การแก้ไขปัญหาความยากจนของชาวนา ง่ายกว่าที่คิด พบทางเอาชนะปัญหาทางยุทธศาสตร์ง่าย ๆ หลายวิธี อ่านอย่างมีสติจะเกิดปัญญา ปัญหาความยากจนผมคือคนแก้ได้ ถ้าชาวนาอยากรวยผมเป็นคนช่วยได้


โดยเฉพาะปัญหาของกลุ่มชาวนา เป็นปัญหาเส้นผมบังภูเขา

การแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกร ต้องรู้ ต้องคิดแบบยุทธศาสตร์ เพราะเป็นปัญหาที่เกษตรกรแพ้ทางยุทธศาสตร์มาตลอดทุกด้าน คือ แพ้แบบไม่ต้องรบ เพราะไม่รู้เขา ไม่รู้เรา ไม่รู้กลยุทธ์ มีสถานะเป็นทรัพยากรบุคคลให้นักธุรกิจการเมืองบริหารจัดการหาผลประโยชน์เท่านั้นเอง ณ วันนี้ ทุกสถานการณ์ทางสังคมมนุษย์มุ่งสู่ปัญหาขัดแย้งเลวร้ายรุนแรงมากขึ้น คดโกง ถึงฆ่ากันตาย ความอดอยากยากจนเป็นภัยขนาดใหญ่อันหนึ่งที่จะทำลายล้างมนุษย์ด้วยกัน มนุษย์ชาติยึดติดยอมโง่เง่าอยู่ใต้อำนาจความโลภ กล้าเห็นแก่ตัวเพื่อเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

กรณีปัญหาความยากจนของชาวนา ท่านลองนึกดู่ว่า ถ้าครอบครัวไหนยากจน คนที่รับผิดชอบคือหัวหน้าครอบครัวใช่มั้ย บริษัทไหนขาดทุน ผู้รับผิดชอบคือผู้จัดการบริษัท ตำบลไหน จังหวัดไหน ประเทศไหนยากจน ก็บ่งบอกถึงความด้อยปัญญาหรือความไม่รับผิดชอบของผู้บริหารระดับนั้น ๆ เช่นกัน ปัญหาความยากจนมองดูเป็นปัญหาใหญ่แต่แก้ไขง่าย ๆ คล้ายเส้นผมบังภูเขา การแก้ปัญหาต้องครบวงจร ดับทุกต้นเหตุของปัญหาให้สนิท ไม่ต้องรีบร้อน อ่านใจเย็น ๆ ให้เข้าใจ ไม่ต้องเสียเวลาไปหาวิธีแก้ไขที่ไหนอีก  

พุทธศาสนาสอนให้คนฉลาด มีปัญญา รู้จักประมาณตน บอกทางพ้นทุกข์ ทุนนิยมเป็นลัทธิแห่งความโลภ บ่อเกิดของปัญหาต้นเหตุแห่งทุกข์ เราทิ้งปัญญา ไปอยู่กับปัญหาเพาะโลภ เห็นเงินเป็นพระเจ้า ไม่รู้จักฝึกตน เตือนตน สอนตน ปล่อยให้คนอื่นมอมเมาหาผลประโยชน์ คนเราจะรวยจะจนก็เริ่มต้นที่ปัญญานี่แหละ เรามีพุทธศาสนาแต่ไม่รู้คุณค่าของแก้ว 3 ประการ เป็นไก่ได้พลอย "มองทุกอย่างให้เป็นปัญญา จะเห็นทางแก้ไขทุกปัญหา" ข้าพเจ้าไม่อยากเห็นคนเป็นทุกข์ สังคมอริยะมีหลายทางไป ถ้าไม่มีสติก็มองไม่เห็น ภูตรนรกย่อมพอใจที่จะอยู่ในนรก ชี้ทางสวรรค์ให้ก็ไปไม่ถูก ทางแห่งทุกข์ คือ นรกขุมใหญ่ 5 ขุม 1.ปาณาติปาตาฯ กี่%  2.อะทินนาทานาฯ กี่%  3.กาเมสุมิจฉาจาราฯ กี่% 4.มุสาวาทาฯ กี่%  5.สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานาฯ กี่%  เส้นเหล่านี้กว้างใหญ่คนไปกันเยอะ ไปสะดวก รกด้วยภูตรนรก สิ่งมัวเมา  หูทิพย์ ตาทิพย์ ยานพาหนะทิพย์ อาหารทิพย์ ของวิเศษมีมากมาย เพียงไม่รู้แยกแยะสุข ทุกข์ นรก สวรรค์ออกจากกัน

การฟังธรรม และการพูดความจริงคนไทยไม่สนใจ สนใจแต่เรื่องไร้สาระดูหนังฟังเพลงเป็นสังคมที่อ่อนแอทางปัญญา ติดอยู่กับเรื่องไร้สาระ ปลุกอย่างไรก็ไม่ตื่น จึงเป็นเรื่องที่ยากต่อการแก้ไขปัญหา เพราะคนไทยขาดสติที่จะคิดอ่าน ถ้ายังไม่มีอะไรมากระแทกแรง ๆ ยังไม่ถึงคราเดือดร้อนก็ไม่สนใจอะไร พอเดือดร้อนก็นึกอะไรไม่ออก  นี่คือสาเหตุที่เมืองไทยไม่พัฒนา  มีปัญหาวุ่นวาย ลากจูงกันด้วยสิ่งของง่ายกว่าใช้ความจริง เวลาเลือกตั้งก็เลือกตามเงินซื้อเสียง คนไหนไม่ซื้อไม่แจกไม่ได้รับเลือกตั้ง แบบนี้จะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไรในเมื่อเป็นคนทำลายมันเอง  แล้วจะไปประท้วงทวงถามหาประชาธิปไตยจากใคร รู้ว่าโกงก็ยังชื่นชอบเพาะเขาแบ่งให้บ้าง การพูดความจริงอย่างนี้คนไม่สนใจเท่ากับให้ของแจก เวลาหาเสียงมีใครบอกมั้ยว่าจะเข้าไปโกง เข้าไปแล้วเขาก็โกงทุกครั้งก็ยังเลือกซ้ำซาก ฉลาดตรงไหนละครับ  ประชาธิปไตยมันหายไปพร้อมกับฉิบแล้ว

นี่คือภัยเศรษฐกิจเข้าทำร้ายคุณธรรมในจิตใจคน ถ้าเขาไม่จนคงไม่ชอบของแจก ถ้าเขารู้คงไม่เลือกนักการเมืองขี้โกง การแก้ปัญหาคือ ต้องทำให้เขาไม่จน ทำให้เขารู้ ฉลาดรู้เท่าทันกัน ป็นสังคมอริยะ รู้จักพอ รวยจากการให้ ได้จากความสามัคคี อยู่ดีมีสุขทุกคน แล้วคนจะรักสังคมตัวเอง ไม่ชอบการทุจริต สอนให่คนในสังคมคิดอ่านมองการณ์ไกล ไม่ใช่ทำให้ประชาชนโง่เข้าไว้จะได้ปกครองง่าย โกงง่าย ผลคือไร้ศักยภาพอย่างวันนี้ พระศรีธรรมุณิเทพ กล่าวว่า ประทีป คือเครื่องมือส่องเดินทางในเวลากลางคืนของคนโบราณ แต่ธรรมะเป็นประทีปส่องทางชีวิตทั้งกลางวันทั้งกลางคืน คนที่มีปัญญาจะรู้ว่าคำพูดนี้เป็นจริงอย่างไร หลักพุทธศาสนานี่แหละสอนให้คนฉลาด ดี มีปัญญา กล้าอย่างมีธรรม แต่ความกล้าหาญต้องไปเรียนจากท่านซุนวู ชาวพุทธทิ้งปัญญาไปหาความโลภ โกรธ หลง เพราะมีกิเลส ตัณหา ราคะ อคติ ไม่รู้จักเปิดสมองมองทางข้างหน้า ไม่มีธรรมะ มีแต่เดินตรงสู่ความทุกข์ยาก ชวนเสวนาธรรมชวนพูดความจริงเขาก็เดินหนีดังกับเราไปขอทานเขา

