราะเราเป็นต้นแบบทุกอย่าง คนก็มีประสบการณ์มากกว่า...โรงงานสาขามี Yield สูงกว่า 90 แ่ก่ๆ..ส่วนเ้ราโรงงานต้นแบบกลับได้แค่ 80 กว่าๆ.."
.........
ปรากฏการณ์นี้น่าสนใจครับ..เราเลยมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรต่อ...ก็ประมาณว่าสร้างโรงงานใหม่ไม่ได้แต่ก็ต้องจัดระบบอะไรบางอย่างซะแล้ว ที่จะทำให้คนสื่อสารกันได้ดีมากขึ้น...อันนี้ไม่ได้ตามครับ.....
(โครงการอื่นเราใช้ Morning Talk แบบ AI ครับ..เพื่อช่วยเพิ่มการสื่อสาร)
คุณว่าน่าสนใจไหมครับ..ผมก็มักได้ยินคำบ่นครับ..."แต่ก่อน..ตอนบริษัทยังไม่ใหญ่ขนาดนี้ เราคุยกันได้ เดี๋ยวนี้ไม่รู้ใครเป็นใคร...แล้วตามด้วยคำบ่นตามมาเป็นพรวน...
......
แนะนำครับหาหนังสือ The Tipping Point มาอ่าน หลายเรื่อง...กลุ่มเราเอาไปทำแล้วได้ผล..มากๆ
...
คุณล่ะคิดอย่างไร...องค์กรคุณ.."ตัวโต" ไปรึเปล่า...
อาจารย์ครับ
ขออนุญาตนำมุมมองจากภาคราชการมาแลกเปลี่ยนครับ
เมื่อก่อนผมทำงานอยู่ในหน่วยงานระดับอำเภอ มีคนทำงานประมาณ 20 คน พูดคุยสื่อสารกันรู้เรื่องครับ
ตอนนี้ ผมทำงานหน่วยงานระดับจังหวัด มีคนทำงาน 120 คน คุยกันไม่รู้เรื่องครับ เรื่องๆเดียวกัน สื่อสารไปคนละทิศคนละทาง มีการประชุมกันทุกอาทิตย์ครับ ทั้งประชุมหัวหน้างาน และ ประชุมทั้งสำนักงาน แต่การประชุม ก็ไม่ได้ทำให้การสื่อสารเกิดความเข้าใจกันดีขึ้นมามากมายนัก
ย้อนกลับมาที่องค์กร 20 คน แทบไม่ต้องประชุมเลยครับ มีเรื่องอะไรก็รู้เรื่องเป็นแนวเดียวกัน
เรื่องนี้ผมมองอย่างนี้ครับ
1. ปริมาณคน เหมือนกับการเล่นเกมกระซิบ การสื่อสารมีโอกาสคลาดเคลื่อน และที่สำคัญ มากคน มากความ ข้อมูลนิดเดียว มีการใส่ความคิดเห็น ใส่ความรู้สึกส่วนตัวลงไป จนข้อมูลเดิมบิดเบี้ยวไปหมด
2. คุณภาพการสื่อสาร คนหลายคน บางที มีแบ่งพวก แบ่งกลุ่ม มีอคติต่อกัน จึงทำให้นำไปสู่การมีอคติต่อข้อมูลบางอย่าง สื่อสารอย่างมีอารมณ์
เรื่องนี้ผมอยากต่อยอดมากๆเลยครับ...เป็นเรื่อง Institutionalization