กล้วยน้ำว้าเป็นพืชอาหารที่มีความใกล้ชิดกับคนไทยมาเนินนานแล้ว สมัยเก่าเด็กเกิดขึ้นมาก็จะใช้กล้วยน้ำว้าสุกงอมบดป้อนให้เด็กได้ทาน ซึ่งจะพบได้ตามชนบททั่วไปในปัจจุบัน แต่ตามหลักการแพทย์นั้นอาจทำให้เด็กท้องอืดเป็นอันตรายได้ถ้าเป็นเด็กแรกเกิด จึงควรใช้กับเด็กอายุ 4 เดือนขึ้นไป กล้วยน้ำว้าในเขตของจังหวัดชัยนาทว่า เกษตรกรนิยมปลูกกันมากบริเวณหลังบ้านพักและหัวไร่ปลายนา อีกทั้งปลูกในสวนไม้ผลที่ปลูกใหม่เพื่อเป็นร่มเงาให้กับไม้ผลที่ยังไม่แข็งแรงและเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งก่อนที่จะได้ผลผลิตหลัก ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกประมาณ 8,200 ไร่ แต่การดูแลรักษานั้นมีไม่มากนักส่วนใหญ่จะปล่อยทิ้งดังนั้นจึงขอให้ดูแลบ้าง เพียงหมั่นแยกหน่อทิ้งบ้าง ในกอหนึ่งๆ ควรมีกล้วยประมาณ 2 - 4 ต้น จะได้ไม่แย่งอาหารกัน เมื่อกล้วยออกดอก (ปลี) และติดผลเต็มที่แล้ว ควรตัดปลีที่เหลือทิ้ง ผลกล้วยจะโตได้รวดเร็ว และให้ผลขนาดใหญ่ ปัญหาที่พบคือผลผลิตที่มีออกมากในฤดูการจะมีมากทำให้ราคาตกต่ำ จึงส่งเสริมให้เกษตรกรนำมาแปรรูป เพื่อการเพิ่มมูลค่าผลผลิต ดังนั้นในช่วงนี้กล้วยน้ำว้าออกสู่ตลาดมาก จึงขอนำผู้อ่านรับทราบการแปรรูปกล้วยหลากหลายชนิดซึ่งเป็นจุดสาธิตการเกษตรของศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลธรรมมามูล โดยการนำพาดูงานจากนายชลอ เอี่ยมรอด นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ประจำตำบลธรรมมามูล อำนวยความสะดวกและประสานงานจึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย
นางอัมพร เผ่าพงศ์ศักดิ์ วิทยากรจุดสาธิตการเกษตรและประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรฯ วัย 52 ปี บ้านเลขที่ 241 หมู่ที่ 7 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท กล่าวว่า กลุ่มได้แปรรูปอาหารหลากหลายชนิดเพื่อการเพิ่มผลผลิตการเกษตร เช่น กล้วยกวน มะละกอแก้ว มะละกอแช่อิ่มอบแห้ง กล้วยอบกระเทียม มะพร้าวแก้วใส่สีธรรมชาติ และมะม่วงกวน ซึ่งได้รับ อย. แล้วหลายชนิดเช่น กล้วยกวน และมะละกอแก้ว วัสดุส่วนใหญ่รับซื้อจากสมาชิกทั้งสิ้น ทำให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายผลผลิตการเกษตรและการเข้าร่วมจัดทำผลผลิต จากความหลากหลายและความโดดเด่นในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ จึงมีเกษตรกรและกลุ่มงานสถาบันเกษตรกรเข้าศึกษาดูงานเป็นระยะ
นางอัมพร เผ่าพงศ์ศักดิ์ กล่าวถึงการทำกล้วยกวนซึ่งเป็นสินค้าที่ทำรายได้ดีว่า การทำนั้นไม่ยากนักแต่เป็นขนมที่ต้องใช้เวลาทำที่ยาวนานมาก โดยเริ่มจากการคัดเลือกกล้วยที่สุกงอมและไม่เน่าเสีย 10 กิโลกรัม ปอกเปลือกหันเป็นชิ้นเล็ก มะขามเปียก 1 กก. บดปนกับกล้วยให้เข้ากันด้วยเครื่องบดอาหารจนละเอียดจึงเทใส่กะทะจนหมด ใช้ไฟกลางหมั่นคนเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดีและให้ความร้อนกระจายทั่วสมำเสมอ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงเติมแบะแซ 1 กิโลกรัม หมั่นคนใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมง จะเหนียวข้น ตักใสถาดหนาพอประมาณ 1 เซนติเมตร เกลี่ยให้สม่ำเสมอ ทิ้งไว้จนเย็นจะเป็นก้อนแข็ง นำมาหั่นให้เป็นก้อนพอคำก่อนคลุกน้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม พริกป่น 200 กรัม เกลือปนผสมไอโอดีน 200 กรัม ก่อนที่จะสอดไปในหลอดกล้วยที่จัดทำควบคู่กันไป การผลิตกล้วยหลอดโดยคัดเลือกกล้วยน้ำว้าที่แก่จัดแต่ไม่สุกและลูกใหญ่พอประมาณปอกเลือกแช่น้ำธรรมดา ฝานบาง ๆ ตามความยาวแล้วม้วนกลมใส่ถาดผึงลมทิ้งไว้พอหมาด ๆ นำมาทอดในน้ำมันให้สุกเลืองพองาม เมื่อนำกล้วยกวนที่หันไว้สอดจนครบทุกหลอด ใส่ถาดนำเข้าตู้อบประมาณ 20 นาที เพื่อให้กรอบไม่เหม็นหืนเก็บไว้ได้นาน แต่ถ้าเป็นรสกระเจี๊ยบจะใส่น้ำกระเจี๊ยบแดงจากการต้มกระเจียบแห้ง 400 กรัมแทนมะขามเปียก การจำหน่ายบรรจุถุงละ 250 กรัม และ บรรจุถุงละ 400 กรัม ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ทำการกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร หรือที่เบอร์โทร. 056- 414830
จังหวัดชัยนาทมีความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางด้านพืชพันธุ์ธัญญาหาร อีกทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมากมายเหมาะที่จะได้มีการปรับปรุงคุณภาพผลผลิต ซึ่งผลิตภัณฑ์ของทางกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ของจังหวัดชัยนาทนั้นมีมากมายหลายอย่างท้าทายการลองลิ้มรสชาติหรือนำไปใช้ของผู้บริโภคซึ่งจะไม่ได้รับเพียงสินค้าที่ทรงคุณภาพเท่านั้นที่ได้รับแต่ยังมีส่วนสร้างงานสร้างรายได้ สร้างกำลังใจเกิดความคิดสร้างสรร ก่อเกิดความเข้มแข็งของชุมชนพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
ไม่มีความเห็น