ความยากจนเป็นปัญหายุทธาสตร์ขนาดใหญ่ ปรัชญาเกษตรการเมือง เป็นปรัชญาเชิงประยุกต์แนวบริหาร สำหรับแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรโดยเฉพาะ ใช้เวลาอบรม  3 วัน  ทำให้เสร็จที่ละจังหวัด  ปีเดี่ยวเห็นผล  ความยากจนจะไม่ย้อนกลับมาอีก  ยิ่งนานยิ่งรวย  โรคความยากจนรักษาได้เหมือนหมอรักษาคนไข้  ใช้ความจริงรักษา แก้ไขไปตามอาการของโรค  ปัญหาเก่าจะหมดไป ปัญหาใหม่ไม่กล้าเกิด  วางยุทธศาสตร์เฉพาะเป้าหมาย  ใช้ปัญญาสร้างความสามัคคี มีพลังธรรมชาติช่วย  อยู่เฉย ๆ ก็ชนะได้  อาศัยพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก  บริหารจัดการระบบให้ครบวงจร  รวยได้ง่าย ๆ  รวยกว่าคนขายน้ำมัน  แค่เราหยุดสร้างปัญหา  ใช้สติสร้างปัญญา  พยายามเอาชนะปัญหา  ไม่ใช่เอาชนะกันเองด้วยการเอาปัญหามาชนกันทำให้มันเกิดอารมณ์  แบบนี้เป็นคนสิ้นคิด  คนไม่มีปัญญาคุยกันแล้วจะเกิดปัญหามากกว่าเกิดปัญญา จากนั้นก็หันหลังไม่คุยกัน นี่ไม่เป็นนักประชาธิปไตยเสียเลย ท่านลองคิดูว่า บ้านเมืองเราอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ ถ้าไม่มีความคิดติดโง่ สังคมเราจะมีความสุขความเจริญขนาดไหน ถ้าจิตใจคนไม่เจริญ บ้านเมืองก็ไม่เจริญ นี่คือ "จุดเปลี่ยน" ถ้าแข่งขันกันทำความดีในสังคมบ้านเมืองเราจะน่าอยู่ที่สุดในโลก ทำไม่ไม่คิดไม่ทำละถ้าคนฉลาดกว่าสัตว์อื่นจริง เรามี ดร.เกือบแสนคน ป.โทหลายแสน ป.ตรี นับล้าน หรือมีปริญญาไว้เพื่อรับจ้างเขากิน

ความจริงที่เป็นสัจในธรรมชาติ คือ  ปัญญาน้อย ปัญหาจะมาก  ; ปัญญามาก ปัญหาจะน้อย  ปัญหาเกิดจากความไม่รู้  ไม่มีปัญญา หรือเกิดจากความรู้ที่ไม่มีปัญญาเป็นของตนเอง  เรียกว่า งมงาย  เมื่อคนเราหลง ก็งมงาย รู้ไม่จริง รู้ไม่แจ้งจึง เรียกว่าโง่ แก้ไขปัญหาไม่ได้ แก้ไขไม่ถูก  เช่น คนป่วยไปหาหมอ  ต้องบอกความจริงจึงรักษาโรคหาย  ถ้าป่วยใกล้ตายแต่ไปรักษากับหมอทรงเจ้าเข้าผีกี่หมอก็ไม่หาย  นี่เรียกว่า งมงาย  จะทำอะไรต้องอ้างพิธีกรรม พิธีการถือฤกษ์ถือยามให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์  ความงมงายแบบนี้มีอยู่ในชนทุกชั้น  ทุกชาติ  ทุกภาษา  นี่เพราะไม่รู้แจ้งในสัจธรรมของโลก ลองเปิดตามดวงที่สามมองดูโลกแล้วท่านก็จะรู้ มันสามารถมองข้ามมิติ ทะลุเวลาเห็นอดีต อนาคต และปัจจุบันได้ ผิดจากตา 2 ดวงที่มองเห็นได้เฉพาะข้างหน้า ณ เวลาปัจจุบันเท่านั้น ข้างหลังมองไม่เห็น วันวาน วันพรุ่งนี้มองไม่เห็น

คนรู้ กับ คนไม่รู้ จึงมีปัญหาแตกต่างกัน  จนรวยต่างกัน  สัจจะในสังคมไทย คือ รู้เท่ากินครึ่ง รู้ไม่ถึงกินหมด  นี่เป็นต้นเหตุของปัญหาอย่างหนึ่งที่เกิดจากความโลภ ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ไม่รู้จักพอ  ลงทุนสร้างปัญหาไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน มีความรู้แต่เป็นคนไม่ดี  ดังคำว่า "รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี" นี่ไม่สอนกันให้รับผิดชอบต่อสังคม  ไม่มีวินัยต่อส่วนรวม  ต้องรอให้ตกอยู่ในสภาพอย่างอิสราเอล ญี่ปุ่น หรือไรกัน  เวียดนามเขามีปัญญาจะคุยกันจึงเอาชนะปัญหารวมประเทศได้  เขาออกเดินทีหลังยังพัฒนาประเทศตามมาทันเราเลย  หรือจะรอให้ย่อยยับกว่านี้ถึงทางตันหมดทางไปแล้วค่อยมาเริ่มต้นคิด  นั่นคือ เอกลักษณ์ของคนโง่ที่เกิดจากความงมงาย   คนที่มีความรู้มองโลกด้านเดียวตามที่เรียนรู้มาแม้จะเป็น ศ.ดร. คนไหนก็แก้ปัญหานี้ไม่จบ เป็นใครก็มืด 8 ด้าน ถ้ารู้ไม่เท่าทันปัญหาจริงทั้งระบบ

ทางเดียวที่จะหายจน คือ รวย  รวยจากการให้ ได้จากความสามัคคี คำว่า "รวย" ต้องนิยามไว้ที่ ทุกครอบครัวมีปัจจัย 5 เพียงพอ มีความรู้ สติ ปัญญา และศักยภาพทางสังคมพร้อม เมื่อรวยทุกคนยิ่งส่งผลให้มีอำนาจซื้อขายมากขึ้น  เพราะทุกคนต้องการมีชีวิตที่สุขสบาย  มีอะไรก็ได้ซื้อ ได้ขาย  ไม่ใช่ปล่อยให้ระบบเศรษฐกิจอ้างกลไกการตลาดเอาเปรียบกัน รวยข้างหนึ่ง จนข้างหนึ่งโดยระบบทุนอย่างในวันนี้  การเพิ่มผลผลิต การสร้างงานรับจ้าง การขายแรงงานไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาความยากจน  แต่เป็นกับดักของทุนนิยมในการกดขี่เอาเปรียบคนในสังคมเดียวกันให้จนลง ตกเป็นทาสของระบบ หรือไม่ก็เป็นความไร้ปัญญาของผู้นำ บ่งบอกถึงภาวะทางภูมิปัญญาของผู้บริหาร  คนจริงเท่านั้นที่จะกล้ายอมรับความจริง  คนกล้ายอมรับความจริงเท่านั้นจึงจะแก้ไขปัญหานี้ได้จริง  ปัญหาเก่าจึงหมดไป ปัญหาใหม่ไม่กล้าเกิด  เรียกว่า รู้จักเอาชนะปัญหาด้วยปัญญา  คนที่จะมีปัญญาอย่างนี้ได้ต้องมีสติ มีวิสัยทัศน์ มองโลกกว้าง ไกล ใหญ่ ยาว คิดใหญ่ ทำใหญ่ มองการณ์ไกลหลายชั้น วางแผนระยะยาว  ถ้าผู้นำไม่ดี แต่ผู้ตามดีเป็นประชาธิปไตยก็ควบคุมกันได้ ถ้าผู้นำดี ผู้ตามไม่ดี ก็เดินตามหลังผู้ใหญ่ได้  ถ้าผู้นำไม่ดี ผู้ตามไม่ดีจะมีแต่ปัญหาไม่รู้จบ  ทำให้คนส่วนใหญ่รวย ประเทศไทยก็รวย กลัวบ้านเมืองเจริญหรือไง ใครคือคนเห็นแก่ตัวกลัวบ้านเมืองเจริญ อยากรวยคนเดียวท่านคงรู้ เพราะผู้นำทางสังคมขาดสติ ตามืดบอดด้วยความหลง ความโลภใช่มั้ย

