วันที่ 16 สิงหาคม 2553 ได้มีโอกาสไปประชุมอบรมเรื่อง “การสร้างและใช้แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ (Strategic Route Map) เพื่อกำหนดทิศทางสู่ความสำเร็จในการพัฒนาสุขภาพประชาชน” โดยอาจารย์สุทธิพงษ์ วสุโสภาพล สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ที่โรงแรมพิมาน จ.นครสวรรค์
เริ่มจากอาจารย์เกริ่นถึงเรื่องเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาองค์กร ซึ่งอาจารย์ สรุปว่า
จากนั้นอาจารย์ทบทวนเรื่อง Balance score card (ลิขิตสมดุล) ให้ โดยอาจารย์กล่าวสรุปถึง BSC ว่า
กล่าวโดยสรุปอาจารย์บอกว่า BSC = Focus + Alignment
BSC มี 4 มิติคือ Financial, Customer, Internal process และ Learning and growth องค์กรที่มีเป้าหมายต่างกันจะมีจุดเน้นที่แตกต่างกัน เช่นองค์กรภาคเอกชนจะเน้นเรื่อง Financial ส่วนองค์กรของรัฐจะเน้นในเรื่อง customer หรือ Streakholder มากกว่า เป็นต้น
ต่อมาอาจารย์พูดถึงแผนที่ยุทธศาสตร์ (strategic Map) (ไม่ใช่แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์นะครับ) ซึ่งมีองค์ประกอบดังนี้
ส่วนแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ (Strategic route map) อาจารย์สรุปวิธีการสร้างดังนี้
1. เริ่มจากเป้าประสงค์ (อาจารย์บอกว่าพูดง่าย ๆ ว่ายุทธศาสตร์คือการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นอยากเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก็คิดสิ่งนั้นออกมาเป็นเป้าประสงค์ และต้องแยกให้ออกระหว่างเป้าประสงค์กับวัตถุประสงค์)
2. จากนั้นกำหนดเป็นกลยุทธ์ ซึ่งคือวิธีการทำอย่างไรเพื่อบรรลุถึงเป้าประสงค์ (อาจารย์บอกไม่ควรเกิน 5 และน้อยกว่า 3 และมีกำหนดระยะเวลา 3-4 ปี)
3. จากกลยุทธ์ จะทอนเป็นการกำหนดกิจกรรม ซึ่งประกอบด้วยมาตรการทางวิชาการ (จากผู้รู้) และมาตรการทางสังคม (จากประชาชนหรือชุมชน) ซึ่งมีกำหนดระยะเวลา 1-2 ปี ซึ่งเรียกว่าเป็นแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ฉบับปฏิบัติการ (Strategic linkage model) อาจารย์บอกว่า SLM นี้สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ และนำไปสู่แผนปฏิบัติการ (Plan of action)
4. จากนั้นจึงกำหนดตัวชี้วัด ซึ่งมีหลายระยะ มีทั้งวัดในหน่วยงาน และชุมชน
อาจารย์ได้กำหนดการเชื่อมโยงกับทฤษฏี 3 ก. โดย
กรรมการ
2. กระบวนการบริหารจัดการ 1. สมรรถนะขององค์กร
กองทุน กำลังคน
3. บทบาทภาคีเครือข่าย (รัฐ และเอกชน)
โดยทั้ง 1 + 2 + 3 จะต้องสอดคล้องกันด้วยแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นการสร้างบทบาทใหม่ของคนในสังคม จากองค์ประกอบของแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์
ประชาชนมีบทบาท --- การสร้างบทบาทและโครงสร้างของชุมชน
--- ระบบการเฝ้าระวังและมาตรการทางสังคม
ภาคีแข็งแรง --- กลุ่มที่สนับสนุน ---- เงิน การเมือง วิชาการ
การบริหารจัดการที่ดี --- ระบบ,การใช้แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ , การสร้างนวัตกรรม
รากฐานที่แข็งแรง --- ข้อมูล , บุคลากร , องค์กรมีมาตรฐาน , สมรรถนะ
สรุป SRM คือเครื่องมือในการบริหารจัดการยุทธศาสตร์ (Focus+Align) ที่สามารถสื่อสารเข้าหากันและเป็นในทิศทางเดียวกัน ร่วมกับการมีระบบวัดติดตามดูความสำเร็จที่สามารถวัดได้
ความสำคัญอยู่ที่การเคลื่อนไหว ทำให้เกิดการลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง เป็นกระบวนการที่เข้ากับคนในพื้นที่ได้
เรื่องยังไม่จบมีต่อนะครับ
ดีจังที่หมอก้องนำมาเล่าสู่กันฟัง จะได้รู้ด้วย...เพราะว่าไม่ได้ไปประชุมด้วย คนที่บ้านก็ไม่คุยกันเรื่องนี้
ดีแล้วที่ไม่คุย ไม่อย่างนั้นจะต้องเอา SRM ไปใช้ที่บ้าน แล้วจะยุ่งนะ