ลองอ่านกันดูนะครับ เป็นรางานที่เคยทำตอนเรียนสิทธิมนุษยชนครับ
นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540มีผลใช้บังคับ ปวงชนชาวไทยก็ได้รู้จักกับคำว่า “สิทธิ” ทั้งในด้านความหมายและขอบเขตการในไปใช้มากขึ้น ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้มีการระบุคุ้มครองสิทธิในด้านต่างๆไว้เป็นจำนวนมาก ถึงกับสามารถกล่าวได้ว่านับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองมา ยังไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใดจะสามารถบัญญัติรับรองหลักการพื้นฐานของการคุ้มครองสิทธิได้ครอบคลุมและมากเท่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
สิทธิที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ต่างถูกปัจเจกชนหยิบยกมาใช้คุ้มครองสิทธิของตนแตกต่างกันไปในหลายลักษณะตามความต้องการของแต่ละบุคคล ซึ่งก็ปรากฏว่ามีหลายครั้งที่การอ้างสิทธิของปัจเจกชนคนหนึ่งจะมีผลกระทบไปถึงปัจเจกชนอีกคนหนึ่ง ซึ่งประเด็นที่จะนำมาศึกษากันในครั้งนี้จะมุ่งไปที่ผลกระทบต่อสิทธิของผู้ต้องหาในคดีอาญาอันเกิดจากการเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์ เนื่องจากในปัจจุบันการนำเสนอข่าวอาชญากรรมของหนังสือพิมพ์หลายฉบับมักจะลงรูปและเนื้อหาที่เป็นการระบุตัวบุคคลอย่างชัดแจ้งไว้เป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอข่าวด้วย โดยที่คนในสังคมเองก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป ประเด็นนี้สร้างความสงสัยว่าการนำเสนอข่าวในลักษณะดังกล่าวจะถือเป็นการละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีของผู้ต้องหาหรือไม่ ประการใด เพราะในขณะที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ได้บัญญัติหลักพื้นฐานในการประกันสิทธิของผู้ต้องหาไว้ว่า “ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้” แต่ในทางปฏิบัติแล้วผู้ต้องหาในคดีอาญากลับถูกล่วงละเมิดสิทธิดังกล่าวโดยหนังสือพิมพ์ หลักการในรัฐธรรมนูญถูกละเลยคล้ายกับว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ได้ถูกทำลายลงเพียงเพราะบุคคลตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา
ท้ายที่สุด ผู้ทำการศึกษาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลจากการศึกษาครั้งนี้จะขยายผลไปถึงการใช้สิทธิประเภทอื่นๆ ที่ผู้ใช้สิทธิพึงใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ใช้สิทธิของตนเกินเลยไปกระทบต่อสิทธิของบุคคลอื่น เพื่อที่คนในสังคมจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีสุขภายใต้สังคมที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชน
เด๋วมาต่อครับ
มี 4 บทอ่ะครับ
นอต
ก็เกิดข้อสงสัยเหมือนกันว่าสื่อมวลชนมีขอบเขตในการทำข่าวแค่ไหน...นอกจากเรื่องสิทธิผู้ต้องหาที่พี่นอตเขียนแล้ว เรื่องของผู้เสียหายเหมือนกัน ถ่ายภาพจนรู้ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครหมดละ เขาใช้แค่แถบดำๆเล็กมาคาดที่ตาเท่านั้นเองอ่ะ..แบบนี้เขาเรียกคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแล้วหรือ จริงๆแล้วสื่อควรจะเป็นตัวกลางในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนได้ดีที่สุด แต่สื่อในบางครั้งกลับเป็นตัวทำลายสิทธิความเป็นมนุษย์ของคนเร็วและร้ายกาจที่สุดเชียว...น่าคิด
ใช่แล้ว เนื่องจากปัจจุบัน ในการทำข่าวนักนักข่าวเอง มักจะถ่ายภาพทำให้เห็นรูปร่างน่าตาของผู้กระทำผิด ซึ่งตามกฎหมายแล้วรัฐธรรมนูญ บุคคลไม่มีความผิดเว้นแต่จะได้รับโทษจนถึงที่สุด
การที่นักข่าวทำข่าวโดยการให้เห็นน่าตา รูปร่าง ทางสื่อนั้น เป็นการทำให้ผู้ต้องหา ถูกลงโทษทางสังคมมากกว่าจะรอการพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล
นอตอยาก up load file เอกสารนอตลงที่ Gotoknow อ่ะครับ แต่ยังหาที่แปลง file จาก doc. เป็น pdf. ไม่ได้เลยคับ
อ้อ . . . รายงานนี้ทำตอนที่เรียนกฎหมายสิทธิมนุษยชนกับอาจารย์นพนิธิ สุริยะ นะครับ
นอต
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าใจมาก
หง่ะ ลืมไปแล้วด้วยว่าติดค้างบทความนี้อยู่
เด๋วจะรีบเอามาลงครับ
นอต
การที่บุคคลใดก็ตามตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาก็มักจะมีการเสนอข่าวจากสื่อมวลชนจากแง่มุมของตำรวจที่ทำคดีให้สำภาษณ์
ซึ่งในบางคดีเมื่อผ่านกระบวนพิจารณาในชั้นศาลแล้วปรากฎว่าจำเลยมิได้เป็นผู้กระทำความผิด ก็มักจะเห็นได้ว่าไม่ค่อยมีการนำเสนอข่าวถึงความบริสุทธิ์ของผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งเป็นการแตกต่างกับกระบวนการในชั้นสอบสวนหรือช่วงที่เริ่มเป็นคดีที่สื่อมวลชนมักจะเสนอข่าวในตอนนั้นเป็นหลัก
ดังนั้นจำเลยที่กลายเป็นผู้บริสุทธิ์ตามคำพิพากษาของศาลจึงได้รับความเสียหายจากการนำเสนอของสื่อไปแล้วตั้งแต่ต้น ซึ่งมักจะไม่ได้รับการเยียวยาแก้ใขจากสื่อที่นำเสนอหากปรากฎว่าเขาผู้นั้นเป็นผู้บริสุทธิ์จากคำพิพากษาของศาล