ทำไมผมจึงรู้จักปัญหาและวิธีแก้ไขปัญหาความยากจนที่ดีที่สุด ขอเรียนว่า ผมอาศัย 5 หลัก ได้แก่ หลักสัจธรรม หลักพุทธศาสนา หลักพิชัยสงคราม ซุนวู  หลักแห่งการเปลี่ยนแปลงของอี้จิง หลักวิสัยทัศน์ ประกอบกับหลักวิชาการทางสังคม 8 ด้าน ต้องเป็นนักคิดที่มีวิสัยทัศน์กว้าง ไกล สูง ใหญ่ ยาว  ผู้ให้โอกาสผม คือ การศึกษาผู้ใหญ่ ถ้าไม่มี (กศน.ร้อยเอ็ด) ไม่มีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.)  และถ้าไม่มีโครงการพิเศษของมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ผมคงหมดปัญญาที่จะคิดแก้ปัญหายุทธศาสตร์นี้เช่นกัน   จากประสบการณ์ตรงผมเป็นชาวนาที่หมดโอกาสทางการศึกษาต้องสู้อย่างที่คนทั่วเขาไปไม่สู้  มารับราชการ ตำแหน่งนักบริหารงานท้องถิ่น ผมพยายามคิดหาวิธีแก้ปัญหาที่เจ็บช้ำฝังจำในชีวิตจิตใจของผมมาตลอดเวลา  จึงรู้ว่า ข้าราชการและนักการเมืองชั่ว ๆ เขาทุจริตกันแบบไหน อย่างไร  ถ้าทำให้คนฉลาดจะไม่โกง เพาะโกงแล้วเกิดปัญหามากกว่าเกิดปัญญา รู้เท่ากินครึ่ง รู้ไม่ถึงกินหมด ต้องทำให้คนรู้เท่าทันกัน แล้วจะโกงกันไม่ได้ง่าย ๆ แบบวันนี้ วิชาการ 8 ด้าน ได้แก่

1. ด้านการเมือง อะไรคือหัวใจของการเมืองประชาธิปไตย ใช้ยุทธศาสตร์ไหน ทำอย่างไรไม่มีใครกล้าทุจริต เป้าหมายคืออะไร อยู่ตรงไหน ใช้ยุทธวิธีอะไร

2. ด้านเศรษฐกิจ ทำอย่างไรให้มีแต่คนรวย ใช้ยุทธศาสตร์อะไร เป้าหมายคืออะไร อยู่ตรงไหน ใช้ยุทธวิธีอะไร

3.ด้านการศึกษา เรียนอย่างไรให้มีปัญญา เป็นคนดี มีความรู้ มีคุณธรรม เก่ง กล้า ความสามารถ ฉลาด มียุทธศาสตร์อย่างไร เป้าหมายคืออะไร อยู่ตรงไหน ใช้ยุทธวิธีอย่างไร

4. ด้านสังคม ปกครองอย่างไรให้สังคมสงบสันติสุข เที่ยงธรรม ยุทธศาสตร์ไหน เป้าหมายคืออะไร อยู่ตรงไหน ใช้ยุทธวิธีอะไร

5. ด้านสุขภาพอนามัย ทำอย่างไรให้สุขภาพปลอดภัย อนามัยสมบูรณ์ แข็งแรง อายุยืนยาว วางยุทธศาสตร์อย่างไร เป้าหมายคืออะไร อยู่ตรงไหน ใช้ยุทธวิธีอย่างไร

6. ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำอย่างไรให้อุดม สมดุล ยุทธศาสตร์ใด เป้าหมายคืออะไร อยู่ตรงไหน ใช้ยุทธวิธีอะไร

7. ด้านพลังงานเทคโนโลยี ทำอย่างไรให้ทุกคนมีใช้ ผลิตได้เอง ใช้ยุทธศาสตร์อะไร เป้าหมายคืออะไร อยู่ตรงไหน ใช้ยุทธวิธีแบบไหน

8. ด้านความมั่นคง ทำอย่างไรให้เข้มแข็ง เจริญรุ่งเรือง ใช้ยุทศาสตร์อะไร  เป้าหมายคืออะไร อยู่ตรงไหน ใช้ยุทธวิธีแบบไหน

เขาไม่เลิกทุจริตแน่นอนเพราะมีรางวัลที่ได้จากการทุจริต มาตรฐานของข้าราชการไทย โกงได้ทุกเรื่อง ทุกที่ ทุกเวลา ทุกสถานการณ์ หน่วยงานทั่วไปก็โกงตามปกติ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีหน้าที่โกง หน่วยงานตรวจสอบการทุจริตก็ยังโกง หน่วยรักษาความเป็นธรรมก็โกงไม่ให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นในสังคม ข้าราชการมีหน้าที่บริการสาธารณะรับใช้ประชาชน มีปริญญาแต่ไร้ปัญญา กลายเป็นเครื่องมือชั่ว ๆ ทำร้ายบ้านเมืองตัวเอง จนไทยเป็นแชมป์ทุจริต นี่คือสาเหตุความวุ่ยวายและตอกย้ำให้เกิดความยากจนจากการเมือง เป็น  1 ใน 180  สาเหตุ  จาก 8 ด้าน   เราควรอุปถัมภ์กันแค่ในพรรคการเมือง พอแล้ว เข้าสู่ระบบราชการต้องบริการสาธารณะเท่านั้น วันนี้ญาติพี่น้องยังทำนาอยู่และจะทำต่อไป   ผมต้องใช้ปัญญาทั้งหมดที่มีอยู่ไปทดแทนคุณข้าวของชาวนา แก้ไขปัญหาให้เกษตรกร  ด้วยวิธีที่ได้ผลเด็ดขาด สามารถพึ่งพาตนเอง  สู้กับตัวเอง ไม่ต้องสู้กับใครเลย ทำให้ทุกคนรวยได้ด้วยความเสมอภาค เท่าเทียม ทั่วถึง และเป็นธรรม ถ้าลงมือทำจริงหายจนจริง  รวยอย่างยั่งยืนมั่นคง  หลายคนสงสัยว่าจะรวยได้อย่างไร  ถ้าท่านใช้ความจริง และคิดอย่างไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ไม่งมงาย ไม่เพ้อเจ้อ ท่านก็คิดเองได้ แต่อย่าคิดเกินความเป็นจริง ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้  รู้จักความจริง ทำจริง ผลก็เป็นจริง ทุกคนจะร้องอ๋อเพาะหนีไม่พ้นความจริง  ใช้สติแล้วจะเข้าใจยอมรับความจริงทันที  ว่าเป็นไปได้จริง  อันจะส่งผลทำให้คนไทยส่วนใหญ่รวยขึ้น พัฒนาศักยภาพทรัพยากรบุคคลได้เร็วขึ้น เพิ่มอำนาจในการแข่งขันระหว่างประเทศได้ดีขึ้น

คนในสังคมของเราด้อยจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ไม่ช่วยกันตรวจสอบสังคมภาครัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐส่วนมากขาดจิตสำนึกในหน้าที่ ยอมเป็นทาสเงินของนักธุรกิจการเมือง เมืองไทยจึงไม่ตื่นตัวพัฒนาแข่งขันระดับประเทศ เพราะยังไม่ประสบชะตากรรมแบบญี่ปุ่ญหรืออิสราเอล มีแต่ความอยากได้ผลประโยชน์ส่วนตัวทางลัด ไม่หวังผลระยะยาวต่อบ้านเมือง เพราะด้อยปัญญาขาดวิสัยทัศน์ เรื่องดี ๆ จึงสอนกันไม่ได้ เรื่องร้าย ๆ สอนง่ายเป็นเร็ว รู้ว่าตัวเองมีปัญหาแต่ไม่แสวงหาปัญญาแก้ไข แล้วฝันจะเป็นจริงได้อย่างไร มองหาแต่สิ่งของแจกที่เขาใช้เป็นเหยื่อล่อ พอหลงเหยื่อก็ตกเป็นเหยื่อ เห็นแล้วเวทนาแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะไม่รู้สึกตัว ไม่ยอมสลัดกิเลสเล็กน้อยเพื่อเอาลาภก้อนใหญ่ให้ตน

วันนี้ผมมีปัญญาเพียงพอสำหรับที่จะแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรได้ง่าย ๆ หลายรูปแบบ ทั้งใน ระดับครอบครัว ระดับตำบล ระดับจังหวัด ระดับประเทศ และกลุ่มประเทศเกษตรกรรม  ผมอยากจะบอกทุกคนว่า เราเลิกจนกันได้แล้ว  เราต้องใช้สติปัญญานำหน้ากำลัง  ความรู้ด้านเดียวแก้ปัญหานี้ไม่ได้  ต้องใช้ความรู้แบบองค์รวมผสมผสานให้เกื้อกูลกัน  ใช้ความจริง ใช้ความสามัคคี  มีเตตาต่อกัน  มีหลักการ มีโครงสร้าง มีกระบวนการที่เหมาะสมในการออกแบบความคิด ที่นำไปสู่การปฏิบัติได้   ปัญหาความยากจนที่ผมวิจัยอิสระมา 6 ปี ค้นพบแนวทางแก้ไขแล้ว  ข้าพเจ้าไม่อยากเห็นสภาพ ไม่อยากให้มีคนอดอยากยากจน ไม่อยากเห็นคนเบียดเบียนกัน สนใจฟังการบรรยายติดต่อสอบถาม [email protected]

ถ้าไม่มีระเบียบ จะไม่เป็นระบบ ฝึกฝนพัฒนาไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ สู้กับใคร ที่ไหน เมื่อไรก็แพ้ ความไม่มีวินัย จะทำให้คนไร้ปัญญา ขาดความสามัคคี  กลัวปัญหา ตกเป็นผู้แพ้ทางยุทธศาสตร์  ถ้าไม่มีสติแม้รู้อยู่เห็นอยู่ก็ไม่เกิดปัญญา  “ขาดสติ สตังค์” หมายความว่า ขาดสติก็ไม่มีปัญญาจะหาสตางค์ หาเงินไม่เป็น  เขาขายน้ำมันยังรวยได้  คนไม่มีสติขายข้าวก็จน  คนไม่มีปัญญานอกจากหาทรัพย์ไม่ได้ยังรักษาทรัพย์ที่มีอยู่ไว้ไม่ได้  ต้องขายทรัพย์นั้นไป  ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย (สัจธรรม)  แต่ความจริงทำให้คนตายได้ในสังคมที่ด้อยการพัฒนา  ความจริงจำเป็นต่อการแก้ไขปัญหานี้อย่างมาก  ถ้าไม่ใช้ความจริงก็แก้ไขปัญหานี้ไม่ได้เลย  เหมือนคนไข้ไม่บอกอาการป่วยที่แท้จริงกับหมอเพราะอาย  ผลร้ายก็ตกกับคนป่วยเอง  คือคนป่วยไม่รับการรักษาที่ถูกต้อง  ถ้าฟังแบบไม่คิด ก็ไม่เข้าใจ  ถ้าไม่รู้ ไม่ใช้ความจริงให้เพียงพอก็หาทางแก้ไขปัญหานี้ไม่จบ  แค่ลงทุนวันละบาทสามารถรวยได้ จริง

ปัญญาน้อย ปัญหาจะมาก  : ปัญญามาก ปัญหาจะน้อย  นี่คือ เครื่องมือชี้วัดศักยภาพของคน ความรู้กับปัญญาเป็นคนละเรื่องกัน แต่ต้องใช้ควบคู่กัน  บางคนมีความรู้สูงแต่ไร้ปัญญา ไม่รู้จักนำออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์  เรียกว่า ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด เพราะเรียนรู้มาแบบเข้าใจเนื้อก็หาสอบผ่าน แต่ไม่รู้จักที่มา ที่ไป ไม่ใช้ปัญญาของตนเองตรวจสอบความถูก-ผิด จริงไม่จริงก่อนเชื่อ  เรียกว่ารู้ไม่จริง รู้ไม่แจ้ง  ไม่คิด ไม่ติดตามเพื่อจะพิสูจน์  เชื่อตามครูสอน เชื่อตามตำรา นี่คือ ความงมงาย ที่ไม่รู้จักใช้พลังของการเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับเหตุการณ์ ยุคสมัย  เรียกว่า ไร้ปัญญา ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ประสบอยู่ได้  ซ้ำร้ายกลับใช้ความรู้ที่มีอยู่สร้างปัญหา   78 ปีที่เป็นประชาธิปไตย  ประเทศเรามีปัญหาน้อย หรือ มีปัญหามาก นี่คือคำตอบที่แสดงตัวชี้วัดศักยภาพของคนไทย วิธีแก้ไขปัญหาความยากจนที่ผมค้นพบก็เช่นกัน ถ้าเขียนบอกไปโจ้ง ๆ ก็เป็นภัยกับคนจนมากกว่าเกิดผลดี เพราะความไม่รู้ จึงถูกชักนำง่ายแยกแยะไม่ออกว่าอันไหนจริงเท็จ  ไม่รู้เขา ไม่รู้เรา เดียวนี้นักธุรกิจการเมืองเขานิยมหลอกคนไม่รู้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพียงเพื่อแสวงหาความชอบธรรมในการเข้าไปบริหารจัดการผลประโยชน์ของสังคมให้กลับไปสู่อาชีพตัวเองเท่านั้น  ทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติทำเป็นเครื่อข่ายโยงใยกันเป็นขบวนการ สายใครสายมันคนในสังคมถึงแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งสี แตกแยก ขัดแย้งกัน ตีกัน การเมืองทุกท้องถิ่น การเมืองระดับชาติเป็นแบบนี้ เป็นการเมืองปัญญาอ่อนทั้งระบบ หรือระบบเดินตาม สังคมยิ่งอ่อนแอบ่อนทำลายตัวเองทุกวัน

ปัญหาของประเทศ คือ ความยากจนของคนส่วนใหญ่อาชีพเกษตร แก้ไขไม่ได้ หรือความจริงเขาไม่แก้ไข แก่ไขแต่ปัญหาอาชีพของผู้เข้ามาบริหารประเทศ  บ่มปัญหาไว้ให้เกษตรกรทำผลผลิตให้ ดูเขารวย ช่วยเขาทำ ต่อไป นี่คือ "หลักการบริหาร" ที่เขาทำกันอยู่ ดูตัวอย่างนักการเมืองในสภา จบ ดร. เรียนกฎหมาย ทำไมไม่รู้อะไรถูก อะไรผิด อภิปรายเรื่องเดียวกันก็ไม่เห็นว่ามีปัญญาจะทำความเข้าใจกันได้ว่า อันไหนดีมีประโยชน์ต่อบ้านเมืองเพื่อเอาชนะปัญหาพัฒนาสังคมร่วมกัน มีแต่พูดอย่างทำอีกอย่างหาทางเอาชนะกันเอง อย่างนี้คือ มีความรู้แต่ไร้ปัญญาที่จะเอาชนะปัญหา เพราะโลภ มีกิเลส ซุกซ่อนอยู่ ใช้ความไม่จริงใจในการทำหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์  ปัญหาเก่าไม่เคยหมดไป ปัญหาใหม่ก็สร้างขึ้นอีก ไม่สมกับที่เป็นชาวพุทธ สถาบันไหนให้ปริญญาเอกไปทำไมสอนให้คนเป็นแบบนี้ได้ ยึดมั่นถือมั่นจนบ้าสัญลักษณ์ บ้าสถาบัน บ้าองค์กรก่อเงื่อนไขให้เกิดความแตกแยก ไม่สำนึกในหน้าที่ต่อสาธารณะ ไม่รู้จักประโยชน์ของสามัคคี ไม่รู้จักแยกแยะเรื่องราว บทบาท อำนาจ หน้าที่ โกงกันเป็นอาชีพไม่มีละอายต่อสังคม เขายังอยู่ได้ดีเพราะมีคนในสังคมรู้สึกชอบ บ่งบอกถึงกลุ่มผู้นำในสังคมส่วนหนึ่งเป็นคนแบบเดียวกัน นี่เชื่อเพราะเห็นว่าเขาเป็น ดร.ก็โง่ตกเป็นเหยื่อของ ดร.พวกนี้

แต่ผมเป็นชาวนา ผมเลยอยากแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรที่ยากจนทั้งประเทศพร้อมกัน  ผมเป็นเกษตรกรมาแต่เกิด เติบโตมากจากข้าวในนา  ท่านลองคิดแบบวิญญูชนดูสิว่า  ถ้าสังคมมีแต่คนจน คนจะแก่งแย่งแข่งขันเบียดเบียนกันอย่างไร ปัญหาในสังคมมันจะเกิดอะไรมากขึ้น (ซ้าย)  ตรงกันข้าม (ขวา) ถ้ามีแต่คนรวย คนจะแข่งขันกันทำความดี สังคมจะน่าอยู่อย่างไร เราควรจะไปทางไหน ระหว่างซ้ายกับขวา ทำอย่างไรในการไป ไปกับใคร ไปแบบไหน ไปด้วยอะไร ไปเมื่อไร ไปถึงไหน  ไปเพื่ออะไร ทำไมต้องไป ทำไมผมและทุก ๆ ท่านจะต้องช่วยกันทำ ใครจะฆ่ากันตายชั่งเขา เกษตรกรเราจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองฝ่ายใดเลย จนกว่าจะมีพรรคการเมืองของตัวเองพรรคเดียว ตั้งแต่หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค ต้องเป็นเกษตรกรเป็นคนพื้นบ้านเท่านั้น

พอผมเปลี่ยนอาชีพจากชาวนามารับราชการระดับบริหารท้องถิ่น จึงได้รู้ด้วยตัวเองว่า ข้าราชการไทยเขาทุจริตกันอย่างไร นี่คือสาเหตุที่อาชีพของพ่อแม่ผมถูกทิ้งให้ลำบากยากจน ศูนยดำรงธรรมก็มีไว้ให้ผู้ร้องเรียนรายงานตัว เพื่อแจ้งให้ท้องถิ่นที่ทุจริตถูกร้องเรียนออกใบสั่งตายให้ผู้ร้องเรียนเอง ฆ่าผู้ร้องเรียนไม่ได้ก็หาทางกลั่นแกล้งไม่ให้เจริญก้าวหน้าขึ้นไปขัดขวางทางทุจริตที่เขาสร้างไว้ได้ ข้าราชการที่มาจากลูกหลานอาชีพเกษตรจึงไม่มีโอกาสเจริญก้าวหน้าในสังคม เขากลัวจะรู้ความจริง กลัวเสียผลประโยชน์ที่เคยได้จากการทุจริต นี่คือ อนาคตบ้านเมืองยังมุ่งสู่ความวุ่นวายขัดแย้งต่อไป  หิริโอตตัปปะ ใช้ไม่ได้ ไม่มี เขาทำดีแต่ต่อหน้าประชาชนเพื่อหลอกให้เชื่อ เสนอหน้า ความจริงทำชั่วไม่เคยพูด ไม่ใช่กัลยาณมิตรแน่นอน เกษตรกรคบหาแต่มิตรเทียม เขาล่อด้วยของแจก จึงตกเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ทางการเมือง ทางการค้า ทุกครั้ง นี่คือ เกษตรกรไม่รู้เขา ไม่รู้เรา รบ 100 ครั้ง ก็แพ้ 100 ครั้ง ทั้ง ๆ ที่มีคนมากกว่ายังแพ้คนน้อยกว่า จนกว่า เพราะจนปัญญาจึงจนทรัพย์สิน ยินดีไปประท้วงไปตายแทนคนอื่นทั้ง ๆ ที่ถูกหลอกมาตั้งแต่ต้นก็ไม่รู้สึกตัว แยกแยะดีชั่วถูกผิดไม่ออก มีคนเตือนก็ไม่พอใจ เพราะใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งวัดกันด้วยความพอใจ ขาดสติจึงไร้ปัญญา เรียกชัด ๆ คือ โง่ ผมพูดอย่างนี้แล้วถ้ารู้สึกโกรธใช่เลยครับ พุทธถือว่าเป็นคนพาล  คะแนนอยู่ในมือตัวเอง ข้าวอยู่ในนาตัวเองก็ยังยกให้คนอื่น ไม่มีปัญญาจะหายังรักษาไม่ได้ ใช้อำนาจไม่เป็น อำนาจในมือจึงเป็นภัยแก่ตัวเอง ท่านเห็นมติส่วนใหญ่ในสภาทำเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ที่เลือกเข้าไปอย่างไรบ้าง  ถ้าทำตามที่มาหาเสียงเมียงไทยไม่มีคนจนแล้วครับ โถส้วมเขายังทำด้วยทองคำได้เลย นี่กินเลือดกินเนื้อกินแรงงานทุกหยาดหยดจนกระดูกสันหลังของชาติมีแต่กระดูกหุ้มด้วยหนังเหี่ยว ๆ เพราะเราไม่ใช่คนไทยด้วยกันใช่มั้ย? จึงทำกันแบบนี้  กลยุทธ์ที่ใช้ประจำเวลาเกิดความขัดแย้ง คือ อ้างความสามัคคีเพื่อให้เรื่องสงบลง แล้วก็ไม่แก้ไขปัญหาให้จริงจังจบสิ้นไป ปล่อยให้คนในสังคมเอาเปรียบกันต่อไป หาวิธีใหม่มาโกงกันต่อ ความถูกผิดคุยกันได้ ซื้อกันได้ แบบนี้เป็นการส่งเสริมสร้างวัฒนธรรมให้คนกล้าทำผิด มันจะสงบสันติสุขได้อย่างไรละ ผลของมันคือ ถ่วงความเจริญของบ้านเมือง ปัญหาเก่าจึงไม่เคยหมดไป ปัญหาใหม่จึงเกิดแล้วเกิดอีก ก็เพราะเราไม่กล้าที่จะนำสังคมไปสู่เส้นทางแห่งความเจริญสันติสุขกัน ตกอยู่ใต้อำนาจกิเลส ตัณหา ราคะ รักโลภ โกรธ หลง อคติ เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ไม่ยอมเจริญ ไม่ยอมหลุดพ้นจากต้นเหตุปัญหา (นิพพาน) ไม่แจ้งในอริยะสัจ ไม่เห็นอริยะมรรค 8 ในสังคมอริยะจะไม่มีคนจนคนรวยแตกต่างกัน  คุณกล้าทำให้บ้านเมืองเจริญทั้งหมดมั้ยเล่า นี่คือจุดวัดความโลภของผู้นำสังคม เป็นเส้นทางคับแคบ (จิตรใจแคบ) ที่จะตัดสินใจไปสู่สวรรค์บนดินคือความสุขสงบสันติธรรม ที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากเดินผ่านจุดนี้ คือ ทางไปสวรรค์มันแคบ รกด้วยปัญหา มากด้วยความโลภแบบนี้ ผู้คนไม่อยากเดิน ไม่ยอมเสียสละกิเลส ทุกคนอยากไปสวรรค์แต่พากันลงนรก (ขัดแย้งกันฆ่ากัน) ไม่กล้าเอาชนะปัญหาทั้งที่เป็นทางไปสู่สันติสุขร่วมกัน ฉลาดมั้ยเล่าที่ขัดแย้งกัน

เพราะไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม อาชีพบรรพบุรุษของไทยคือเกษตร  ผู้ที่เรียนรู้แล้วละทิ้งอาชีพเดิมอันเป็นพื้นฐานของบรรพบุรุษไม่ช่วยกันแก้ไขปัญหาทั้ง ๆ ที่โตมาจากข้าว ซ้ำร้ายยังใช้ความรู้ที่มีอยู่กลับไปเอาเปรียบเกษตรกรทางการเมือง ทางการค้า  ทางสังคมอีก การทุจริตในราชการ ถือว่าเป็นคนเนรคุณบรรพชน เป็นผู้บั่นทอนความเจริญมั่นคงของชาติที่แท้จริง  ผมมีหลายกลยุทธ์สำหรับยุทธศาสตร์หลายด้านในการแก้ไขปัญหาไม่ให้เกษตรกรย้อนกลับมาจนอีก ใคร ๆ ก็ไม่กล้าทุจริต  ด้วยวิธีง่าย ๆ ได้ผลเด็ดขาด แต่งานใหญ่ไม่ใช้ผมทำคนเดียวได้ คือเหตุที่ท่านและผมต้องช่วยกันทำไงครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนสนับสนุน และช่วยแสดงความคิดเห็น  ถ้าประเทศไทยมีวาสนาผมคงมีโอกาสทำงานนี้ร่วมกับท่าน ไม่ใช่อยากดัง แต่อยากแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมืองของเราเพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานครับ กรุณาสงบสติ อารมณ์ ไตร่ตรองความจริงดูจะรู้เอง ปัญหาเกิดจากธรรมชาติน้อยกว่าปัญหาที่มนุษย์สร้างขึ้น คนโลภจะหาวิธีโกง เบียดเบียนผู้อื่น

บกับทุกคำตอบจากทุกคำถามใน ปรัชญาเกษตรการเมือง ถ้าคิดแบบไม่มีกิเลส ตัณหา หูตาจะสว่าง ผลจะบังเกิดขึ้นได้จริงก็ตอนลงมือทำจริง ไม่ใช่คิดหาแต่วิธีจะโกงกิน มีคำพูดว่า "ไม่รู้จักโกงกิน อยู่กับท้องถิ่นไม่ได้" จริงครับ ผมเป็นปลัด อบต.รุ่นแรกปี 2540 ทุกวันนี้ผมก้าวหน้าลงมาเป็นรองปลัด ซี. ก็ไม่ขึ้น เขาป้องกันไม่ให้เจริญขึ้นไปขวางผลประโยชน์ที่ได้จากการทุจริต หน่วยงานกำกับดูแลท้องถิ่น อำเภอ จังหวัด เป็นผู้สอนการทุจริตให้กับท้องถิ่น และร่วมรับผลประโยชน์จากการทุจริตรวมถึงโบนัสด้วย ทุจริตกันเป็นทีม คือ นายก ปลัด คลัง ช่าง พัสดุ ผู้รับเหมา พร้อมหน่วยงานกำกับดูแล คอยช่วยเหลือกันให้พ้นผิดเมือถูกตรวจสอบ ร้องเรียนหน่วยงานไหนก็เงียบหาย ถ้าไม่ประจานทางทีวี จะไม่มีใครตรวจสอบ ถ้าสื่อมวลชนไม่ติดตามก็ทำไม่จริง รอให้เรื่องเงียบก็จบ ร้องเรียน ป.ป.ช. ป.ป.ช. ก็ส่งต่อให้ จังหวัด จังหวัดส่งต่อให้อำเภอ อำเภอก็ส่งให้ท้องถิ่นที่ทุจริตชี้แจง ลองนึกดูว่า คนทำผิดจะให้การทำร้ายตัวเองมั้ย แล้วระบบราชการก็เชื่อตามเอกสารราชการ ทั้ง ๆ ที่ส่งเอกสารปลอมให้ ทำไว้หลายชุด จบเรื่อง คนร้องจบ คนทุจริตอยู่ต่อก่อปัญหา เขาจึงกล้าซื้อเสียงเข้ามาหาทุนไว้ซื้อใหม่ ได้จากการทุจริตซื้อ จ้าง แน่นอนกว่าถูกหวย อยากรวยเท่าไรก็ทำเองได้ หลักฐานก็จับไม่ได้นอกจากคนภายในด้วยกัน



ความเห็น (14)

ข้อมูลที่สื่อสารแลกเปลี่ยนเรียนรู้นี้ คนจนตัวจริงที่เป็นเจ้าของปัญหามีโอกาสเข้าถึงสาระนี้น้อยมา ผู้เขียนจึงขอฝากท่านผู้รู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเนื้อหากรุณาช่วยบอกกล่าวสู่เกษตรกร เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพของประเทศให้เข้มแข็งแข่งกับต่างชาติ เนื้อหาทั้งหมด  2,300 หน้า ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริงที่เป็นไปได้ เพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณะ

เด็กพะเยา มหาลัยพะเยา

แล้วจาสามารถบอกกล่าวกับชาวนาได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่ได้เป็นใหญ่ แล้วถ้าแก้แค่ที่ตัวเรา ก้อคงจะทำไม่ได้ ช่วยแนะทีครับ

เด็กพะเยา มหาลัยพะเยา

ถ้าเราตื่นพร้อมกันอย่างมีสติ แล้วนี่คือสิ่งสำคัญ นักการเมืองเขามีรายได้ดี (คนที่โกง) เขาจะยอมตื่นจากความรวยมาสู่ ความจริงที่ว่าตายไปไม่ได้เอาอะไรไปได้อย่างไรครับ

ตอบความเห็นที่ 2

แล้วจาสามารถบอกกล่าวกับชาวนาได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่ได้เป็นใหญ่ แล้วถ้าแก้แค่ที่ตัวเรา ก้อคงจะทำไม่ได้ ช่วยแนะทีครับ

ขอบคุณสำหรับคำถามครับ

การบอกชาวนาด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน จัดเวทีเสวนาตามชุมชนหมู่บ้านที่สนใจ ตามโรงเรียนชาวนา กลุ่มอาชีพวิสาหกิจชุมชน ถ้าเสนอ อบต.จัดอบรมที่ละตำบลยิ่งดีครับ ใช้ช่วงเวลาว่างมาเรียนรู้ คนที่จะบอกก็พวกเรากันเอง ผมยินดีเป็นวิทยากร ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน คนเป็นใหญ่เขาเป็นปลาใหญ่คอยกินปลาน้อยครับ เขาไม่บอกให้เรารู้ตัวกลัวเราตื่นครับ 78 ปี ที่เป็นประชาธิปไตยชาวนาไทยมีแต่จนมากขึ้น นี่คือหลักฐาน

การแก้ที่ตัวเราง่ายกว่าเราไปแก้ไขคนอื่น เมื่อเรียนรู้เข้าใจ มีเป้าหมายชัดเจน เห็นความเป็นไปได้ ตรงกัน เราก็จับมือกันเดินไปสู่ความสำเร็จ เช่นการสู้ทางการเมือง แบ่งกันตามผลประโยชน์ด้านอาชีพ ใครมีคะแนนมากกว่า ได้ตัวแทนมากกว่า ก็ได้ผลประโยชน์จากการเมืองมากกว่า ท่านลองดูจากหมู่บ้านว่า ในหมู่บ้านมี 3 อาชีพหลัก คือ เกษตรกร ข้าราชการ พ่อค้า อาชีพไหนมากที่สุด ในประเทศไทยก็เช่นกันครับ เกษตรกรมีคะแนนมากกว่า มาเสียตรงลงคะแนนให้อาชีพอื่นไปเป็นตัวแทนในสภา เสียผลประโยชน์จึงจนมาตลอด นักการเมืองท้องถิ่นส่วนมากเป็นเกษตรกรแต่ก็เดินตามหลังคนอื่นเป็นเครื่องมือให้เขา ที่เขาได้เป็นใหญ่เขาได้โกงได้รวยก็เพราะเราเลือกเขา เรามีอำนาจในมือแต่ใช้ไม่เป็น อำนาจที่ใช้ก็เป็นภัยแก่ตัวเราเอง ไม่แยกแยะมิตรแท้ มิตรเทียม ตามหลักกัลยาณมิตร ไม่รู้เขา ไม่รู้เรา จึงถูกหลอกเอาคะแนน ผลประโยชน์ทางการเมืองมันมาตามอาชีพครับ ถ้าเรารู้ตัวตื่นเป็นตัวของตัวเอง เรามีคะแนนมากกว่าเราชนะทางยุทธศาสตร์อยู่แล้ว เลือกแต่ตัวแทนจากอาชีพเดียวกัน คนส่วนใหญ่ก็มีตัวแทนส่วนใหญ่ มติเสียงส่วนใหญ่ในสภาคือตัวกำหนดการได้มาของผลประโยชน์จากการเมือง ไม่ใช่เลือกใครก็ได้ครับ ทำอย่างนี้เราชนะทุกที่ ทุกเวลา ทุกระดับ สั่้น ๆ ก่อนครับ

ตอบความเห็นที่ 3

ถ้าเราตื่นพร้อมกันอย่างมีสติ แล้วนี่คือสิ่งสำคัญ นักการเมืองเขามีรายได้ดี (คนที่โกง) เขาจะยอมตื่นจากความรวยมาสู่ ความจริงที่ว่าตายไปไม่ได้เอาอะไรไปได้อย่างไรครับ

ขอบคุณที่ให้เกียรติถามปัญหาครับ

ข้าวกินได้ ไม่มีเงินไม่ตายคนมีชีวิตมาแต่โบราณไม่ใช่เพราะเงิน เงินกินไม่ได้ครับ คนรวยผลิตเงินเองไม่ได้ เขาได้จากการเอาเปรียบเราเขาจึงรวยได้ ถ้าเรารู้ทันไม่ยอมเสียเปรียบ เขาก็เอาเปรียบเราไม่ได้ เขาก็จะไม่รวย รู้เท่ากินครึ่ง รู้ไม่ถึงกินหมด แค่เราตื่นเขาก็ดับแล้วครับ เราต้องจัดอบรมติดอาวุธทางปัญญาก่อน เหมือนเล่นหมากรุกอย่าเดินตามหมากที่เขาบงการ เขาไม่ตื่นเราจะแก้ง่ายไม่ถูกรบกวน มองหาทางสู้อย่ามองหาแต่ทางแพ้ เราสามารถปล่อยให้เขาอดตายบนกองเงินได้ครับ ดูแขกขายน้ำมันยังรวยได้ เราขายข้าวยังจน ข้าวกับน้ำมันอะไรสำคัญกว่า ถ้าคิดผิดก็จะเข้าใจผิด นี่เพราะเราขายไม่เป็นถึงจนครับ น้ำมันก็กินไม่ได้ เขากลัวเราไม่ขายข้าวให้กิน เมื่อประเทศผลิตอาหารร่วมมือกันไม่ขาย ใครอดตาย นี้เพราะเราคุ้นเคยจนลืมความสำคัญของตัวเอง ไม่ยุทธปัจจัยประเภทอาหารกองทัยก็พ่ายแพ้แค่ตัดเสบียงครับ ถ้าสนใจคุยกันต่อได้

<p>เครื่องมือที่แก้ไขปัญหาได้ดีทีาสุด คือ ปัญญา ครับ ไม่ใช่ความเป็นใหญ่ของใคร  คนเป็นใหญ่มีมานานแล้วใช้แก้ปัญหาไม่ได้เพราะไม่มีปัญญา เมืองไทยจะล่มจมเพราะแย่งกันเป็นใหญ่ ไม่แย่งกันแก้ไขปัญหา คำว่า "ถ้าแก้แค่ตัวเราก็คงทำไม่ได้" ขออธิบายอย่างนี้ครับ ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ไม่ใช่ทุกทางออกมีแต่ปัญหา ประเทศไทยมีเกษตรกเป็นคนส่วนใหญ่ คะแนนเสียงของคนส่วนใหญ่เลือกตัวแทนอาชีพของตนก็จะได้คนส่วนใหญ่ในสภา กติกาการเมืองคือ ทำตามมติของเสียงส่วนใหญ่ รัฐบาลบริหารประเทศก็ใช้เสียงส่วนใหญ่ ผลประโยชน์จึงตกแก่คนส่วนใหญ่ได้  หัวใจของการเมืองระบอบประชาธิปไตย คือ การได้ผลประโยชน์จากการเมืองไปแก้ไขปัญหา ด้วยการใช้สิทธิเพื่อรักษาผลประโยชน์ แสวงหาผลประโยชน์ให้กับอาชีพของตัวเอง เกษตรกรสามารถเป็นรัฐบาลได้ง่ายมากทุกสมัยถ้ารู้เขารู้เรา นี่ไงครับการตื่นพร้อมกันอย่างมีสติ ปัญหาของเราจึงจะได้รับการแก้ไข แค่เราเปลี่ยนแปลงตัวเองเกษตรกรก็ได้เป็นใหญ่ ได้ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ เราต้องพึ่งตนเองแบบนี้ตื่นพร้อมกันอย่างมีสติ กำหนดตัวเอง ใครไม่ดีก็ให้ออกไปหาคนใหม่ที่ดีกว่าเข้ามา ต้องควบคุมตรวจสอบการเมืองทุกขั้นตอน ไม่ใช่รอให้ใครมาสั่งอย่างที่ผ่านมา ต้องให้ราชการรณรงค์ให้กากบาท เลือกคนดี มีเปอร์เซ็นคนมาลงคะแนนแข่งกัน เปลืองงบประมาณแบโง่ ๆ เด็กปัญญาอ่อนก็กาบาทได้ นี่คือความไม่รู้หรือไม่จริงใจประมาณนั้น เขาไม่มีใครบอกให้เรารู้ ทำอย่างไร เลือกตั้งใครจึงจะได้หัวใจของการเมือง เพราะต้องการหลอกเอาคะแนนจากเราเข้าไปเป็นใหญ่เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตน  เกษตรกรถึงจนมาตลอดปัญหาจึงไม่ได้รับการแก้ไข เพราะไม่ได้เข้าไปแย่งกันแก้ปัญหาครับ เมืองไทยยังไม่มีใครอยากพัฒนาบ้านเมืองจึงซื้อเสียงเข้ามา ไม่มีใครอยากพัฒนาถึงกับต้องฆ่ากันให้ตาย คนที่เคยเป็นใหญ่เขาหลอกใช้เราเป็นเครื่องมือเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์จากการเมือง เขาเป็นนักธุรกิจการเมืองครับ เราแค่ดูเขารวย ช่วยเขาทำ ผลกรรมจึงตกอยู่ที่เรา เพราะเรายอมให้คนอาชีพอื่นเขาบงการ เป็นการเมืองแบบเดินตามไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่พึ่งตนเอง เพราะเกษตรกรไม่รู้จักการเมืองจริง แม้เห็นก็ไม่รู้ ดูก็ไม่เข้าใจ ใช้ก็ไม่เป็น จึงถูกเขาหลอก ผลประโยชน์ส่วนใหญ่จึงตกแก่คนส่วนน้อย การพึ่งเขาเราจึงแย่ ปัญหามีไว้แก้ ไม่ใช่มีไว้ขาย ประชาธิปไตยไม่ใช่มีไว้ขายเสียง ไม่สามารถสร้างได้ด้วยเงิน หรือการลากจูง ชักนำ ชี้นำ  ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นอิสระของตัวเองตามกลุ่มผลประโยชน์แต่ละอาชีพ  ความยากจนจึงสามารถแก้ไขได้ด้วยประชาธิปไตย มีหลาย 10 วิธีที่จะทำให้รวย แต่บอกแก่สาธารณะแบบนี้ไม่ได้ เพราะจะทำให้เขารู้เรา แต่เราไม่รู้เขา พูดไปจะทำให้เกษตรกรพ่ายแพ้  ต้องพูดกันเฉพาะภายในกลุ่มเกษตรกรโดยตรงครับ ผมตื่นมานนานรอแต่ท่านจะพาไปบอกกล่าวพี่น้องเราเท่านั้นเอง </p>

มีชาวนาที่รวยทรัพย์ ชื่อชัยพร อยู่ทางสุพรรณ และทองเหมาะ แจ่มแจ้งครับ และได้ข่าวว่าหลายรายรวยความสุขแบบพอมีพอกิน

ไม่ง้อใครเลย สบายไปเป็นคนๆ

ขอบคุญท่านโสภณ ที่กรุณาให้เกียรติแวะมาเยี่ยมเยือน เศรษฐกิจพอเพียงดีอยู่แล้วผมก็เริ่มต้นจากตรงนี้จึงคิดต่อยอดออกมาครับ ผมคิดสกัดกั้นอยู่ข้างหน้าปัญหาเพื่อหยุดยั้งความเสียเปรียบ ทุกวันนี้เราเดินตามหลังปัญหาแก้ปัญหาตลอดทุกเรื่อง ปัญหาเก่ายังไม่หมดไปปัญหาใหม่ก็ตามมาไม่จบสิ้น  ศีล สมาธิ สติ ปัญญา คนส่วนใหญ่ยังมีไม่มากจำเป็นต้องคิดอ่านมองการณ์ไกลจะได้ช่วยกันพัฒนาไทยให้เจริญเร็ว ฝึกใช้สมองคิดจะได้มีอายุยืนด้วยครับ  พิชัยสงคราม 13 บทไม่ได้ใช้ทีละบท 36 กลยุทธ์ไม่ได้ใช้ทีละกล คนไม่มีปัญญาใช้ได้แต่ไม่ดี แก้ปัญหาด้านเดียวไม่มั่นคง เพราะมองการณ์ไม่ไกลภัยจึงมาถึงเราในวันนี้ ไม่ว่าภัยเศรษฐกิจ ภัยสังคม ภัยการเมือง ภัยจากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภัยจากสุขภาพ ภัยการศึกษา ภัยจากเทคโนโลยี ส่งผลต่อความมั่นคงได้ทั้นนั้น ใครอยู่กับที่หนีปัญหาทับไม่พ้น ยินดีด้วยสำหรับผู้ที่รวยความสุขครับ

ชื่อหมง ชื่อ(เล่น)

เป็นอีกคนหนึ่ง ที่มีใบปริญญา เอามาไว้เป็น เครื่องรับจ้างเขากิน แต่ผมกำลังเริ่ม ส่งความรู้กลับบ้านเกิดที่อุดรฯ ครับ คือ ให้ความรู้ให้โอกาส สร้างความรู้ ความเข้าใจ  ในการ การทำอาชีพที่ไม่ต้องรับจ้างเขากิน  รวบรวม ญาต พี่น้อง ให้ร่วมมือกัน  เป็นการให้ อย่างแรกครับ ไม่รู้จะสำเร็จหรือเปล่า เพราะเขา ทำนา ขายข้าวให้ผมเรียน ควรจะกลับไปตอบแทน ซะหน่อย การให้เป็นสิ่งที่มีความสูขที่สุด ที่ผมเริ่มค้นพบ

คิดดีแล้วครับคุณหมง ขอให้ประสบผลสำเร็จ มีข้อมูลแลกเปลี่ยนกันได้ มีปัญหา ข้อมูลยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันครับ

ผมมีความสามารถแก้ไขปัญหา แต่วาสนาไม่มี ปลุกใครก็ไม่ตื่น เลือกตั้งปี 2554  คนโง่ยังตกเป็นเหยื่อของคนฉลาดต่อไป ถ้าสติปัญญาไม่เจริญ ก็อย่าไปหวังหาความเจริญ ถ้าคนที่เราเลือกไปเขาคิดว่าเป็นคนไทยด้วยกัน เป็นครอบครัวไทยเดียวกันก็คงเลิกเอาเปรียบกันนายแล้ว คงใช้ความจริงใจแข่งกันแก้ไขปัญหา หันมาเกื้อกูลกันปานนี้คงไม่มีคนจนแม้คนเดียว  ถ้าเขามีปัญญาตั้งใจแก้ไขปัญหา  78 ปี ที่เป็นประชาธิปไตย ปัญหามันหมดไปนานแล้ว นี่คือผลที่เกิดจากปัจจัยอันมีสาเหตุให้คนมีสติได้คิดก่อนตัดสินใจ แม้ผมจะสงสารคนจน แต่เขาก็เป็นคนเลือกเอง ถ้าทำให้คนส่วนใหญ่ฉลาดไม่ได้ เมืองไทยก็เจริญไม่ได้ ผมมีทางแก้ไขแต่ไม่มีใครเอาด้วย ผมก็ช่วยใครไม่ได้ เห็นก็ไม่รู้ ดูก็ไม่เข้าใจ ใช้ก็ไม่เป็น (ประชาธิปไตย:ประเทศไทย)

ขัตติยธรรม หลายท่านรู้ว่าสงบวุ่นวาย ประชาธิปไตยหลายท่านรู้ว่าดี เอาชนะปัญญาดีกว่าเอาชนะกัน สมาธิ สติ ปัญญา คุณธรรมก็รู้ว่าดีกว่าใช้อารมณ์ แต่ทำไมไม่ใช้ ไม่เข้าใจ ใช้ไม่เป็น การแก้ปัญหาถ้าไม่ใช้ความจริงมันจะแก้ได้อย่างไร ยาดีขมปากแต่โรคหาย ยาหวานกินง่านแต่ตายทั้งเป็น จะเพ้อให้เลิศหรูขนาดไหน ถ้าเป็นไปไม่ได้ก็ไร้ค่า ทำไมละดีไปทำชั่วเสียได้ ทำไมไม่ยอมที่จะฉลาดกันเสียที น่าสงสารคนไทยหรือน่าสงสารประเทศไทยดีกว่า ปัญหาความยากจนถ้าใครแก้ไขไม่ได้ ผมจะอาสาแก้ไขเอง ถ้าคนจนติดต่อมา ผมจะไป อย่าเสียเวลากับการเมืองปัญญาอ่อน

คนดี ทางการเมืองของเรา คือ

อันดับที่ 1

เป็นคนอาชีพเดียวกัน - ไม่ใช่คนต่างอาชีพ

เป็นกัลยาณมิต - ไม่ใช่มิตรแทียม

เป็นคนดีตามปกติวิสัย - ไม่ใช่ดีตอนหาเสียงเลือกตั้ง

เป็นผู้นำปัญญา - ไม่ใช่ผู้นำปัญหา

เป็นคนรับผิดชอบ - ไม่ใช่รับแต่ชอบไม่รับผิด

เป็นสัตบุรุษ - ไม่ใช่ทุรบุรุษ

เป็นนักประชาธิปไตย - ไม่ใช่นักธุรกิจการเมือง

เป็นคนสุจริต - ปราบทุจริต

เป็นคนเคารพกฎหมาย - ไม่ใช่คนลบกฎหมาย

เคารพสิทธิ์ตนเองและผู้อื่น - ไม่ละเมิดด้วยกิเลสตัณหา

บ้าทำงาน - ไม่ใช่บ้าอำนาจ

ให้ความรู้ทางการเมืองทำให้คนฉลาดรู้เท่าทัน - ไม่ใช่หาเสียงด้วยวิธีโง่ ๆ ด่ากัน

แข่งขันแย่งกันทำงาน - ไม่ใช่แย่งกันโกง

เอาชนะปัญหา - ไม่ใช่เอาชนะกัน

อย่าเป็นผู้นำโง่ ๆ ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ประชาชนเดือดร้อน ถ้าทำไม่เป็น ทำไม่ได้ลาออก อย่ารอให้ไล่ออก อย่ายอมตายคาเก้าอี้บ้านเมืองเสียเวลามามากแล้ว




พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท